ใช่ 'เสี่ยพัด' หรือไม่? แกะรอยนักธุรกิจกัมพูชาปริศนา คนเดินเกมผลปย.หมื่นล.โรงไฟฟ้าสตึงมนัม
"...ก่อนหน้านี้ สื่อมวลชน หลายสำนักยืนยันข้อมูลว่า นายพัด สุภาภา หรือ 'เสี่ยพัด' เป็นผู้ได้รับสัมปทาน 'จำหน่ายไฟฟ้า' แต่เพียงผู้เดียวในกัมพูชา โดยซื้อไฟฟ้ามาจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทในมือจำนวนมาก รวมถึงธุรกิจบ่อนกาสิโน สถานะของเสี่ยพัด ยังถูกระบุว่าเป็น 'ตัวเชื่อม' ทางธุรกิจระหว่าง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฯฮุนเซน นายกรัฐมนตีกัมพูชาอีกด้วย..."
พลันที่ปรากฎเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีนักธุรกิจชาวกัมพูชารายหนึ่ง ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตนักการเมืองในไทย ซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างมากทางการเมืองในกัมพูชา เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเร่งรัดผลักดันโครงการโรงไฟฟ้าสตึงมนัมระหว่าง 2 ประเทศ ให้เกิดขึ้น และเป็นหนึ่งในข้อมูลสำคัญที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งชะลอการดำเนินงานโครงการนี้ (อ่านประกอบ : ปิดเกม-หยุดแผน นักธุรกิจใหญ่กัมพูชาโผล่! เบื้องหลัง 'บิ๊กตู่' สั่งชะลอโครงการสตึงมนัม?)
ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร ถ้าชื่อของนักธุรกิจกัมพูชารายนี้ จะถูกพุ่งเป้าไปที่ นายพัด สุภาภา หรือ 'เสี่ยพัด' นักธุรกิจเจ้าอาณาจักรเกาะกงผู้ผูกขาดสารพัดสัมปทานในกัมพูชา ซึ่งมีความใกล้ชิดกับ สมเด็จฯฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทันที
เพราะก่อนหน้านี้ สื่อมวลชน หลายสำนักยืนยันข้อมูลว่า นายพัด สุภาภา หรือ 'เสี่ยพัด' เป็นผู้ได้รับสัมปทาน 'จำหน่ายไฟฟ้า' แต่เพียงผู้เดียวในกัมพูชา โดยซื้อไฟฟ้ามาจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทในมือจำนวนมาก รวมถึงธุรกิจบ่อนกาสิโน
สถานะของเสี่ยพัด ยังถูกระบุว่าเป็น 'ตัวเชื่อม' ทางธุรกิจระหว่าง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฯฮุนเซน นายกรัฐมนตีกัมพูชาอีกด้วย (อ่านประกอบ : 'พัด สุภาภา'ขาใหญ่เกาะกงตัวเชื่อม'แม้ว+ฮุนเซน')
ผู้จัดการออนไลน์ เคยนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ นายพัด สุภาภา หรือ 'เสี่ยพัด' ไว้อย่างน่าสนใจว่า เป็นผู้ลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยได้เช่าที่ดินของรัฐบาลกัมพูชา จำนวนมากทั้งใน จ.เกาะกง และในอำเภออื่น ๆ เช่น อ.สะแออัมเปิล เพื่อรอการพัฒนา หรือการลงทุนนิคมอุตสาหกรรม เกาะกงใน จ.เกาะกง และรวมลงทุนก่อสร้างโรงงานน้ำตาลเกาะกง กับกลุ่มโรงงานน้ำตาลขอนแก่น และนายเจริญ สิริวัฒนภักดี (เสี่ยเบียร์ช้าง) ด้วยเงินลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้ลงทุนพัฒนาโรงแรมเกาะกงฯ ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหล เดินทางมาที่ จ.เกาะกง ภายหลังถนนสาย 48 ก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยใช้เงินกว่า 600 ล้านบาท ก่อสร้างโรงแรมสไตล์รีสอร์ตสุขภาพและสปา จำนวนถึง 550 ห้อง โดยมีห้องพักในหลายระดับตั้งแต่ 1,000 บาท- 15,000 บาท
