เปิดธุรกิจ‘ภัทริศ’ผู้ขนเงินสด 196 ล.เยน-ทำเบเกอรี ค้าเพชร-แจ้งรายได้ 165,961 บ.
เปิดธุรกิจ ‘โตโต้-ภัทริศ’ ผู้นำเงินสด 196 ล.เยน จากญี่ปุ่นนำเข้าประเทศไทย ก่อนถูกปล้นอุกอาจกลางกรุงเทพฯ ประกอบธุรกิจทำเบเกอรี่ ค้าเพชร พลอย อยู่บางรัก ชาวเกาหลีร่วมถือหุ้น แจ้งงบการเงินปีล่าสุด รายได้ 165,961 บาท ขาดทุน 78,286 บาท
สืบเนื่องจากคดีกลุ่มคนร้าย 5-7 คน สวมหมวกไหมพรมสีดำปิดบังใบหน้า ใช้ปืนก่อเหตุปล้นเงินสด 196 ล้านเยน มูลค่าประมาณ 60 ล้านบาทของนายภัทริศ หรือโตโต้ แต้รัตนชัย นักธุรกิจซื้อขายทองคำแท่งและส่งออกเครื่องประดับเพชรไปประเทศญี่ปุ่น ระหว่างลูกจ้างในบริษัทขนเงินสดจำนวนดังกล่าว มาจากประเทศญี่ปุ่นเพื่อนำมาเก็บไว้ในห้องพัก เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 5 อาคารรัชดา พาวิลเลี่ยน ซอยรัชดาภิเษก 30 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. เมื่อกลางดึกวันที่ 2 ต.ค.2560
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)และ นายตำรวจระดับสูงอีก 11 คน ร่วมกันแถลงข่าวเมื่อวันที่ 5 ต.ค.2560 ผู้ต้องหาได้แก่ 1.นายณรงค์ชัย หรือจั๊ว สวัสดิผล อายุ 32 ปี 2.นายชวลิต หรือริด เจริญผล อายุ 31 ปี 3.นายสุรศักดิ์ หรือกิ๊ก ศรีฑะวงศ์ อายุ 35 ปี 4. นายพงษ์ศักดิ์ หรือคริส ปิตศิริพันธ์ อายุ 31 ปี และ 5.นายกฤษดา หรือแวน อัตถาเวช อายุ 30 ปี พร้อมของกลางธนบัตรสกุลเยน 196 ล้านเยน และระบุมีผู้เกี่ยวข้องอีกอย่างน้อย 2 คน ที่ยังจับกุมไม่ได้ ตามข่าวที่สื่อมวลชนรายงานไปแล้วนั้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุเพียงว่า ผู้เสียหาย เป็นนักธุรกิจซื้อขายทองคำแท่งและส่งออกเครื่องประดับเพชรไปประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่มีรายละเอียดว่า แท้จริงแล้ว นายภัทริศ เป็นใครธุรกิจของตั้งอยู่ที่ไหน ใครร่วมถือหุ้น?
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า นายภัทริศ แต้รัตนชัย เป็นเจ้าของ บริษัท จี แอนด์ จี สโตนส์ จำกัด (G & G STONES CO.,LTD.) จดทะเบียนวันที่ 14 ม.ค. 2554 ทุน 2 ล้านบาท ประกอบกิจการทำเบเกอรี่ ค้าเพชร พลอย อัญมณี ที่ตั้งเลขที่ 119 อาคารบีไอเอส ชั้น 7 ห้อง 7 เอ 6 ถนนมเหสักข์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร มี นางภาวิดา เงินประมวล เป็นกรรมการ
มีผู้ถือหุ้น 4 คนคือนายกฤติน ไทยเจริญดี จำนวน 6,700 หุ้น นางวิภา เงินประมวล 5,000 หุ้น นายบุญธรรม จันทะเสาร์ 500 หุ้น และนายคิม ยาง ซิค (MR.KIM YANG SIK) สัญชาติเกาหลี (REPUBLIC OF KOREA) จำนวน 7,800 หุ้น รวม 20,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
หลังจากนั้นเปลี่ยนแปลงกรรมการหลายครั้ง
18 ม.ค.2554 นายคิม ยาง ชิค และ นางภาวิดา เป็นกรรมการ
6 ก.ย.2554 นายคิม ยาง ชิค และ น.ส.ศิริรัตน์ บุญคำ เป็นกรรมการ
4 พ.ค.2555 นายคิม ยาง ชิค และนายภัทริศ แต้รัตนชัย เป็นกรรมการ
กระทั่ง 16 ส.ค.2559 นายคิม ยาง ซิค และ นายวันจักร อิ่มแสง อายุ 35 ปี เป็นกรรมการ (ดูเอกสาประกอบ)
จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทนี้จดทะเบียนเปลี่ยนผู้ถือหุ้นหลายหน ปรากฎข้อมูลว่านายภัทริศ แต้รัตนชัย เข้ามาถือหุ้นครั้งแรกเมื่อ 23 ต.ค.2555 จำนวน 10,000 หุ้น (แจ้งว่าอยู่บ้านเลขที่ 39/88 ซอยลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ) นายคิม ยาง ซิค 6,000 หุ้น นายสุวิช แต้รัตนชัย 2,000 หุ้น น.ส.จุติพร แต่รัตนชัย 1,000 หุ้น และ น.ส.ชุลี พึ่งตระกูล 1,000 หุ้น (ดูเอกสารประกอบ)
จากนั้นถือหุ้นสลับกันไปมา
30 เม.ย.2556 นายกฤติน ไทยเจริญดี ถือหุ้น จำนวน 6,700 หุ้น นายคิม ยาง ซิค 7,800 หุ้น นางวิภา เงินประมวล 5,000 หุ้น และ นายบุญธรรม จันทะเสาร์ 500 หุ้น นายภัทริศ เป็นกรรมการ
30 เม.ย.2558 นายภัทริศ แต้รัตนชัย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีกครั้ง
กระทั่งล่าสุด 15 ส.ค.2559 มีผู้ถือหุ้น 3 คนคือ นายวันจักร อิ่มแสง 13,000 หุ้น (อยู่บ้านเลขที่ 283/1 หมู่ที่ 4 ต.สามเงา อสามเงา จ.ตาก) นายคิม ยาง ซิค 6,000 หุ้น และ น.ส.ชุลี พึ่งตระกูล 1,000 หุ้น
จากการตรวจสอบข้อมูลทางธุรกิจ ณ ขณะนี้ ยังไม่ปรากฎชื่อ นายวันจักร อิ่มแสง และ นายคิม ยาง ซิค เป็นกรรมการบริษัทอื่น
ขณะที่จากการตรวจสอบงบการเงินพบว่ารอบปีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2559 แจ้งว่ามีรายได้ 165,961 บาท ขาดทุนสุทธิ 78,286 บาท สินทรัพย์ 2,188,955 บาท หนี้สิน 15,400 บาท กำไรสะสม 173,555 บาท (ดูเอกสารประกอบ)
ทั้งหมดคือข้อมูลทางธุรกิจของนายภัทริศ ผู้นำเข้าเงินสด 196 ล้านเยน ก่อนถูกปล้นและตกเป็นข่าวดัง