เจาะพฤติการณ์คดีใช้เงินยืมเท็จ! ก่อนสตง.ชงผู้ว่าฯปทุม ฟันอาญา นายกฯคลองหลวง-ปลัดเทศบาล
"... ปัจจุบันยังไม่ปรากฏข้อมูลเป็นทางการว่า ทางจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีนี้ หรือชี้มูลความผิดไปแล้ว จึงยังถือว่านายประเสริฐ ค่ายทอง และนางจุฑารัตน์ อิ่มชื่นศรี ปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวง รวมถึงข้าราชการเทศบาลเมืองคลองหลวงที่เกี่ยวข้องเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่..."
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข้อมูลไปแล้วว่า ในช่วงต้นเดือนมิ.ย.2560 ที่ผ่านมา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เพื่อแจ้งให้ดำเนินคดีอาญา และสอบสวนทางวินัยร้ายแรงกับ นายประเสริฐ ค่ายทอง นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยข้าราชการเทศบาลเมืองคลองหลวงจำนวนหลายราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุมัติให้ส่งใช้เงินยืมตามระเบียบราชการในปีงบประมาณ 2554-2555 จำนวน 22 สัญญา วงเงิน 57 ล้านบาท
อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ นายประเสริฐ ค่ายทอง ปรากฏชื่อเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่รัฐจำนวน 70 รายที่ ถูกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงนามในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 35/2560 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 9 อันเป็นผลทำให้ถูกระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่เป็นการชั่วคราวเพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นทางการ (อ่านประกอบ : สตง.ชงผู้ว่าฯปทุม ฟันอาญา-สอบวินัยร้ายแรง นายกฯคลองหลวง-พ่วงขรก.เพียบ คดีใช้เงินยืมเท็จ)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบรายละเอียดในผลสรุปรายงานการตรวจสอบกรณีนี้ ของสตง. ที่แจ้งถึง ผู้ว่าฯ จว.ปทุมธานี มานำเสนอให้สาธารณชน ได้รับทราบ ดังนี้
ที่มาและความสำคัญ
สตง.ระบุว่า ในปีงบประมาณ 2554-2555 เทศบาลเมืองคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้อนุมัติให้มีการยืมเงินงบประมาณเพื่อใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ซึ่ง สตง.ปทุมธานี ได้ตรวจสอบงบการเงินประจำปีงบประมาณ 2555 ของ เทศบาลเมืองคลองหลวง พบข้อสังเกตว่า จนถึงวันที่ 24 มกราคม 2556 ผู้ยืมยังไม่ส่งใช้เงินคืนจำนวน 22 สัญญา เป็นเงินทั้งสิ้น 57,865,300 บาท โดยในการยืมเงินดังกล่าว ผู้ยืมจะจัดทำบันทึกข้อความเพื่อขออนุมัติยืมเงินไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึงนายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า สัญญากู้ยืมเงินทั้ง 22 สัญญา แยกเป็น นายประเสริฐ ค่ายทอง นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง ได้อนุมัติให้ยืมเงินจำนวน 21 สัญญา เป็นเงิน 55,903,200 บาท ส่วนอีก 1 สัญญา นางจุฑารัตน์ อิ่มชื่นศรี ปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง ได้อนุมัติให้ยืมเงิน จำนวน 1 สัญญา เป็นเงิน 1,962,100 บาท
พฤติการณ์การกระทำความผิด
ในการยืมเงินดังกล่าว เมื่อครบกำหนดเวลาตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงินและการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ลูกหนี้ตามสัญญายืมไม่ได้ส่งใช้เงินยืมจนระยะเวลาล่วงเลยมานาน บางรายล่วงเลยมากว่า 2 ปี โดยมีผู้ยืมที่ไม่ส่งใช้เงินยืม จำนวน 12 ราย
