ไม่ใช่เพื่อผล ปย.ส่วนตัว!‘สมชัย’ร้องผู้ตรวจฯชงศาล รธน.ชี้ขาดปมเซ็ตซีโร่ กกต.
‘สมชัย’ ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ชงศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ปมเซ็ตซีโร่ กกต. ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ยันต้องการสร้างมาตรฐานไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ไม่หวังชะลอสรรหา กกต. ชุดใหม่
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2560 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารกลาง นำเอกสารประมาณ 200 หน้า เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้พิจารณาเสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. มาตรา 70 ที่กำหนดให้ ประธานกกต. และ กกต.ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.ใช้บังคับพ้นจากตำแหน่งนั้นขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3, 24, 26,27 หรือไม่
นายสมชัย กล่าวว่า มาตรา 70 ของกฎหมายดังกล่าวขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ขัดกับหลักนิติธรรม ขัดหลักนิติประเพณี กระทบสิทธิเสรีภาพ ทั้งที่กฎหมายต้องทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ควรเป็นมาตรฐานเดียวกัน แต่ที่ผ่านมาจะเห็นความแตกต่างกันระหว่างองค์กรอิสระต่าง ๆ อย่างเห็นได้ชัด เช่น กฎหมายลูกของ กกต. และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เขียนให้กรรมการพ้นจากตำแหน่ง แต่กฎหมายลูกของผู้ตรวจการแผ่นดิน กลับเขียนให้ดำรงตำแหน่งต่อไปจนครบวาระ แสดงให้เห็นว่ามีมาตรฐานต่างกัน อีกทั้งการตามนิติประเพณีไม่บัญญัติกฎหมายให้มีผลบังคับย้อนหลัง อย่างกฎหมายให้มหาวิทยาลัยของรัฐหลายแห่งออกจากระบบ สนช.ก็ยังยึดนิติประเพณี ให้อธิการบดีดำรงตำแหน่งไปจนกว่าจะครบวาระทั้งที่เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบองค์กรทั้งองค์กร แต่ในส่วนของ กกต.มีการเปลี่ยนแปลงเพียงในเรื่องโครงสร้างและคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่ง กลับมีการให้ กกต.พ้นวาระนั้น เป็นเหตุผลที่เหมาะสมหรือไม่ รวมทั้งการสรรหากกต.ชุดใหม่ภายใต้บทเฉพาะกาลขณะนี้คณะกรรมการสรรหาจะขาดผู้นำฝ่ายค้านในสภา และสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่แทนวุฒิสภาในการเห็นชอบอาจนำไปสู่การได้กกต.ชุดใหม่ที่ขาดความเป็นกลางทางการเมือง ดังนั้นตนจึงเห็นว่าจำเป็นที่จะต้องยื่นเรื่องดังกล่าวต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อเสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าการออกกฎหมายดังกล่าวเป็นธรรมจริงหรือไม่
“การยื่นครั้งนี้เป็นไปในนามส่วนตัว โดยไม่ประสงค์ให้กระบวนการสรรหากกต.ชุดใหม่หยุดชะงักลง หรือทำให้เกิดความล่าช้าแต่อย่างใด และไม่ได้ประสงค์ยื่นเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เพราะกว่าศาลจะวินิจฉัยแล้วเสร็จน่าจะได้ กกต.ชุดใหม่แล้ว ส่วนผู้ตรวจการแผ่นดินและศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไรก็เป็นเรื่องอนาคต แต่การยื่นผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินก็เป็นช่องทางหนึ่ง ยังมีอีกช่องทาง ซึ่งต้องรอให้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มีผลบังคับใช้ น่าจะมีความชัดเจนในกระบวนการยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามการยื่นเรื่องในครั้งนี้มีการแจ้งต่อ กกต. 4 คนแล้ว มีการคุยกันตลอด และประเด็นดังกล่าวก็เป็นประเด็นที่ กกต.เคยยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญไปแล้วก่อนหน้านี้” นายสมชัย กล่าว
ด้านนายรักษเกชา กล่าวว่า จะนำเรื่องรายงานต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ในวันที่ 10 ต.ค.นี้ เพื่อพิจารณาว่าคำร้องอยู่ในอำนาจที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะรับไว้พิจารณาได้หรือไม่ จากนั้นจึงพิจารณาว่ากฎหมายดังกล่าวมีเนื้อหาขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญตามที่นายสมชัย ยื่นคำร้องหรือไม่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินจะพิจารณาวินิจฉัย หากมีความเห็นต่างก็ต้องแจ้งให้นายสมชัยรับทราบ และไม่คิดว่าผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีแรงกดดันในการพิจารณาเรื่องนี้ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่คุ้มครองผู้ตรวจการแผ่นดินให้อยู่ครบวาระไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะการพิจารณาคำร้องจะเป็นไปตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย