บ้านเคหะฯ ช่วยผู้มีรายได้น้อย-สนองนโยบายรัฐ
เปิดตัวบ้านแฝดการเคหะฯ หนองหาน อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ช่วยผู้มีรายได้น้อย สนองนโยบายรัฐ พร้อมผลักดัน 3 มาตรการ เข้าถึงการซื้อ
หลายคนอยากมีบ้าน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีบ้านสมใจดั่งที่หวัง...
ด้วยสภาพเศรษฐกิจในสังคมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการกู้สินเชื่อจากธนาคารเพื่อผ่อนบ้าน ส่งผลให้ประชาชนไม่ได้รับโอกาสที่จะเข้าถึงการซื้อบ้านเอื้ออาทร จึงเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่การเคหะแห่งชาติต้องคิดหาวิธีแก้ไข
ทำให้ต้องผลักดันมาตรการ 3 แนวทาง ออกมาช่วยเหลือ โดยแนวทางที่ 1 ให้ลูกบ้านเช่าซื้อ โดยทำการผ่อนกับการเคหะแห่งชาติ แนวทางที่ 2 เปิดให้ประชาชนทำสัญญาเช่าในระยะเริ่มต้น หลังจากนั้นหากมีเครดิตดี สามารถกู้ธนาคารผ่านแล้วจึงโอนกรรมสิทธิ์เป็นผู้ซื้อ และ แนวทางที่ 3 จัดให้มีกองทุนกู้ยืมเพื่อการซื้อบ้านโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยแก่ผู้ที่มีรายได้น้อย โดยเป็นการกู้ยืมจากทางการเคหะฯ คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ
บ้านแฝด 2 ชั้น ระยะที่ 1 บนพื้นที่ ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จแล้ว เป็นหนึ่งในตัวอย่างของโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 ปี 2557-58 ที่การเคหะฯ พัฒนามีเนื้อที่ขนาด 22.75 ตรว. มีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 49 ตร.ม. ราคา 6 แสนบาทต่อหน่วย ทั้งหมดกว่า 394 หน่วย ซึ่งขณะนี้กำลังรอการส่งมอบแก่ผู้อยู่อาศัย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ต.ค. 2560
ดร.ธวัชชัย กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยถึงหลักเกณฑ์การทำสัญญาเช่าโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ว่าการให้ทำสัญญาเช่าในแนวทางที่ 1 นั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการสรรหาบ้านมารองรับกลุ่มความต้องการ ซึ่งอาจจะแบ่งมาได้เพียง 10 – 20% เนื่องจากบางส่วนมีความต้องการที่จะซื้อโดยตรง และในเดือน ม.ค. 2561 จะมีการส่งมอบเคหะชุมชนระยะที่ 2 ให้กับผู้อยู่อาศัยเป็นจำนวน 390 หน่วย หากเคหะชุมชนโอนแล้วเสร็จจะส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวเปรียบเหมือนตำบลขนาดใหญ่ประมาณ 4,000 – 5,000 คน

ด้าน นายสามารถ ปาทา รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เล่าถึงความแตกต่างระหว่างเคหะชุมชนหนองหารกับโครงการในสมัยก่อนที่ผ่านมา โดยเล็งเห็นถึงการเอื้ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนเป็นหลัก เนื่องจากมีการปรับมาใช้วัสดุก่อสร้างมีการใช้อะลูมิเนียมในการประกอบบ้านเพื่อเอื้อต่อการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ พร้อมด้วยระบบสาธารณูปโภคครบครัน
ขณะที่ด้านการคมนาคมอยู่ติดกับถนนถนนใหญ่ แวดล้อมด้วยสถานพยาบาลที่สำคัญ เช่น มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โรงพยาบาลสันทราย ตลาดสด และแหล่งพาณิชยกรรม อีกทั้งยังมีพื้นที่ใช้สอยของชุมชน เช่น สนามเด็กเล่น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย
ขณะที่อรอำไพ โอศิริ ลูกบ้านเคหะชุมชน ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ บอกเล่าให้ฟังว่า ก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านของการเคหะฯ ได้เช่าอาศัยอยู่ตามโรงแรมตลอด เพราะเป็นคน จ.ลำปาง แต่เมื่อได้แต่งงานกับสามี ซึ่งรับราชการตำรวจอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ จึงพยายามมองหาบ้านที่มีราคาไม่สูงมากนัก เพื่อหวังใช้เป็นที่พักพิงเมื่อแวะมา ซึ่งบ้านของชุมชนเคหะหนองหานสะดวกสะบาย เพราะอยู่ใกล้ที่ทำงาน มีสภาพแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ เชื่อมกับคลองส่งน้ำด้านหลังภูเขา จึงรู้สึกคุ้มค่าเมื่อเทียบกับบ้านจัดสรรราคาสูงที่ต้องจ่ายค่าส่วนกลางราคาสูง
“ถือว่าเป็นนโยบายที่ดีของรัฐบาล ที่ช่วยเหลือและให้โอกาสประชาชนรายได้น้อยอยากมีที่อยู่อาศัยได้มีบ้าน เพราะทางหน่วยงานได้จัดสรรเรื่องของการซื้อขายและตัวบ้านไว้หมดแล้ว รอแต่เพียงประชาชนที่มีความพร้อมที่จะโอน หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่พร้อมจะโอนทางการเคหะฯ ก็มีนโยบายมารองรับกลุ่มคนที่กู้ธนาคารไม่ผ่านเหมือนกัน” ลูกบ้านเคหะชุมชนฯ กล่าว
สำหรับผู้สนใจต้องมีคุณสมบัติ ต้องเป็นสัญชาติไทย บรรลุนิติภาวะ แบ่งเป็น 2 กรณี 1. หากจองที่อยู่อาศัยไม่เกิน 740,000 บาท ต้องมีรายได้ไม่เกิน 40,000 บาทต่อเดือน 2.กรณีจองที่อยู่อาศัยราคาตั้งแต่ 740,001 ขึ้นไป ไม่จำกัดรายได้ เงินจองเริ่มต้น 1 บาท

ทั้งนี้ ในอนาคตการเคหะแห่งชาติยังมีความร่วมมือกับองค์กรเอกชนช่วยจัดสรรเกี่ยวกับการออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัยยิ่งขึ้น และยังมีแนวโน้มจะสร้างที่อยู่อาศัยตามแนวขนส่งมวลชนกรุงเทพ และบ้านพักผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอีกในภาคใต้ และกระจายไปตามพื้นที่ของประเทศไทย จึงนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่เดือนร้อนเรื่องการผ่อนบ้านกับเอกชนที่มีข้อจำกัดเยอะ มีเพดานความเสี่ยงที่สูง และอาจจะยังไม่ครอบคลุมทั่วทุกกลุ่มประชาชน .