ในจำนวนนี้ มีห้องสูทระดับ President Room 2 ห้อง ที่สมเด็จฯฮุนเซน เดินทางมาเป็นประธานเปิดโรงแรม ได้เข้ามาพัก เมื่อวันที่ 13 และวันที่ 14 พฤษภาคม 2551 ภายในมีทั้งภัตตาคารระดับหรู ที่มีอาหารนานาชาติ ร้านดิวตี้ฟรี สนามเทนนิส ห้องฟิตเนส ห้องนวดแผนไทย ห้องสปาและเซาน่า พร้อมสระว่ายน้ำระดับหรู ติด ชายหาดบ้านจามเยี่ยมที่สวยงามของ จ.เกาะกง ซึ่งเป็นธุรกิจที่คลุมธุรกิจในกัมพูชาได้อย่างกว้างขวาง โดยมี “สมเด็จฮุนเซน” เป็นผู้สนับสนุนให้ “พัด สุภาภา” ก้าวเดินไปอย่าง มั่นคง (อ่านประกอบ : เปิดขุมข่าย"เกาะกง"ในมือ“พัด สุภาภา” ก่อนถ่ายโอนสู่"ทักษิณ ชินวัตร")
ส่วนข้อเท็จจริงที่ว่า นายพัด สุภาภา หรือ 'เสี่ยพัด' เข้ามาเกี่ยวข้องกับโครงการโรงไฟฟ้าสตึงมนัม ด้วยหรือไม่
คำตอบน่าจะหาได้ไม่ยาก ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีข้อมูลอยู่ในมือว่า บริษัท Steung Meteuk Hydropower จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในกัมพูชา ที่ได้รับสิทธิจาก กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของกัมพูชา ในการทำ Feasibility Study เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าสตึงมนัม ก็จะรู้ได้ทันทีว่า มีชื่อ นายพัด สุภาภา หรือ 'เสี่ยพัด' หรือบุคคลใกล้ชิดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ติดต่อไปยัง นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน เพื่อตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียด บริษัท Steung Meteuk Hydropower จำกัด โดยเฉพาะข้อมูลเรื่องกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัทฯ
ได้รับแจ้งจาก นายทวารัฐ สูตะบุตร ไม่ทราบข้อมูลเหมือนกันว่า ใครเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น ของ บริษัท Steung Meteuk Hydropower จำกัด ข้อมูลที่มีอยู่มีเพียงแค่ว่า ทางการกัมพูชา ทำหนังสือยืนยันมาว่า ได้มอบหมายให้ บริษัท Steung Meteuk Hydropower จำกัด เป็นตัวแทนดำเนินงานโครงการโรงไฟฟ้าสตึงมนัม ในส่วนของกัมพูชา
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ได้พยายามสืบค้นข้อมูล บริษัท Steung Meteuk Hydropower จำกัด ในเว็บไซต์ทั้งประเทศและต่างประเทศ ไม่ปรากฎข้อมูลยืนยันเป็นทางการว่า ใครเป็นกรรมการหรือเข้ามาถือหุ้นในบริษัทเอกชนแห่งนี้บ้าง
สำหรับข้อมูลบริษัทในประเทศไทย ของ นายพัด สุภาภา หรือ 'เสี่ยพัด' หรือบุคคลใกล้ชิด พบข้อมูลว่า น.ส. เยาวลักษณ์ สุภาภา ลูกสาวคนกลาง ปรากฎชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น บริษัท เกาะกง อิมปอร์ต เอ็กปอร์ต จำกัด
จดทะเบียน 29 ก.ค.2546 แจ้งทุน 2 ล้านบาท
ตั้งอยู่เลขที่ 37 หมู่ที่ 4 ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด
แจ้งประกอบธุรกิจให้เช่าอาคาร
ปรากฎชื่อ น.ส. เยาวลักษณ์ สุภาภา นาง มานี สุภาภา น.ส. อาพร สุภาภา นาย เยอะ เซง เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 30 เมษายน 2560 นาง มานี สุภาภา ถือหุ้นใหญ่ 30% มูลค่า 600,000 บาท น.ส. เยาวลักษณ์ สุภาภา ถืออยู่ 25% มูลค่า 500,000 บาท
