ไม่มีเจตนาพิเศษปล่อยทุจริต!เหตุผลเสียงข้างน้อยหนึ่งเดียวยกฟ้อง‘ยิ่งลักษณ์’คดีจำนำข้าว
“…ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่า จำเลยมีมูลเหตุชักจูงใจ หรือเจตนาพิเศษ เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฏหมายให้แก่กลุ่มของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด หรือนายอภิชาติ การละเว้นไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของจำเลยตามฟ้อง จึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หรือ พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1…”
คดีประวัติศาสตร์ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 5 ปี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กำลังถูกพูดถึงขึ้นมาอีกครั้ง
ภายหลังศาลฎีกาฯเผยแพร่คำพิพากษาฉบับเต็ม และคำวินิจฉัยส่วนตนของผู้พิพากษาในคดีดังกล่าว เนื่องจากหลายคนอาจทราบไปแล้วว่า คดีนี้องค์คณะผู้พิพากษาไม่ได้มีมติ ‘เอกฉันท์’ แต่มีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 ว่า ‘นารีขี่ม้าขาว’ มีความผิด
เสียงข้างน้อยเสียงเดียวคือ นายพิศล พิรุณ ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา ที่วินิจฉัยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้มี ‘เจตนาพิเศษ’ ในการปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากกลุ่มบริษัท สยามนอินดิก้า จำกัด ที่เป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการทุจริตระบายข้าวจีทูจีตัวจริง
สวนทางกับองค์คณะผู้พิพากษาอีก 8 ราย ที่เห็นว่า การกระทำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตขึ้น โดยเฉพาะการทุจริตระบายข้าวจีทูจี ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับการเตือนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) การอภิปรายไม่ไว้วางใจในรัฐสภา และการรายงานข่าวของสื่อก็ตาม
ทำไมนายพิศล พิรุณ จึงวินิจฉัยออกมาอย่างนั้น ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org มีคำตอบ ดังนี้
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฟ้องว่า การบริหารจัดการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของจำเลยในฐานะนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ และการที่จำเลยไม่สั่งระงับโครงการรับจำนำข้าว หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการเห็นว่า ผลการดำเนินโครงการประสบกับการขาดทุนนั้น เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่
โจทก์ (พนักงานอัยการ) ระบุกฎหมายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิดมา 2 ฉบับ คือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในหมวดความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และความผิดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ซึ่งบัญญัติว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษ …” ส่วนมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ก็บัญญัติทำนองเดียวกัน
เห็นว่า จากถ้อยคำในตัวบททั้งสองมาตราที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษดังกล่าว การกระทำผิดที่จะเป็นความผิดตามกฏหมายทั้ง 2 มาตรานั้น นอกจากผู้กระทำต้องเป็นเจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่รัฐ และต้องมีเจตนาปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแล้ว ผู้กระทำยังต้องมีมูลเหตุชักจูงใจหรือมีเจตนาพิเศษ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือต้องเป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตด้วย
กล่าวคือ ลำพังการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพียงอย่างเดียวนั้น ยังไม่ถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย 2 มาตราดังกล่าว หากจะเป็นความผิดข้อเท็จจริงต้องฟังได้ว่า ผู้กระทำมีมูลเหตุชักจูงใจ หรือมีเจตนาพิเศษเพื่อจะให้ผู้หนึ่งผู้ใดได้รับความเสียหายด้วย หรือมิฉะนั้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้น ต้องเป็นไปเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฏหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่นอันเป็นการกระทำ ‘โดยทุจริต’ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1 (1)
