แอมเนสตี้ส่งจดหมายกระตุ้นอาเซียนเร่งแก้ไขวิกฤตโรฮิงญาอย่างจริงจัง
แอมเนสตี้ส่งจดหมายเรียกร้องให้อาเซียนจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อหาทางแก้ไขวิกฤตล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา ระบุที่ผ่านมายังมีท่าทีไม่ชัดเจน
วันที่ 6 ต.ค. 2560 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เรียกร้องให้ผู้นำประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงต่อชาวโรฮิงญาในเมียนมา
จดหมายซึ่งลงนามโดยผู้อำนวยการ 13 คนจากสำนักงานของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งรวมถึงประเทศไทย เรียกร้องให้อาเซียนจัดประชุมสุดยอดฉุกเฉิน เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตด้านสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมในตอนเหนือของรัฐยะไข่ของเมียนมา
เจมส์ โกเมซ ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยว่าอาเซียนยังไม่ได้แสดงจุดยืนใดๆ ในขณะที่รัฐภาคีใช้ปฏิบัติการความรุนแรงเพื่อล้างเผ่าพันธุ์
“รัฐบาลประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ต้องยึดมั่นปฏิบัติตามพันธกิจด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งบัญญัติไว้ในกฎบัตรอาเซียน ในขณะที่กองทัพเมียนมาได้แสดงความดูหมิ่นต่อพันธกิจนี้อย่างชัดเจน และยังคงเดินหน้าก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติกับชาวโรฮิงญาต่อไป”
นับแต่กลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาโจมตีป้อมของฝ่ายความมั่นคงในเมียนมาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 รัฐบาลเมียนมาได้เริ่มก่อปฏิบัติการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โหดร้าย และรุนแรงต่อชาวโรฮิงญา แอมเนสตี้ได้เก็บข้อมูลการละเมิดสิทธิมนุษยชนมากมายหลายครั้ง รวมทั้งการสังหารแบบไม่ชอบด้วยกฎหมาย การวางเพลิงเผาบ้านเรือนและหมู่บ้านต่างๆ ในวงกว้าง
ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของการล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งในทางกฎหมายถือว่าเป็น อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ รวมไปถึงการสังหารและการเนรเทศ หรือการบังคับให้ประชากรต้องเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยืนยันด้วยว่ามีการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยกองทัพเมียนมา
ที่ผ่านมา อาเซียนได้แสดงท่าทีต่อกรณีนี้ โดยออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่งเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2560 เกือบหนึ่งเดือนหลังความโหดร้ายในรัฐยะไข่เริ่มขึ้น โดยอาเซียนได้แสดงข้อกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่หลีกเลี่ยงไม่ใช้แม้แต่คำว่า “โรฮิงญา” และแถลงการณ์นี้มีเนื้อหาค่อนข้างอ่อน
จดหมายของแอมเนสตี้กล่าวว่าการแสดงท่าทีเช่นนี้ยังไม่เพียงพอ และอาเซียนจำเป็นต้องแสดงท่าทีต่อวิกฤตในเมียนมาอย่างจริงจังมากกว่านี้
แอมเนสตี้เรียกร้องรัฐบาลฟิลิปปินส์ ในฐานะประธานคนปัจจุบันของอาเซียน ให้เรียกประชุมสุดยอดฉุกเฉินระดับอาเซียน เพื่อให้มีการอภิปรายถึงปัญหาในเมียนมา ซึ่งรวมถึง
- ให้ยุติความรุนแรง การละเมิดสิทธิมนุษยชน และอาชญากรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศ
- ประกันให้ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และสามารถเดินทางกลับถิ่นฐานของตนได้อย่างปลอดภัยและมีศักดิ์ศรี สำหรับผู้ที่สมัครใจจะกลับ
- ยุติการเลือกปฏิบัติที่ฝังรากลึกต่อชาวโรฮิงญา สนับสนุนการสอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นอิสระ และให้นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
จดหมายนี้ลงนามโดยผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลในออสเตรเลีย ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย มองโกเลีย เนปาล นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ ไทย และไต้หวัน