'บุญสร้าง' เผย ก.ตร.มีอำนาจเคาะชื่อ ผบ.ตร.แต่ต้องส่งให้ นายกฯ ไฟเขียว
'บุญสร้าง' เผยชงข้อเสนอ ผบ.ตร.คนเก่าเสนอชื่อ ผบ.ตร.ใหม่ให้นายกฯ พิจารณา เพื่อความโปร่งใสตามหลักประชาธิปไตย ระบุถ่วงดุลอำนาจสืบสวนสอบสวนยังไม่ได้ข้อสรุป นัดถกต่อ 6 พ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2560 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) มี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะ กมธ.ปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) เป็นประธาน เพื่อหารือเรื่องรายงานสรุปการรับฟังความเห็นประชาชน และผู้เกี่ยวข้อง ในการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมตำรวจ
ภายหลังการประชุม พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ผลการประชุมที่สำคัญ คือ ข้อเสนอเรื่องการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ได้กำหนดให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ที่มี ผบ.ตร.เป็นประธาน ทำหน้าที่พิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ขั้นตอนจะเริ่มตั้งแต่การให้ ผบ.ตร.คนที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง เป็นผู้เสนอชื่อตำรวจที่เหมาะสมเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ เข้าที่ประชุม ก.ตร.จะเสนอชื่อเพียงคนเดียว หรือจัดทำเป็นบัญชีรายชื่อก็ได้ จากนั้น ก.ตร.จะคัดเลือกให้เหลือเพียงคนเดียว เสนอต่อไปยังนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากในกรณีที่นายกฯ ไม่เห็นชอบกับชื่อที่เสนอขึ้นมา นายกฯ จะส่งชื่อกลับมายัง ก.ตร. แต่ถ้า ก.ตร.ยังยืนยันรายชื่อเดิมที่เสนอไปอีก จะต้องใช้มติ 2 ใน 3 ส่งไปให้นายกฯ อีกครั้ง ถ้านายกฯ ยืนยันว่าไม่ชอบชื่อเดิมอีก ก.ตร.ต้องชงชื่อคนอื่นขึ้นไปแทน ที่ใช้แนวทางนี้เพื่อให้ ผบ.ตร.ไม่ต้องอยู่ใต้อาณัติของฝ่ายใด การให้นายกฯ เป็นผู้พิจารณา จะช่วยให้โปร่งใสตามหลักประชาธิปไตยว่า ผบ.ตร.คนใหม่มีที่มาที่ไปอย่างไร ขณะที่เรื่องการถ่วงดุลอำนาจการสืบสวนสอบสวน ยังไม่ได้ข้อสรุป จึงต้องนัดประชุมเป็นพิเศษ อีกครั้งในวันที่ 6 พ.ย.พิจารณาเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ ซึ่งทุกเรื่องเกือบจบหมดแล้ว 80-90 เปอร์เซ็นต์