ปิดคดีอุ้มฆ่า 'เอกยุทธ' ฎีกาคุก'พ่อบอล'1ปี4เดือนรับของโจร
ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุก 1 ปี 4 เดือน 'พ่อบอล-สันติภาพ' ข้อหารับของโจร คดีอุ้มฆ่า 'เอกยุทธ อัญชันบุตร' เป็นคนเดียวทียื่นฎีกา ขณะที่ 'บอล-เบิ้ม' ถูกจำคุกตลอดชีวิต
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 ต.ค. 2560 ที่ห้องพิจารณา 709 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีอุ้มฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง หมายเลขดำ อ.3307/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง อายุ 27 ปี, นายสุทธิพงศ์ หรือ เบิ้ม พิมพิสาร อายุ 32 ปี, นายชวลิต หรือเชาว์ วุ่นชุม อายุ 27 ปี, นายทิวากร หรือทิว เกื้อทอง อายุ 22 ป, จ.ส.อ. อิทธิพล เพ็งด้วง อายุ 55 ปี และนางจิตอำไพ เพ็งด้วง อายุ 52 ปี บิดา - มารดาของนายสันติภาพ ทั้งหมดเป็นชาว จ.พัทลุง ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,ใช้กำลังประทุษร้ายทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายและข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมกระทำการใดฯ, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพฯ, ร่วมกันปล้นทรัพย์, รับของโจร และพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรฯ รวมความผิด 8 ข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199 ,289 , 309 , 310 , 340 , 357 , 371 และพ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490
โดยอัยการโจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2556 ระบุความผิดสรุปว่า ระหว่างวันที่ 6 - 9 มิ.ย.2556 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันมีอาวุธปืนพกออโต้เมติก ขนาด .380 (9 ม.ม. KURZ) ทะเบียน กท.5203330 พร้อมเครื่องกระสุนและอาวุธมีด แล้วปล้นเอาทรัพย์สินของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร อายุ 59 ปี อดีตนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง รวม 9 รายการ มูลค่า 6.6 ล้านบาท โดยใช้อาวุธทำร้าย และหน่วงเหนี่ยวกักขังบังคับให้นายเอกยุทธ ออกเช็คเบิกถอนเงิน แล้วใช้เชือกรัดคอจน นายเอกยุทธ ถึงแก่ความตาย ก่อนนำศพไปไว้ในรถยนต์ตู้ ทะเบียน ฮพ 9304 ขับไปฝังไว้ใน ไร่นาสวนผสมทิ้งร้าง อ.เมือง จ.พัทลุง เพื่อปกปิดความผิด โดยมีจำเลยที่ 3-4 ช่วยขุดหลุมฝังศพ ส่วนจำเลยที่ 5-6 ซึ่งเป็นบิดา-มารดาของจำเลยที่ 1 เป็นผู้เก็บเงินสดของผู้ตาย จำนวน 4,242,000 บาทที่จำเลยที่ 1 นำไปฝากไว้ โดยจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี
ขณะที่ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2557 ให้ประหารชีวิต นายสันติภาพ หรือบอล และนายสุทธิพงศ์ หรือเบิ้ม จำเลยที่ 1-2 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ แต่คำให้การชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์อยู่บ้างจึงลดโทษ เหลือจำคุกตลอดชีวิต และให้จำคุกจำเลยที่ 1-2 ด้วยในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ คนละ 18 ปี และให้จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันชดใช้เงิน จำนวน 1.9 ล้านบาท ให้กับทายาทของผู้เสียชีวิตด้วย
ส่วนนายชวลิต หรือเชาว์ จำเลยที่ 3 มีความผิด ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และร่วมกันซ่อนเร้นศพฯ ให้จำคุก 13 เดือน โดยให้รวมโทษ ที่รอการลงอาญาไว้ในคดีเดิมอีก 6 เดือนด้วย รวมจำคุก 19 เดือน สำหรับนายทิวากร หรือทิว จำเลยที่ 4 ให้จำคุก 8 เดือน ฐานร่วมกันซ่อนเร้นศพฯ จำคุก 8 เดือน
