ภาคประชาสังคมเผยอายุต่ำกว่า 20 ปี 40% เคยเล่นพนัน-แนะสร้างภูมิคุ้มกัน รู้ทันบอลออนไลน์
วันเยาวชนเเห่งชาติ ภาคประชาสังคมขับเคลื่อนหยุดพนัน ยกผลศึกษาอายุต่ำกว่า 20 ปี 40% เคยมีประสบการณ์เล่น ด้าน ประธานเครือข่ายยุวทัศน์แนะสร้างจิตสำนึกคนGen Z ขณะที่ 'เต๋อ ฉันทวิชช์' ยอมรับเป็นเรื่องยากจะหลีกเลี่ยง จะเล่นต้องอยู่ในสภาวะคุมได้ เผยต้องเร่งสร้างภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะบอลออนไลน์
วันที่ 20 ก.ย. 2560 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน จัดเสวนาเนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ เรื่อง เยาวชนไทยจะอยู่อย่างไรในสังคมนิยมเสี่ยง (พนัน) ณ โรงแรมแมนดาริน สามย่าน กรุงเทพฯ
นายมานพ แย้มอุทัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. กล่าวว่า ธุรกิจการพนันก้าวล้ำมากในโลกออนไลน์ ทำให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้ง่าย เกิดความอยากรู้ อยากลอง โดยผลสำรวจของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ล่าสุดพบว่า เยาวชนไทยที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ร้อยละ 40 เคยมีประสบการณ์เล่นการพนัน ขณะที่คนไทยที่เล่นพนันร้อยละ 60 เริ่มเล่นตั้งแต่อายุไม่ถึง 20 ปี จึงแสดงให้เห็นว่าการพนันกับเยาวชนเป็นสิ่งใกล้ตัวกันมาก ทุกภาคส่วนจึงต้องมีส่วนร่วมในการดูแลปกป้องเด็กและเยาวชน
นายฉันทวิชช์ ธนะเสวี หรือ เต๋อ ดารานักแสดง และนักเขียนบท กล่าวว่า สมัยก่อนเคยเล่นไพ่ แต่เรามองว่าเป็นความสนุก และเป็นเหมือนเกมบางอย่าง เพราะต้องยอมรับว่า จะหลีกเลี่ยงการพนันค่อนข้างยาก ทั้งนี้ ต้องอยู่ในสภาวะที่ควบคุมได้ด้วย แต่เมื่อเกินสภาวะที่ควบคุมได้ จะก่อให้เกิดปัญหาตามมา ทั้งนี้ ปัจจุบันยอมรับตามไม่ทันเรื่องพนันฟุตบอลออนไลน์ แต่เท่าที่รับรู้มาทราบว่า เข้าถึงง่ายมาก และจะกลายเป็นเรื่องน่ากลัว เพราะเราไม่รู้ว่า คนที่เล่นกับเรานั้นมีใครบ้าง อย่างไรก็ตาม ต้องเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กและเยาวชนให้มีวิจารณญาณยับยั้งมากขึ้น
ด้านน.ส.สุวนัน ลีลาขจรจิต แกนนำเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน กล่าวว่า ยุค 4.0 อะไร ๆ ก็ง่าย ด้วยเทคโนโลยี ทำให้มีความเสี่ยงกับเยาวชนได้ง่ายในเรื่องการพนัน เพราะมีแอปพลิเคชั่นเกิดขึ้นใหม่จำนวนมาก จึงกล่าวได้ว่า การพนันเข้าถึงได้ด้วยปลายนิ้ว หลายคนจึงอยากจะลองเล่น ทั้งนี้ ส่วนตัวเคยพบเจอคนรอบข้างติดการพนันออนไลน์ ทำให้เสียการเรียน ถึงขั้นเสียเพื่อนไปเลยก็มี เนื่องจากถูกยืมเงิน ข้อเสียเหล่านี้ทำให้เป็นภูมิคุ้มกันกับตนเองไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันเหล่านี้
ขณะที่ นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ ประธานเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพฯ กล่าวว่า การพนันมีมานาน ตั้งแต่พนันว่าใครแพ้ ใครชนะ ทำให้กลายเป็นเรื่องปกติในสังคมหรือไม่ ทางออกจะต้องปรับความเข้าใจใหม่เรื่องการพนัน ไม่ให้เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของเด็ก ซึ่งประเทศไทยยากจะเลิกได้ เพราะขนาดประเทศที่มีกฎหมายเคร่งครัดยังเลิกไม่ได้ ดังนั้น เมื่อแก้ไขคนรุ่นเก่าไม่ได้ จะต้องเริ่มต้นแก้ไขเด็กรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z ให้มีความเข้าใจใหม่ว่า การพนันเป็นสิ่งที่ไม่ดี
สุดท้าย นายณัฏฐ์วัฒน์ วรรณสอน เยาวชนที่เคยได้รับผลกระทบจากการพนัน กล่าวว่า เล่นการพนันตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษา และสภาพแวดล้อมที่บ้านเป็นชนบท ทำให้เข้าถึงง่ายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด การพนัน ความรุนแรง ซึ่งประสบการณ์ได้ไปอยู่กลุ่มเพื่อน รู้สึกมีคุณค่าเวลาอยู่กับเพื่อน แตกต่างจากอยู่ที่บ้านเหมือนไม่มีคุณค่า
“เริ่มก้าวเข้ามาสู่การพนัน จากการเล่นพนันฟุตบอลตามบ้าน ยังไม่ได้ออนไลน์เหมือนปัจจุบัน ซึ่งช่วงนั้นเป็นฟุตบอลยูโร แต่คู่กรณีไม่ยอมจ่ายพนัน เมื่อทวงเงินไม่ได้ เกิดทะเลาะวิวาท ระยะเวลาเกือบปี จนมาถึง หมัด มีด ปืน สุดท้าย ทวงเงินไม่ได้ก็ใช้ปืนยิงคู่กรณีจนเสียชีวิต” เยาวชนที่เคยได้รับผลกระทบจากการพนัน กล่าว .