มูลเหตุชักจูงใจหรือเจตนาพิเศษทั้ง 2 กรณีดังกล่าว ผู้กระทำต้องประสงค์ต่อผลเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดโดยตรง หรือมุ่งแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยตรง มิใช่เพียงเล็งเห็นว่า จะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือเล็งเห็นว่าน่าจะมีเจตนาทุจริตเท่านั้น
คดีนี้จากทางไต่สวน โจทก์นำสืบว่า โครงการรับจำนำข้าว มีการทุจริตทุกขั้นตอน โดยเฉพาะขั้นตอนการระบายข้าว แต่ไม่ปรากฏพยานหลักฐานใดที่พอจะบ่งชี้ว่า จำเลยได้รับประโยชน์จากการทุจริตในการระบายข้าวดังกล่าว แม้ได้ความจากคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยทุจริต ว่า กลุ่มของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด (จำเลยที่ 10 คดีระบายข้าวจีทูจี) ได้รับประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการกระทำโดยทุจริตจากขั้นตอนการระบายข้าว
แต่ก็ไม่มีหลักฐานหรือข้อเท็จจริงใดที่พอจะชี้ให้เห็นว่า การทุจริตของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด จำเลยมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย หรือเหตุที่จำเลยไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวตามที่โจทก์ฟ้อง เป็นเพราะจำเลยต้องการเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด
ส่วนที่โจกท์นำสืบว่า เคยมีรูปของนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ปรากฏอยู่ในภาพการเดินทางไปเยือนฮ่องกงของนายทักษิณ ชินวัตร พี่ชายจำเลยนั้น เห็นว่า แม้จะมีเหตุการณ์ตามภาพเช่นนั้นจริง ก็ยังไม่เป็นหลักฐานเพียงพอรับฟังได้ว่า จำเลยมีความสัมพันธ์กับนายอภิชาติถึงขั้นจะยอมเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ซึ่งมีนายอภิชาติเป็นผู้ก่อตั้ง เพราะจากทางไต่สวนไม่ปรากฏพยานหลักฐานใดที่ส่อแสดงว่า จำเลยมีความสัมพันธ์กับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด หรือนายอภิชาติดังกล่าว
ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่า จำเลยมีมูลเหตุชักจูงใจ หรือเจตนาพิเศษ เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฏหมายให้แก่กลุ่มของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด หรือนายอภิชาติ การละเว้นไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของจำเลยตามฟ้อง จึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หรือ พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1
ส่วนผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว แม้จะฟังว่าก่อให้เกิดความเสียหายมากมายตามดังที่โจทก์ฟ้อง หรือฟังว่าไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย แต่เป็นประโยชน์แก่เศรษฐกิจของประเทศโดยรวมดังที่จำเลยต่อสู้ ก็ไม่ใช่สาระที่จะต้องนำมาพิจารณาว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ เพราะผลของโครงการ ไม่ใช่องค์ประกอบความผิดตามบทกฏหมายที่โจทก์ฟ้อง และประสงค์ให้ลงโทษ จำเลยจึงไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง
กรณีไม่จำเป็นต้องพิเคราะห์ว่า การดำเนินโครงการหรือการไม่ยับยั้งโครงการของจำเลยเป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ และไม่จำเป็นต้องพิเคราะห์ข้อต่อสู้อื่นของจำเลย เช่น เรื่องอำนาจฟ้อง หรือเรื่องเขตอำนาจศาลเช่นกัน เพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลง
จึงวินิจฉัยยกฟ้อง
อ่านประกอบ :
คำพิพากษาฉบับเต็ม!ไฉนศาลไร้อำนาจชี้จำนำข้าวถูกหรือผิด-ป.ป.ช. สอบ‘ปู’ลำพังได้
จำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา ศาลฎีกาฯ พิพากษา 'ยิ่งลักษณ์' คดีจำนำข้าว
บรรทัดสุดท้ายคดีจำนำข้าว!ล้วงเหตุผลสำคัญไฉนศาลสั่งคุก5ปี‘ยิ่งลักษณ์’ละเลยปัญหาทุจริต?
กาง กม.-ชนักติดหลังคนสกุล‘ชินวัตร’ เดิมพันสุดท้าย‘ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ’สู้ต่อ-หนีตลอดชีวิต?
เปิดสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนสยาม-อังกฤษ ช่องนำ‘ปู'กลับไทยติดคุกคดีข้าว กรณีอยู่ลอนดอน?
‘ยิ่งลักษณ์’ล่องหนไม่มีผลคดีค้างในชั้น ป.ป.ช. ‘วัชรพล’ยันไต่สวนปกติ-ปัดเร่งรัด
ชนักติดหลัง‘ยิ่งลักษณ์’ รวยผิดปกติ-สารพัดข้อหาใน ป.ป.ช.-ไม่จบแค่คดีข้าว?