ซีพีชู 3 โครงการสร้างความมั่นคงทางอาหารแก่ นร.ชนบท
เครือเจริญโภคภัณฑ์ มีนโยบายขับเคลื่อนหลักการความยั่งยืนครั้งสำคัญภายในองค์กร โดยดำเนินโครงการซีพี เพื่อความยั่งยืน เพื่อยกย่องโครงการเพื่อสังคมที่กลุ่มบริษัทฯต่างๆ และพนักงานในเครือฯ ทั่วประเทศได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำเพื่อช่วยแก้ปัญหาสังคม
ทั้งนี้เพื่อให้เป็นต้นแบบในการทำความดีเพื่อสังคมครอบคลุมมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สร้างสรรค์ประโยชน์แก่ประเทศชาติ สังคม และชุมชน โดยในปีนี้ปรากฏว่าโครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต ที่ดำเนินการโดย บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟ ได้รับรางวัลซีพี เพื่อความยั่งยืนถึง 3 โครงการได้แก่ โครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต ที่ดำเนินการใน 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนชลประทานบ้านกอโจด จ.นครราชสีมา โรงเรียนบ้านเนินสมบูรณ์ อ.แกลง จ.ระยอง และ โรงเรียนบ้านใหม่สำโรง จ.นครราชสีมา ถือเป็นต้นแบบในการสร้างความมั่นคงในอาหารแก่นักเรียนในชนบทอย่างยั่งยืน
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการความยั่งยืน ที่ประกอบไปด้วย “ปรัชญา 3 ประโยชน์” ตลอดจนหลักการสากล “เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ 17 ประการ (SDGs)” ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม การจัดให้มีการมอบรางวัล “ซีพี...เพื่อความยั่งยืน” แก่กลุ่มธุรกิจและพนักงานในเครือฯ ครั้งนี้ เพื่อเป็นการปลูกฝังเมล็ดพันธุ์ความดีแก่พนักงานกว่า 300,000 คนทั่วโลก และส่งต่อดีเอ็นเอความดีจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อขับเคลื่อนหลักการความยั่งยืนในทุกมิติ โดยมีหัวใจสำคัญคือต้องเป็นโครงการที่เน้นการมีส่วนร่วมของพนักงานในเครือฯ กับชุมชนหรือสังคม และต้องเป็นโครงการที่สามารถแก้ปัญหาหรือยกระดับคุณภาพชีวิตที่ต่ำกว่ามาตรฐานของชุมชนหรือสังคม
นายสมพร ชูก้อนทอง ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านเนินสมบูรณ์ จังหวัดระยอง ซึ่งเป็น 1 ในโรงเรียนภายใต้โครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยโรงงานอาหารสำเร็จรูปสัตว์น้ำแกลง บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟ เข้ามาดำเนินโครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต : โรงเรียนต้นแบบสู่ความยั่งยืน ที่โรงเรียนบ้านเนินสมบูรณ์ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ในปี พ.ศ.2558 โดยต่อยอดจากการปลูกข้าวในนาเพื่ออาหารกลางวันนักเรียน มาสู่การเลี้ยงไก่ไข่ และในปี 2558 ได้มีการปลูกผักปลอดภัยเพื่ออาหารกลางวัน เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงอาหารในโรงเรียนและชุมชน ปัจจุบันโครงการนี้สร้างรายได้ให้กับโรงเรียน และสร้างภาวะโภชนาการที่ดีให้กับนักเรียนโรงเรียนบ้านเนินสบบูรณ์ กลายเป็นโรงเรียนต้นแบบให้กับโรงเรียนอื่นๆ และหน่วยงานต่างๆ ได้เข้าศึกษาและเยี่ยมชมการดำเนินงานเพื่อนำความรู้ไปบูรณาการต่อยอดและเป็นอาชีพ
ก่อนหน้านี้โรงเรียนบ้านเนินสมบูรณ์มีปัญหาเรื่องอาหารกลางวันนักเรียน จึงมองหาวิธีที่จะทำให้เด็กนักเรียนทั้งหมดกว่า 190 คนของโรงเรียนได้กินอิ่มและมีสุขภาพแข็งแรง เพื่อที่จะได้มุ่งมั่นในการเรียนอย่างเต็มที่ ทางโรงงานอาหารสำเร็จรูปสัตว์น้ำแกลง จ.ระยอง ได้จัดกิจกรรมสานเสวนาชุมชน และได้รับการสนับสนุนจากผู้สูงอายุในชุมชนบริจาคที่ดิน 9 ไร่เพื่อให้โรงเรียนทำนาปลูกข้าวเอง ซึ่งได้เกิดเป็นเครือข่ายความร่วมมือในโครงการสืบสานวิถีชีวิตเกษตรกรรมเพื่ออาหารกลางวัน (ปลูกข้าว) ในปี 2551 โดยซีพีเอฟช่วยจัดหาเมล็ดพันธุ์และอุปกรณ์บางส่วน รวมถึงมีพนักงานจิตอาสามาช่วยทั้งการปลูกและเก็บเกี่ยว จากนั้นในปี 2552 ดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน โดยซีพีเอฟช่วยจัดหากรงไก่ และร่วมสมทบทุนจัดซื้อแม่พันธุ์ไก่ไข่รุ่นแรก 170 ตัว พร้อมมอบองค์ความรู้และคำแนะนำที่จำเป็น ซึ่งต่อมายังได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ นำโรงเรียนเข้าโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน จึงได้รับสนับสนุนแม่ไก่พันธุ์และอาหารสัตว์เพิ่มเติม ช่วยให้มีไข่ไก่เพียงพอสำหรับนักเรียน และมีผลผลิตจำหน่ายเพื่อเป็นกองทุนหมุนเวียนไว้ดำเนินโครงการมาจนถึงปัจจุบัน จากนั้นในปี 2555 ยังได้ดำเนิน โครงการเลี้ยงปลาเพื่ออาหารกลางวัน เลี้ยงปลาดุกให้เป็นแหล่งอาหารโปรตีนทางเลือกอีกด้วย
ต่อมาในปี 2558 เมื่อซีพีเอฟริเริ่ม โครงการ ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต ขึ้น ทางโรงงานฯ แกลง จึงเสนอชื่อโรงเรียนให้เข้าร่วม พร้อมกับขยายมาสู่การจัดทำ โครงการผักปลอดภัยเพื่ออาหารกลางวัน เพื่อให้นักเรียนมีผักสดสะอาดและปลอดภัยไว้รับประทาน เด็กๆ ที่นี่จึงมีกับข้าวหลากหลายเมนูที่มาคู่โภชาการที่ดีไว้รับประทานแบบกินอิ่ม มีความสุข พร้อมอนาคตที่สดใส อีกทั้งยังสามารถต่อยอดสู่การแปรรูปผลผลิตจากโครงการมาจำหน่าย เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยวข้าวกล้อง ขนมปังข้าวกล้องและรำข้าว นายสมพร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเนินสมบูรณ์ กล่าวว่า ผลผลิตจากโครงการทั้งหมดนี้คำนวณเป็นเงินทุนแล้วคิดเป็นมูลค่ากว่า 660,000 บาท และส่วนหนึ่งได้นำมาใช้เป็นกองทุนเพื่อดำเนินโครงการต่างๆ ต่อไปได้แบบพึ่งพาตนเอง โดยมีเด็กๆ และคุณครูแต่ละชั้นเรียนแบ่งหน้าที่มาช่วยกันดูแลอย่างขมักเขม้น เป็นการปลูกฝังการเรียนเรียนรู้วิชาชีวิตว่าด้วยคุณค่าวิถีอาชีพเกษตรกรรมไปพร้อมๆ กัน
ส่วนโครงการซีพีเอฟ อิ่มสุข ปลูกอนาคตที่โรงเรียนชลประทานบ้านกอโจด จ.นครราชสีมา และโรงเรียนบ้านใหม่สำโรง จ.นครราชสีมา เป็นอีก 2 โครงการต้นแบบซีพีเพื่อความยั่งยืนที่ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนในท้องถิ่น โดยที่โรงเรียนชลประทานบ้านกอโจดได้นำที่ดินว่างเปล่าในโรงเรียนมาทำโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ ปลูกผัก โดยมีสัตวบาล และพนักงานจากโรงานแปรรูปเนื้อไก่ นครราชสีมา ของซีพีเอฟ รวมถึงชาวชุมชนผนึกกำลังช่วยกันตามความถนัดของแต่ละองค์กร ปัจจุบันโรงเรียนสามารถลดปริมาณการซื้อวัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหารกลางวัน นักเรียนเข้าถึงอาหารกลางวันและมีโภชนการสมวัยตามเกณฑ์
ด้านโรงเรียนบ้านใหม่สำโรง จ.นครราชสีมา ซีพีเอฟ โดยธุรกิจไก่พันธุ์เนื้อ สระบุรี ได้ร่วมแรงร่วมใจสร้างโภชนาการที่ดีแก่เด็กและเยาวชนในโรงเรียนนี้ ส่งเสริมให้มีการปลูกผักโดยใช้น้ำน้อย ในโครงการเพาะเห็ดเพื่ออาหารกลางวันและร่วมกับมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทของเครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน ปัจจุบันพบว่านักเรียนได้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าผ่านเกณฑ์ Thai School Lunch มีภาวะขาดโภชนาการลดลง
อนึ่ง โครงการซีพีเอฟ อิ่มสุข ปลูกอนาคต เริ่มดำเนินการในปี 2558 เป็นโครงการเพื่อสังคมที่ตอบโจทย์ด้านการมุ่งมั่นสร้างสังคมยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในข้อที่ว่าด้วยการเสริมสร้างสุขภาพสุขภาวะที่ดี และยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ 2 ข้อ นั่นคือ การขจัดความหิวโหย และการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ปัจจุบันมีเด็กๆ กว่า 17,500 คน ในโรงเรียน 77 แห่งทั่วประเทศที่ตั้งอยู่รอบโรงงานและฟาร์มร่วมโครงการ