6.9แสนล.-1.6 ล.โครงการ! ภาษีไปไหน?สรุปรบ.บิ๊กตู่จัดซื้อจ้างล่าสุดปี60-นนท์ พุ่ง3หมื่นล.
"..สรุปง่ายๆ ช่วงปีงบประมาณ 2560 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้งบประมาณที่มาจากภาษีประชาชน ในการจัดทำโครงการจัดซื้อจัดจ้าง ไปแล้ว จำนวน 699,030.87 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 626,727.59 ล้านบาท จำนวนโครงการรวม 1,610,190 โครงการ นนทบุรีมีมูลค่าโครงการสูงที่สุด 31,247.22 ล้านบาท ส่วนเชียงใหม่มีจำนวนโครงการมากที่สุด 65,988 โครงการ อย่างไรก็ดี โครงการจ้างสร้างเรือดำน้ำ โดยวิธีกรณีพิเศษ 13,481.86 ล้านบาท ของกองทัพเรือ ยังคงถูกจัดให้เป็นโครงการที่มีงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างสูงที่สุด.."
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข้อมูลไปแล้วว่า เว็บไซต์ ภาษีไปไหน? ระบุว่า ในรอบปีงบประมาณ 2560 กรมทางหลวง ถูกจัดอันดับให้เป็นหน่วยงานที่จัดซื้อจัดจ้าง มีมูลค่าสูงสุด จำนวน 106,620.72 ล้านบาท ขณะที่กรมชลประทาน จัดเป็นหน่วยงานจัดซื้อที่มีโครงการมากที่สุด จำนวน 89,813 โครงการ
ส่วน บริษัท China Shipbuilding & Offshore International Co., Ltd ปรากฎชื่อเป็นผู้ชนะการเสนอราคาที่มีมูลค่าโครงการสูงสุด จำนวน 13,481.86 ล้านบาท ภายหลังจากกองทัพเรือ ได้ลงนามในสัญญาจ้างสร้างเรือดำนำ มูลค่า 13,481.86 ล้านบาท เป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2560 ที่ผ่านมา
บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด ปรากฎชื่อเป็นผู้ชนะการเสนอราคา ที่มีโครงการมากที่สุด จำนวน 31,692 โครงการ รวมวงเงินกว่า 6.3 พันล้าน
(อ่านประกอบ : สัญญาเดียว1.3หมื่นล.!บ.จีนขายเรือดำน้ำไทยผงาดเว็บภาษีไปไหน? กรมทางหลวงเบอร์1จัดซื้อแสนล.)
ทั้งนี้ ข้อมูลในส่วนภาพรวมสถิติการจัดซื้อจัดจ้าง ของประเทศไทย ในช่วงปีงบประมาณ 2560 ที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ ภาษีไปไหน? ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
มีการระบุว่า ล่าสุด มีการใช้งบประมาณจัดซื้อจัดจ้าง ไปแล้ว จำนวน 699,030.87 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 626,727.59 ล้านบาท จำนวนโครงการรวม 1,610,190 โครงการ
10 โครงการที่มีงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างสูงที่สุด ได้แก่
1. จ้างสร้างเรือดำน้ำ โดยวิธีกรณีพิเศษ 13,481.86 ล้านบาท
2. ประกวดราคาจ้างสร้างอาคารโครงการปรับวางที่ตั้งโรงเรียนนายเรืออากาศฯ พร้อมระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
2,690.00 ล้านบาท
3. เช่าระบบคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสำหรับธุรกิจหลัก ระยะที่ 1 โดยวิธีพิเศษ 2,639.01 ล้านบาท
4. ประกวดราคาจ้างSupply and Construction of 500/230/115 kV Bang Pakong Substation (GIS) (Bid No. TIPE-S-02 and RTS2-S-02) 2,335.64 ล้านบาท
5. ซื้อครุภัณฑ์โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยี Biometrics (ลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า) ระยะที่ 1 โดยวิธีพิเศษ 2,116.00ล้านบาท
6. ประกวดราคาจ้างโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน - สระบุรี - นครราชสีมา ช่วง กม.188+800.000 - กม.195+943.000 (รวมทางแยกต่างระดับนครราชสีมา) โดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) 1,994.00 ล้านบาท
