‘พล.อ.อุดมเดช’แจงสถานการณ์ใต้ดีขึ้นตามลำดับ

วันที่ 18 ต.ค. 2560 พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) และหัวหน้าผู้แทนพิเศษรัฐบาล เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ 2561 หลังสำนักงบประมาณ เห็นชอบจัดสรรงบประมาณแก่ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 54 หน่วยงาน 78 โครงการ 85 กิจกรรม ทั้งสิ้น 13,255,744,700 บาท

พล.อ.อุดมเดช ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า ตัวเลขงบประมาณที่จัดสรรไม่ได้มากอย่างที่คิด เป็นงบปกติเหมือนพื่นที่อื่นๆ ซึ่งจะต้องเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานนำงบไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปีที่ผ่านมาสถานการณ์ดีขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะคณะผู้แทนพิเศษรัฐบาลที่ลงไปช่วยขับเคลื่อน บูรณาการงานต่างๆ ซึ่งเกณฑ์ทำงานอยู่ในระดับที่พอใจ มีเพียงงานด้านความมั่นคง เรื่องการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ที่อยู่ในเกณฑ์ปานกลางเพราะยังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ ยังไม่สามารถควบคุมกลุ่มที่เห็นต่าง แต่หากดูในภาพรวมพบว่าสถิติลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนงานด้านการพัฒนา อยู่ระดับดี มีความก้าวหน้า งานเสริมสร้างความเข้าใจทั้งในและนอกประเทศ ก็ถือว่าทำได้ดี โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศที่ได้ชี้แจงให้ประเทศต่างๆเข้าใจสถานการณ์ในพื้นที่และวิธีแก้ปัญหาของรัฐบาล ซึ่งการการดำเนินงานต่างๆเดินมาได้ดีแล้ว ซึ่งจะนำแนวทางในปีงบฯ2560 มาใช้ในปี 2561 เพื่อให้สอดคล้องกัน 3 ประการ คือ ตรงตามนโนบายของรัฐบาล สอดคล้องกับพื้นที่ และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน

พลเอกอุดมเดช ชี้แจงงบประมาณ ในกลุ่มงานที่ 1 รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งได้งบประมาณกว่า 6,000 บาท ว่า จะอยู่ในส่วนของการดูแลสิทธิกำลังพล การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่จำเป็น เช่น โดรน หรือเสื้อเกราะกันกระสุน แต่กอ.รมน. ซึ่งเป็นผู้ใช้งบหลัก ก็ระมัดระวังอย่างยิ่งในการใช้งบประมาณ

ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ทุกครั้งว่ารัฐทุ่มงบประมาณจำนวนมาก ลงไปการแก้ไขปัญหาภาคใต้แต่สถาการณ์ก็ยังไม่สงบนั้น พลเอกอุดมเดช กล่าวว่า หากมองด้วยความเป็นธรรม และยุติธรรม ก็น่าเห็นใจผู้ปฏิบัติหน้าที่ ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ก็ยอมรับว่ายังคุมได้ไม่หมด ต้องแก้ปัญหาต่อไป ซึ่งเหตุการณ์ในภาคใต้มีทั้งเรื่องภัยแทรกซ้อนและอุดมการณ์ทางความคิด ถ้าหากเจ้าหน้าที่ไม่ทำอะไรเลย สถานการณ์อาจแย่ไปกว่านี้ และอาจนำไปสู่สิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น นั่นคือ การเสียดินแดน ดังนั้นขอให้ประชาชนเข้าใจและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็กำชับให้ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด