ดีเอสไอส่งหมายเรียกถึงบ้าน'โอ๊ค'คดีฟอกเงินกรุงไทยแล้ว
วันที่ 4 ต.ค. 2560 นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีสอบสวน 3 ในฐานะอัยการผู้ร่วมในการสอบสวนคดีกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดีเอสไอ ออกหมายเรียก นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมพวกรวม 4 ราย มารับทราบข้อกล่าวหาคดีฟอกเงินกรุงไทย วันที่ 24 ต.ค.นี้
เมื่อพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาแล้วก็จะส่งหมายไปตามที่อยู่ในทะเบียนราษฎร์เพื่อให้รับทราบ ตามปกติตามขั้นตอนกฎหมาย หลังพนักงานสอบสวนออกหมายเรียก ทางผู้ถูกกล่าวหาก็สามารถเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาได้ 2-3 ครั้ง แต่ต้องดูเหตุผลในการขอเลื่อนเข้ารับทราบ หาก นายพานทองแท้กับพวกขอเลื่อนในครั้งแรกไปแล้ว และพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกครั้งที่ 2 แล้วไม่มาอีก พนักงานสอบสวนก็ต้องดูว่าการขอเลื่อนอีกครั้งที่ 2 เป็นเหตุประวิงเวลาหรือไม่ มีเหตุผลหรือไม่ หากไม่มีก็จะออกหมายจับ ตามขั้นตอนกฎหมาย
"อยากให้นายพานทองแท้ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 24 ต.ค.นี้ ตามที่พนักงานสอบสวนนัดหมายเพราะหากเลื่อนออกไป จะส่งผลทำให้ดูไม่ดี ประชาชนจะคิดว่าทำไม่ไม่เข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม กระบวนการทางกฎหมายก็มีเงื่อนไข และให้สิทธิแก่ผู้ถูกกล่าวหาในการแก้ต่าง หากมีพยานหลักฐานมาชี้แจงว่าตัวเองบริสุทธิ์ ซึ่งหากมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว พนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนส่ง พนักงานอัยการ และพนักงานอัยการก็จะพิจารณา โดยมี 3 แนวทาง 1.มีความเห็นให้พนักงานสอบสวน กลับไปหาพยานหลักฐานเพิ่ม 2.มีความเห็นสั่งฟ้อง และ 3.มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นอกจากนี้ยังมีกระบวนการในชั้นศาลที่สามารถแก้ต่างและต่อสู้ทางคดีได้อีก 3 ศาล คือศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา" นายขจรศักดิ์ กล่าว