7. ประกวดราคาจ้างโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน - สระบุรี - นครราชสีมา ช่วง กม. 0 + 000.000 - กม. 4 + 525.000 และ กม. 5 + 100.000 - กม. 9 + 008.350 โดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) 1,981.70 ล้านบาท
8. ประกวดราคาจ้างงานจ้างเหมาโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สาย บางปะอิน - สระบุรี - นครราชสีมา ช่วง กม. 0+000.000 ถึง กม. 5+470.673 (EAST SPUR LINE) (รวมทางแยกต่างระดับบางปะอิน 1) ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) 1,938.84 ล้านบาท
9. ประกวดราคาจ้างโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน - สระบุรี - นครราชสีมา ช่วง กม. 9 + 008.350 - กม. 15 + 000.000 (รวมทางแยกต่างระดับวังน้อย) โดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) 1,926.30 ล้านบาท
10. ประกวดราคาจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางหลวงพิเศษ ระหว่างเมือง สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ช่วง กม.๓๘+๕๐๐.๐๐๐ - กม.๔๔+๒๖๖.๘๓๓ โดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
1,911.11ล้านบาท
10 จังหวัดที่มีมูลค่าโครงการสูงที่สุด (ไม่รวม กทม.) ได้แก่
1. นนทบุรี 31,247.22 ล้านบาท
2. นครราชสีมา 13,601.82 ล้านบาท
3. เชียงใหม่ 12,464.09 ล้านบาท
4. ชลบุรี 12,307.73 ล้านบาท
5. ขอนแก่น 10,546.39 ล้านบาท
6. สงขลา 10,184.97 ล้านบาท
7. อุบลราชธานี 8,584.38 ล้านบาท
8. นครศรีธรรมราช 8,314.16 ล้านบาท
9. ลำปาง 7,856.38 ล้านบาท
10. สุราษฎร์ธานี 6,917.82 ล้านบาท
10 จังหวัดที่มีโครงการมากที่สุด (ไม่รวม กทม.) ได้แก่
1. เชียงใหม่ 65,988 โครงการ
2. นครราชสีมา 64,788 โครงการ
3. ขอนแก่น 46,836 โครงการ
4. สงขลา 39,115 โครงการ
5. ชลบุรี 37,881 โครงการ
6. บุรีรัมย์ 36,477 โครงการ
7. อุดรธานี 35,706 โครงการ
8. อุบลราชธานี 34,275 โครงการ
9. นครศรีธรรมราช 31,699 โครงการ
10. ลำปาง 31,694 โครงการ
สรุปง่ายๆ ช่วงปีงบประมาณ 2560 ล่าสุด รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้งบประมาณที่มาจากภาษีประชาชน ในการจัดทำโครงการจัดซื้อจัดจ้างไปแล้ว จำนวน 699,030.87 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 626,727.59 ล้านบาท จำนวนโครงการรวม 1,610,190 โครงการ
นนทบุรีมีมูลค่าโครงการสูงที่สุด 31,247.22 ล้านบาท ส่วนเชียงใหม่มีจำนวนโครงการมากที่สุด 65,988 โครงการ
ขณะที่โครงการจ้างสร้างเรือดำน้ำ โดยวิธีกรณีพิเศษ 13,481.86 ล้านบาท ของกองทัพเรือ ยังคงถูกจัดให้เป็นโครงการที่มีงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างสูงที่สุด ตามมาดูประกวดราคาจ้างสร้างอาคารโครงการปรับวางที่ตั้งโรงเรียนนายเรืออากาศฯ พร้อมระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) 2,690.00 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของหน่วยงานทหาร
อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบ มูลค่าการลงทุน 2 โครงการนี้ จะพบว่ามากกว่างานโครงการ Supply and Construction of 500/230/115 kV Bang Pakong Substation (GIS) ของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การทำถนน ของกรมทางหลวง ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่ประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง
ส่วนผลงานที่ออกมาจากคุ้มค่ากับเงินภาษีที่เราจ่ายไปหรือไม่ คงต้องติดตามตรวจสอบกันต่อไป อย่างใกล้ชิด! (อีกครั้ง)
เพราะขณะนี้สาธารณชนคงได้รับทราบข้อมูลกันแล้วว่า เงินภาษีของเรา ที่จ่ายไป ตอนนี้ไปอยู่ที่ใคร? เขานำไปใช้ทำเรื่องอะไรกัน?