หลังจากครบกำหนดส่งใช้เงินยืมตามระเบียบดังกล่าวแล้ว หัวหน้าฝ่ายบริหารงานคลัง และผู้อำนวยการกองคลัง ได้จัดทำบันทึกข้อความเสนอผู้บริหารเทศบาลเมืองคลองหลอง เพื่อขอให้เร่งรัดผู้ยืมส่งใช้เงินยืมของปี 2554-2555 จำนวน 9 ฉบับ ซึ่งได้มีการเร่งรัดมาโดยตลอด
โดยในบันทึกข้อความดังกล่าว มีการอ้างถึงระเบียบกระทรวงมหาดไทยที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่ง นางจุฑารัตน์ อิ่มชื่นศรี ปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวง ได้ลงนามเสนอนายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง ให้ดำเนินการตามเสนอ ขณะที่นายประเสริฐ ค่ายทอง ได้ลงนามสั่งการให้ดำเนินการตามเสนอ
อย่างไรก็ตาม ในการจ่ายเงินยืมและการอนุมัติให้จ่ายเงินยืมจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขว่า ผู้ยืมรับรองว่าจะปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งที่ได้กำหนดไว้สำหรับเรื่องนั้นและจะนำใบสำคัญคู่จ่ายที่ถูกต้องรวมทั้งเงินเหลือจ่ายส่งคืนตามที่กำหนด ถ้าไม่ส่งตามกำหนดจะชดใช้เงินหรือยินยอมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หักเงินเดือนค่าจ้าง บำเหน็จบำนาญ หรือเงินอื่นใดอันพึ่งได้รับจากองค์กรส่วนท้องถิ่นชดใช้เงินยืมนั้น และกรณีครบกำหนดการส่งใช้เงินยืมแล้วผู้ยืมยังไม่ชดใช้เงินยืม ให้ผู้บริหารท้องถิ่น มีอำนาจสั่งการให้ผู้ค้างชำระเงินยืมส่งใช้เงินยืมภายในกำหนดเวลาตามที่เห็นสมควร อย่างช้าไม่เกินสามสิบวัน
ถ้าผู้ยืมขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงไม่ยอมชดใช้เงินยืมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหักเงินเดือน ค่าจ้าง บำเหน็จบำนาญหรือเงินอื่นใดอันพึ่งได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นชดใช้เงินยืมนั้น ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 84 (2) (4) ซึ่งการที่ผู้ยืมไม่ส่งใช้เงินยืมภายในกำหนดจนระยะเวลาล่วงเลยมานาน และได้มีการเร่งรัดให้ส่งใช้เงินยืมจากหน่วยงานคลังจำนวนหลายครั้ง เป็นการแสดงให้เห็นพฤติการณ์ว่า ผู้ยืมจงใจหลีกเลี่ยงไม่ส่งใช้เงินยืม และจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าว
ขณะที่ นายประเสริฐ ค่ายทอง นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการสั่งการให้ผู้ค้างชำระเงินยืม ส่งใช้เงินยืมภายในกำหนดเวลาตามที่เห็นสมควร อย่างช้าไม่เกินสามสิบวัน ถ้าผู้ยืมขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงไม่ยอมชดใช้เงินยืมให้หักเงินเดือน ค่าจ้างบำเหน็จบำนาญ หรือเงินอื่นใด อันพึ่งได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นชดใช้เงินยืมนั้น แต่กลับไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดในระเบียบดังกล่าว จนระยะเวลาล่วงเลยมานาน เป็นการแสดงให้เห็นพฤติการณ์ว่าจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวเช่นกัน
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ในจำนวนผู้ยืมเงิน 12 ราย ดังกล่าว มีผู้ยืมจำนวน 3 ราย ที่ยังมีเงินยืมค้างชำระกับเทศบาลเมืองคลองหลวง ซึ่งหนึ่งในนั้น ปรากฏชื่อ นางจุฑารัตน์ อิ่มชื่นศรี ปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวง รวมอยู่ด้วย