นำส่งข้อมูลงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ล่าสุด ณ 31 ธันวาคม 2559 แจ้งว่า มีรายได้รวม 1,739,448.46 บาท รวมรายจ่าย 1,406,857.37 บาท กำไรสุทธิ 332,591.09 บาท
จากการตรวจสอบยังพบว่า น.ส. เยาวลักษณ์ สุภาภา ยังปรากฎชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ดิจิตอล บรอดคาสท์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด
จดทะเบียน 10 พฤศจิกายน 2558 มีทุน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่ เลขที่ 156 ซอยพระรามเก้า 64 ถนนพระราม 9 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจ ขนส่งและขนถ่ายสินค้า คน โดยสารทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ
แต่ปัจจุบันจดทะเบียนเลิกบริษัทไปแล้ว ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 และขณะนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี
ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันที่ 21 ก.ย.2560 ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา ได้พยายามติดต่อไปยัง บริษัท เกาะกง อิมปอร์ต เอ็กปอร์ต จำกัด ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือ 039-588-171-2 เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของ นายพัด สุภาภา หรือ 'เสี่ยพัด' กับ บริษัท Steung Meteuk Hydropower จำกัด จาก น.ส. เยาวลักษณ์ สุภาภา แต่ไม่มีผู้รับสาย
จึงทำให้ยังไม่สามารถหาข้อมูลได้ว่า นายพัด สุภาภา หรือ 'เสี่ยพัด' กับ บริษัท Steung Meteuk Hydropower จำกัด แท้จริงแล้วมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่
ดังนั้น เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า เหตุผลลึกๆ จริงๆ ที่มาของการสั่งชะลอโครงการโรงไฟฟ้าสตึงมนัม ของพล.อ.ประยุทธ์ ว่า เพราะไปรับรู้รับทราบข้อมูลสำคัญบางประการ เกี่ยวกับเบื้องหลังการดำเนินงานโครงการนี้ ว่า มีกลุ่มบุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด กับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพลังงานเข้าไปเกี่ยวข้องในโครงการ โดยไปจับมือกับนักธุรกิจชาวกัมพูชารายหนึ่งที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตนักการเมืองในไทยรายหนึ่ง และเป็นผู้ที่มีบทบาทอย่างมากในกัมพูชา เพื่อเร่งรัดผลักดันโครงการนี้ให้เกิดขึ้นให้ได้
เนื่องจากภายใต้แผนการดำเนินงานโครงการนี้ มีการระบุถึงเรื่องการลงทุนทำโครงการวางท่อเพื่อผันน้ำมาทางฝั่งตะวันออกที่ใช้เม็ดเงินลงทุนจำนวนมหาศาล ซึ่งมีการระบุตัวให้เอกชนรายหนึ่ง เตรียมที่จะเข้ามารับงานนี้เอาไว้ด้วย ขณะที่คนในรัฐบาลกัมพูชา ก็ดูเหมือนจะรับรู้รับทราบข้อมูลเรื่องนี้เป็นอย่างดี และไฟเขียวปล่อยให้ดำเนินการต่อ
โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า นักธุรกิจกัมพูชาคนนั้น แท้จริงแล้ว คือ นายพัด สุภาภา หรือ 'เสี่ยพัด' หรือไม่?
จึงยังเป็นปริศนาที่ต้องค้นหาความจริงกันต่อไป