ไฟต์บังคับปรับครม.'บิ๊กตู่ 5' จับตาปรับเล็กเปลี่ยนคน ปรับใหญ่สลับเก้าอี้?
"...ศึกวัดกำลังยกแรก 'บิ๊กบี้' ยอมงอไม่ยอมหัก ถอยตามคำขอของ 'บิ๊กตู่' แม้ตัวเองจะเจ็บช้ำ เพราะได้ให้สัญญากับข้าราชการกระทรวงแรงงานแล้วว่าจะไม่มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้ามห้วย มาทำให้การทำงานต้องลำบากใจกัน ทว่าศึกวัดกำลังยกสอง 'บิ๊กบี้' เลือกยอมหักไม่ยอมงอ ...ยอมจบศึกด้วยการเดินจากไป ทำให้เกิดไฟต์บังคับที่ 'บิ๊กตู่' ต้องปรับคณะรัฐมนตรี และเมื่อจำเป็นต้องปรับแล้วคงไม่ปรับเล็กแค่ตำแหน่งเดียว กระแสข่าวครม.ล็อตใหญ่คงกระเพื่อมกันอีก..."
ช่วงบ่ายวันที่ 1 พ.ย.60 ที่ผ่านมา คล้ายกับฟ้าผ่าลงกลางตึกไทยคู่ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อ 'บิ๊กบี้' พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางเข้าพบ 'บิ๊กตู่' พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้ามาก่อน
เป็นการเข้าพบ หลัง 'บิ๊กตู่' ออกคำสั่งม. 44 เด้ง 'วรานนท์ ปีติวรรณ' พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงแรงงาน ประกาศลงราชการกิจนุเบกษาช่วงบ่าย คล้อยหลังไม่เกิน 2 ชั่วโมง รถยนต์ส่วนตัวของ 'บิ๊กบี้' จอดเทียบเท่าตึกไทยคู่ฟ้าทันที
โดย 'บิ๊กตู่-บิ๊กบี้' ใช้เวลาพูดคุยกัน 15 นาที ก่อนแยกย้าย หลังจากนั้นกระแสข่าวก็ออกในทิศทางเดียวกันว่า 'บิ๊กบี้' ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรมว.แรงงานแล้ว พร้อมทั้งบรรดาทีมงานผู้ช่วยรัฐมนตรีแรงงานพาเหรดกันขอลาออกจากตำแหน่งทั้งหมด
ล่าสุดเวลาผ่านไป 24 ชั่วโมง ราชกิจจานุเบกษาลงประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี ให้ 'บิ๊กบี้' พ้นจากตำแหน่งรมว.แรงงานอย่างเป็นทางการ มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา วันเดียวกับคำสั่ง เด้ง 'วรานนท์ ' พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางานเช่นกัน (อ่านประกอบ : ราชกิจจาฯ ออกประกาศ พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน ลาออก)
ทั้งนี้หากยังจำกันได้ ศึกวัดกำลังระหว่าง 'บิ๊กตู่' VS 'บิ๊กบี้' เคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อ 'บิ๊กบี้' ชงคนในกระทรวงแรงงานให้นั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวงแรงงาน
แต่ 'บิ๊กตู่' ตัดสินใจไฟเขียวตามคำขอของ 'พี่เลิฟ' พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ส่งเด็กในคาถา 'จรินทร์ จักกะพาก' ข้ามห้วยมาคว้าเก้าอี้ปลัดแรงงานไปครองแทน
ศึกวัดกำลังยกแรก 'บิ๊กบี้' ยอมงอไม่ยอมหัก ถอยตามคำขอของ 'บิ๊กตู่' แม้ตัวเองจะเจ็บช้ำ เพราะได้ให้สัญญากับข้าราชการกระทรวงแรงงานแล้วว่าจะไม่มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้ามห้วย มาทำให้การทำงานต้องลำบากใจกัน
ทว่าศึกวัดกำลังยกสอง 'บิ๊กบี้' เลือกยอมหักไม่ยอมงอ เมื่อเชื่อว่า 'บิ๊กตู่' ได้รับข้อมูลจาก 'มือมืด' ที่สะกิดแผลเก่าเรื่องการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวที่รัฐบาลหวังว่าจะเร่งทำให้เสร็จ เพราะหากยังมีปัญหามีหวังเสียหน้ากันทั้งหมด (อ่านประกอบ : ไม่สนองตอบใช้ไบโอดาต้าแก้ปัญหาแรงงานพม่า!เผยเบื้องหลังบิ๊กตู่ เด้งฟ้าผ่าอธิบดีจัดหางาน)