ส่วน จ.ส.อ. อิทธิพล และ นางจิตอำไพ บิดา-มารดาของนายสันติภาพ จำเลยที่ 5-6 ให้ลงโทษฐานรับของโจร แต่จำเลยรับสารภาพ และช่วยติดตามนำเงินของมาคืนจำนวน 4.4 ล้านบาท จึงพิพากษาให้จำคุก 1 ปี 4 เดือน
โดยชั้นอุทธรณ์ จ.ส.อ. อิทธิพล และ นางจิตอำไพ บิดา-มารดาของนายสันติภาพ จำเลยที่ 5-6 ได้ยื่นอุทธรณ์สู้คดี ซึ่งทั้งบิดา-มารดาของนายสันติภาพ จำเลยที่ 5-6 ได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์
ส่วนนายสันติภาพหรือบอล และนายสุทธิพงศ์ หรือเบิ้ม จำเลยที่ 1-2 นั้น แม้ไม่ได้อุทธรณ์ แต่ศาลได้ส่งสำนวนให้ศาลอุทธรณ์ ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 ที่บัญญัติว่า ให้ส่งสำนวนคดีที่ลงโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตไปยังศาลอุทธรณ์เมื่อคำพิพากษานั้นไม่มีการอุทธรณ์และยังไม่ถึงที่สุด โดยนายสันติภาพหรือบอล และนายสุทธิพงศ์ หรือเบิ้ม จำเลยที่ 1-2 ถูกคุมขังในเรือนจำมาโดยตลอด
กระทั่งวันที่ 30 มิ.ย.2559 มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ปรับบทลงโทษของบอล สันติภาพ และเบิ้ม สุทธิพงษ์จำเลยที่ 1-2 จากฐานฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นการฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเพื่อประโยชน์และปกปิดกระทำเพื่อเลี่ยงให้พ้นคดีอาญา เป็นว่า กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199 , 289(7) , 310 วรรคแรก และ 339 วรรคสอง แต่การลงโทษยืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกตลอดชีวิตจำเลยที่ 1-2
ส่วนนายชวลิต หรือเชาว์ และนายทิวากร หรือทิว จำเลยที่ 3-4 ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ จึงรับโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและปัจจุบันนายทิวากร จำเลยที่ 4 รับโทษจำคุกครบแล้ว
สำหรับ จ.ส.อ. อิทธิพล และ นางจิตอำไพ บิดา-มารดาของนายสันติภาพ จำเลยที่ 5-6 นั้น ศาลเห็นว่า การอุทธรณ์ต่อสู้ประเด็นการรับเงิน 5 ล้านบาทจากนายสันติภาพ บุตรชาย จำเลยที่ 1 นั้นฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนว่ามีความผิดฐานรับของโจร ให้จำคุก 1 ปี 4 เดือนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ต่อมา จ.ส.อ. อิทธิพล บิดาของบอล สันติภาพ จำเลยที่ 5 ยื่นฎีกาสู้คดีขอยกฟ้องหรือลงโทษสถานเบา และได้รับการประกันตัวระหว่างฎีกา
และวันนี้ จ.ส.อ.อิทธิพล บิดาของบอล สันติภาพ จำเลยที่ 5 ก็เดินทางมาถึงศาลในเวลาประมาณ 11.00 น. เพื่อฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา
ขณะที่คำพิพากษาระบุ ว่า ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า ที่จำเลยที่ 5 ยื่นฎีกาขอให้รอการลงโทษนั้น ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติว่าจำเลยได้รับเงินของกลางจำนวน 4 ล้านบาท จากนางจิตอำไพ จำเลยที่ 6 ที่เป็นภรรยาและเป็นมารดาของนายสันติภาพ ซึ่งได้รับต่อจากนายสันติภาพ จำเลยที่ 1 โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการทำผิดกฎหมาย มาแบ่งเป็น 2 ส่วนนำไปซุกซ่อนฝังดิน โดยจำเลยที่ 5 ในฐานะบิดารู้ว่าบุตรของตนกระทำผิดกฎหมายกลับไม่ห้ามปราม และยังช่วยซุกซ่อนทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด ถือว่ามีส่วนให้เกิดอาชญากรรม เป็นเรื่องร้ายแรงต่อสังคม จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษ ที่ศาลล่างพิพากษาลงโทษนั้นชอบแล้วศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
ศาลฎีกา จึงพิพากษายืนตามที่ศาลอุทธรณ์ให้จำคุกจ.ส.อ.อิทธิพล จำเลยที่ 5 ที่เป็นบิดาของบอล สันติภาพ เป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน

