ก.ล.ต.เผยลงโทษทางแพ่ง 4 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น TAPAC เรียกค่าปรับ 3 ล้านบาท
ก.ล.ต.เผยใช้มาตราการทางแพ่งบุคคล 4 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น บริษัท ทาพาโก้ จำกัด (มหาชน) (TAPAC) โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 3,135,871.25 บาท
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย.60 ที่ผ่านมา ทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับบุคคล 4 ราย ประกอบด้วย (1) นายสุรชัย สุวรรธนะกุล (2) นางอรทัย แซ่ตั้ง (3) นายสมศักดิ์ สราวุธวัฒนากร และ (4) นางสาวพิชญฎา พิชญรมณ์ (เดิมชื่อนางสาวสุธาสินี นันทภัคประสิทธิ์) กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท ทาพาโก้ จำกัด (มหาชน) (TAPAC) โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 3,135,871.25 บาท
โดยทางก.ล.ต. เผยว่า ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ถึง 17 มีนาคม 2558 นายสุรชัย นายสมศักดิ์ และนางอรทัย ซึ่งเป็นลูกค้า ได้ร่วมกับนางสาวพิชญฎาซึ่งขณะกระทำผิดเป็นผู้แนะนำการลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง สร้างราคาหุ้น TAPAC โดยส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น TAPAC ในลักษณะกระตุ้นให้ราคาหุ้นมีการเคลื่อนไหว โดยกำหนดกรอบราคาให้นักลงทุนซื้อขาย ด้วยการจับคู่ซื้อขายกันภายในกลุ่มในราคาต่ำ ทำให้นักลงทุนหลงผิดไปว่าหุ้น TAPAC มีการซื้อขายมาก หรือมีราคาเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวทำให้การซื้อขายหุ้น TAPAC ไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด
ก.ล.ต. ระบุว่าการกระทำของบุคคลทั้ง 4 ราย เป็นการสร้างราคาหุ้น TAPAC เป็นความผิดตามมาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 ซึ่งมีระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และมาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่งนำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาบังคับใช้กับผู้กระทำผิด และผู้กระทำผิดทั้ง 4ราย ได้ทำบันทึกยินยอมรับมาตรการลงโทษทางแพ่งและปฏิบัติตามบันทึกยินยอมดังกล่าวครบถ้วนแล้ว โดยนายสุรชัยชำระค่าปรับทางแพ่งจำนวน 1,635,871.25 บาท ส่วนนางอรทัย นายสมศักดิ์ และนางสาวพิชญฎา ชำระค่าปรับทางแพ่งรายละ 500,000บาท ซึ่งเงินค่าปรับทางแพ่งนี้ เป็นรายได้แผ่นดินที่ ก.ล.ต. นำส่งกระทรวงการคลัง
นอกจากการถูกลงโทษด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งดังกล่าว ก.ล.ต. สั่งห้ามนายสุรชัย และนายสมศักดิ์ เป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนเป็นเวลา 2 ปี และ 1 ปี ตามลำดับด้วย