เมื่อ 'บิ๊กบี้' ยอมจบศึกด้วยการเดินจากไป ทำให้เกิดไฟต์บังคับที่ 'บิ๊กตู่' ต้องปรับคณะรัฐมนตรี และเมื่อจำเป็นต้องปรับแล้วคงไม่ปรับเล็กแค่ตำแหน่งเดียว กระแสข่าวครม.ล็อตใหญ่คงกระเพื่อมกันอีก
ตำแหน่งรมว.แรงงานสปอร์ตไลท์จับไปที่ 'บิ๊กช้าง' พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม น้องรักอีกคนหนึ่งของ 'บิ๊กป้อม' พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ซึ่งที่ผ่านมารมว.แรงงานมักอยู่ในโควต้าของอดีตปลัดกลาโหม ทั้ง 'บิ๊กบี้' และ 'บิ๊กเต๋า' พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ส่วนรัฐมนตรีที่หนาวๆร้อนๆอยู่ในลิสต์อาจต้องปรับออกเบอร์หนึ่งคงหนีไม่พ้น 'ออมสิน ชีวะพฤกษ์' รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เดินเกมกล่อม 'บิ๊กตู่' ให้ปลด 'พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์' ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ออกจากตำแหน่ง
แม้ 'ออมสิน' จะทำสำเร็จ แต่โดนสายแข็งขวางเอาไว้ แถมครม.ต้องไฟเขียวรับ 'พงศ์พร' กลับตำแหน่งผอ.พศ.เหมือนเดิม แถมอำนาจกายสิทธิ์ของ 'พงศ์พร' ยังเพิ่มมากกว่าเดิม ทลายแก๊งค์โกงเงินทอนวัด สั่งวัดทำบัญชีวัดรูปแบบใหม่ จนทุกวัดไม่มีใครกล้าฮืออือ
เมื่อ 'ออมสิน' มีแววไม่รอดสูง ชื่อของ 'สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็มีความเสียงเช่นกัน เพราะเป็นหนึ่งในคีย์แมนรวมหัวกันเด้ง 'พงศ์พร' ที่สำคัญมีหลายคนปล่อยข่าวกันทั้งบนดิน-ใต้ดินว่า 'สุวพันธุ์' ทำงานช้าไม่ทันใจ-ไม่ชนแทน แตกต่างจากยุคของ 'บิ๊กต็อก' พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา อดีตรมว.ยุติธรรม ที่ต้องออกไปดำรงตำแหน่งองคมนตรี
หากยังจำกันได้ช่วงปรับครม. 'บิ๊กตู่ 4' ช่วงปลายปี 2559 ชื่อของ 'สุวพันธุ์' ไม่ได้อยู่ในลิสต์นั่งเก้าอี้รมว.ตราชั่งด้วยซ้ำ โดย 'บิ๊กตู่' ได้ทาบทาม 'พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์' มานั่งเก้าอี้รมว.ตราชั่ง แต่สุดท้าย 'พล.อ.กัมปนาท' ถูกแต่งตั้งให้เป็นองคมนตรี หวยจึงมาออกที่มวยแทนอย่าง 'สุวพันธุ์'
ขณะที่ตำแหน่งรัฐมนตรีในโควต้าของ 'สมคิด จาตุศรีพิทักษ์' รองนายกรัฐมนตรี ยังไม่มีความเคลื่อนไหวว่าจะมีการปรับเปลี่ยน แต่โจทย์อยู่ที่หากกางผลงานออกมาแล้ว รัฐมนตรีคนใดทำงานตอบโจทย์ 'บิ๊กตู่' ได้น้อยก็มีโอกาสหลุดเก้าอี้ได้เหมือนกัน
ส่วน 'รัฐมนตรีลายพลาง' มีกระแสข่าวหนาหูอาจจะถูกปรับออกล็อตใหญ่ แต่หากมองสไตล์การทำงานของ 'บิ๊กตู่' คงเป็นไปได้ยากที่จะปรับ 'พี่-น้อง' เลือดทหารออกจากตำแหน่ง หากจำเป็นจริงๆทางออกของ 'บิ๊กตู่' คงปรับย้ายเปลี่ยนกระทรวง
ที่สำคัญเมื่อเวลาของ 'รัฐบาลบิ๊กตู่' เหลือแค่ 1 ปี ก็คงยากมากที่จะทาบทาม 'บิ๊กเนม' ให้มานั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ขนาดทาบทามให้มาช่วยในตำแหน่งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ยังโดนทั้ง 'บิ๊กเนม-โนเนม' หลายคนบอกปัด
ดังนั้น 'พี่-น้อง' เลือดทหารจึงจำเป็นต้องอยู่ข้างกาย บิ๊กตู่' ต่อไป
ขณะที่การปรับครม. 'บิ๊กตู่ 5' ที่อาจจะเป็นการปรับครม.รัฐประหารครั้งสุดท้าย ต้องดูว่าจะออกมาหน้าตาอย่างไร หากปรับเล็กจะเน้นตัวบุคคลที่มีปัญหา หากปรับใหญ่อาจใช้สูตรสลับเก้าอี้ดนตรีอีกเหมือนเคย
หมายเหตุ : ภาพประกอบ จาก koratstartup.com