นายกเทศมนตรีเมืองเก่า เสนอโมเดลหากใช้ลุ่มภาคกลางรับน้ำ รัฐต้องชดเชยชาวนาคุ้ม
สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทยถกช่วยภัยพิบัติ นายกเทศมนตรีบางบาลเสนอหากรัฐบาลใช้ลุ่มภาคกลางแบกรับภาระน้ำ ต้องชดเชยคุ้มให้ชาวนาอยู่รอด เสนอออกกฏหมายทำนา 8 เดือน รับน้ำ 4 เดือน
นายศุภสัณห์ หนูสวัสดิ์ กรรมาธิการสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย(ส.ท.ท.) เปิดเผยว่าสถานการณ์น้ำท่วมได้สร้างความเสียหายในพื้นที่เทศบาลทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 80,000 ล้านบาท บางแห่งเสียหายมากเกินกว่าเทศบาลพื้นที่นั้นจะช่วยตัวเองได้ และด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณทำให้รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยเหลือ
นายสมบัติ ชนะสิทธิ์ กรรมาธิการ ส.ส.ท. กล่าวว่าในวันที่ 10 พ.ย.นี้ ส.ส.ท.จะประชุมกรรมาธิการ มีการพิจารณาหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือและดูแลสมาชิกที่ประสบภัยพิบัติทั้งลมหนาว น้ำท่วมและพายุ เชื่อว่าภัยธรรมชาติจะทวีความรุนแรงขึ้นแน่นอน หากไม่มีมาตรการรองรับ
ด้านนายชูเกียรติ บุญมี นายกเทศมนตรีตำบลบางบาล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าหากรัฐบาลจะใช้พื้นที่พระนครศรีอยุธยารับน้ำเหนือหลากในการแก้ปัญหาอุทกภัย ก็ต้องทำให้คนที่แบกรับน้ำอยู่รอด ทำให้เกิดความเต็มใจที่จะแบกรับภาระ โดยทำความเข้าใจกับชุมชน เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบในการดำเนินชีวิต มีหนี้สินติดตัวจากภาวะน้ำท่วม
นายสมบัติ กล่าวอีกว่า หากหลายฝ่ายมองว่าพื้นที่ลุ่มต่ำภาคกลางเหมาะรับน้ำ ก็ต้องปรับปรุงพื้นที่ โดยไม่ต้องเวนคืนพื้นที่สร้างแก้มลิง แต่ทำพันธสัญญาระหว่างกรมชลประทานและชาวนา หรือออกกฎหมายว่าในรอบ 1 ปี ชาวนาขอเวลา 8-9 เดือนทำนาปรัง 2 รอบการผลิต โดยรัฐบาลต้องจัดหาน้ำให้ และอีก 3-4 เดือนช่วงน้ำเหนือหลาก ชาวนาจะหยุดทำนาให้ใช้เป็นพื้นที่รับน้ำ อาจปรับมาทำประมงแทน โดยรัฐบาลนำปลามาปล่อย เมื่อน้ำแห้งจะได้จับปลาขาย ส่วนชุมชนในพื้นที่รับน้ำ ต้องมีงบประมาณทำคันล้อมชุมชน หรือปรับปรุงบ้านทุกหลังให้มีใต้ถุนสูงพ้นน้ำ และยกระดับถนนโครงข่ายในชุมชนไม่ให้น้ำท่วมถึง พอหลังน้ำลดต้องให้เงินชดเชยบ้างเป็นสินน้ำใจ หากทำได้หลายทุ่งพร้อมร่วมมือ
ทั้งนี้ทุ่งนาขนาด 50,000 ไร่มีหลายพื้นที่ บางทุ่งมี 200,000 ไร่ หากมีพื้นที่รองรับน้ำสัก 10-20 แห่ง เชื่อว่าจะบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องภาคกลางได้.