แต่นายประเสริฐ ค่ายทอง ได้อนุมัติให้มีการยืมเงินสัญญาใหม่ ซึ่งถือเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 84 (3) และจากการตรวจยังพบด้วยว่า ในการใช้จ่ายเงินเพื่อดำเนินการโครงการต่างๆ ตามที่ได้มีการยืมเงินดังกล่าว จะต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามขั้นตอนที่กำหนดในระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยงานบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยจะต้องดำเนินการจัดหาผู้ขายหรือผู้รับจ้างตามวิธีที่กำหนดและจะต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อปฏิบัติการตามระเบียบ เมื่อผู้ขายหรือผู้รับจ้างส่งมอบพัสดุหรือส่งมอบงานจ้าง จะต้องมีการตรวจรับงานโดยถูกต้องครบถ้วนก่อน แล้วจึงดำเนินการเบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง ในฐานะเจ้าหน้าที่หรือผู้มีสิทธิ ซึ่งการจ่ายเงินจะต้องดำเนินการโดยหน่วยงานคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
แต่จากการตรวจสอบพบว่า นายประเสริฐ ค่ายทอง และนางจุฑารัตน์ อิ่มชื่นศรี ปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวง ได้อนุมัติให้ยืมเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเต็มจำนวนงบประมาณของโครงการนั้นๆ ซึ่งมีการนำเงินไปใช้จ่ายโดยไม่ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบดังกล่าว ไม่ได้มีรายงานขอซื้อขอจ้าง ไม่มีการอนุมัติให้จัดซื้อจัดจ้างจากผู้มีอำนาจ ไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อปฏิบัติตามระเบียบ มีการจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ขายหรือผู้รับจ้างตามอำเภอใจ โดยไม่มีการตรวจสอบคุณสมบัติและไม่มีการแข่งขันในการเสนอราคา ทั้งที่ ในการจัดหาบางรายการจะต้องดำเนินการโดยวิธีสอบราคา ทำให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างได้รับประโยชน์จากการได้เข้ามาเป็นคู่สัญญากับเทศบาลเมืองคลองหลวงโดยมิชอบ การกระทำดังกล่าวถือเป็นการปฏิบัติไม่ชอบด้วยระเบียบกระทรวงมหาดไทย
สตง.ยังระบุด้วยว่า ในช่วงที่สตง.เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า มีการส่งใช้เงินคืนแล้วจำนวน 4 สัญญา อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเอกสารการส่งใช้เงินยืมตามสัญญายืมเงินดังกล่าว พบว่า มีการจัดทำเอกสารหลักฐานส่งใช้เงินยืมเป็นเท็จ และมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นการทุจริต
ดังนั้น พฤติการณ์ของนายประเสริฐ ค่ายทอง นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง และนางจุฑารัตน์ อิ่มชื่นศรี ปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวง ถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปก่อนหน้านี้แล้วว่า สตง.ได้ส่งรายงานผลการตรวจสอบกรณีนี้ แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้ดำเนินคดีอาญา และสอบสวนทางวินัยร้ายแรงกับนายประเสริฐ ค่ายทอง พร้อมด้วยข้าราชการเทศบาลเมืองคลองหลวงจำนวนหลายราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุมัติให้ส่งใช้เงินยืม ทั้งที่เอกสารการส่งใช้เงินยืมเป็นเท็จไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่ปรากฏข้อมูลเป็นทางการว่า ทางจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีนี้ หรือชี้มูลความผิดไปแล้ว จึงยังถือว่านายประเสริฐ ค่ายทอง และนางจุฑารัตน์ อิ่มชื่นศรี ปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวง รวมถึงข้าราชการเทศบาลเมืองคลองหลวงที่เกี่ยวข้องเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อ นายประเสริฐ ค่ายทอง เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนี้ผ่านเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวหมายเลข 081-926-94XX แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ส่วนรายละเอียด การส่งใช้เงินคืนแล้วจำนวน 4 สัญญา ที่ถูกระบุว่า มีการจัดทำเอกสารหลักฐานส่งใช้เงินยืมเป็นเท็จ และมีพฤจิการณ์น่าเชื่อว่าเป็นการทุจริต ขอนำเสนอในตอนต่อไป