11ปีรัฐประหาร คมช.!ผ่าขุมทรัพย์-ธุรกิจ‘ชินวัตร VS บุญยรัตกลิน’
“…นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นการแตกแยกทางการเมืองระหว่างประชาชนอย่างรุนแรง มีการแบ่งฝักฝ่าย และเป็นอีกชนวนเหตุหนึ่งให้เกิดการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2551 และปี 2552-2553 จนมีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก กระทั่งนำไปสู่การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เมื่อปี 2556-2557 และเปิดเส้นทางให้ทหารเข้ามายึดอำนาจได้อีกครั้งหนึ่งนั่นเอง…”
19 ก.ย. 2549 คือวันที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ. ขณะนั้น) ตัดสินใจครั้งสำคัญ ทำการ ‘รัฐประหาร’ รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ยศและตำแหน่งขณะนั้น) ผู้มากบารมี และนั่งเก้าอี้มายาวนานถึง 5 ปีเศษ (เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกปี 2544) โดยใช้ชื่อว่าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
การรัฐประหารครั้งดังกล่าว ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทำให้สังคมไทยแตกร้าว ขั้วการเมืองถูกแบ่งออกเป็น 2 สีอย่างชัดเจน และไม่สามารถประสานกันได้อีกต่อไป ?
ผ่านมาแล้ว 11 ปี ณ วันนี้ (19 ก.ย. 2560) พล.อ.สนธิ เมื่อลงจากหลังเสือ ได้ตั้งพรรคการเมืองชื่อ ‘มาตุภูมิ’ เคยเป็น ส.ส. 1 สมัย (ปี 2554-2556) และปัจจุบันลดบทบาททางการเมือง ภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐประหารเมื่อ 22 พ.ค. 2557
ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ปัจจุบันคือนายทักษิณ (ถูกถอดยศเมื่อปี 2558) ภายหลังรัฐประหารยังคงมีบทบาททางการเมืองเรื่อยมา แม้พรรคไทยรักไทยถูกยุบ ได้ตั้งพรรคพลังประชาชน ต่อมาพรรคพลังประชาชนถูกยุบ ได้ตั้งพรรคเพื่อไทย ผลักดัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จเมื่อปี 2554 อย่างไรก็ดีในช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ บริหารประเทศ เกิดม็อบขึ้นมามากมาย รวมถึงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการบริหารราชการ โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว และการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)
ปัจจุบันคดีระบายข้าวจีทูจี ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาแล้วว่า มีการทุจริตขึ้นจริง และลงโทษจำคุกหนักอดีตรัฐมนตรี อดีตข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ เครือข่ายบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ไปแล้ว รวม 15 ราย ยกฟ้อง 8 ราย และหลบหนีคดี 3 ราย
ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตกเป็นจำเลย คดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว และหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2560 ที่ผ่านมา ศาลฎีกาฯออกหมายจับ และนัดอ่านคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 27 ก.ย. 2560
ลองมาดูขุมข่ายทางธุรกิจ และทรัพย์สินกันของ 2 ตระกูลนี้กันบ้าง ?
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน
แจ้งบัญชีทรัพย์สินครั้งแรกช่วงนั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี (รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์) เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2550 ระบุว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 38,796,977 บาท แบ่งเป็นเงินฝากกว่า 10 ล้านบาท บัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์กว่า 13 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน
ส่วนนางสุกัลยา บุญยรัตกลิน (ภรรยาคนแรก) มีทรัพย์สินรวม 14,041,233 บาท นางปิยะดา บุญยรัตกลิน (ภรรยาคนที่สอง) มีทรัพย์สินรวม 42,073,106 บาท มีที่ดินถึง 17 แปลง รวม 16,653,600 บาท ส่วน น.ส.ศศิภา บุญรัตกลิน (บุตร) มีทรัพย์สิน 323,702 บาท
หลังจากนั้น พล.อ.สนธิ ตั้งพรรคมาตุภูมิ ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2554 ระบุสถานะว่า สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 46,834,299 บาท เป็นเงินฝากกว่า 24 ล้านบาท เงินลงทุนกว่า 13 ล้านบาท ที่ดิน 6.3 ล้านบาท มีหนี้สิน 5.5 แสนบาท
ระบุชื่อคู่สมรสรายเดียวคือ นางสุกัลยา มีทรัพย์สินรวม 14,763,343 บาท ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (ขณะนั้น) มีทรัพย์สิน 638,829 บาท
ต่อมาเมื่อพ้นตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2556 ระบุสถานะว่า โสด มีทรัพย์สิน 52,352,129 บาท เป็นเงินฝากกว่า 31 ล้านบาท มีที่ดิน 6 แปลง มูลค่า 3.3 ล้านบาท
ต่อมาเมื่อพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2557 ระบุสถานะว่า โสด มีทรัพย์สิน 67,805,469 บาท เป็นเงินฝากกว่า 31 ล้านบาท เงินลงทุนกว่า 15 ล้านบาท มีที่ดิน 2 แปลง แต่ระบุมูลค่า 12.8 ล้านบาท (แปลงหนึ่งโฉนดเลขที่ 23696 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. ได้มาเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2556 เนื้อที่ 3 งาน 56 5/10 ตรว. มูลค่า 9.5 ล้านบาท ระบุว่า กู้ร่วม)
อย่างไรก็ดีช่วงเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. พล.อ.สนธิ เคยแจ้งถือครองที่ดิน 6 แปลง แบ่งเป็น จ.สงขลา 5 แปลง และเขตดุสิต กทม. 1 แปลง ต่อมาได้แจ้งขายที่ดินเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2556 1 แปลง และวันที่ 17 ต.ค. 2556 4 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 77 ไร่
สำหรับขุมข่ายธุรกิจของ พล.อ.สนธิ ยังตรวจสอบไม่พบ แต่พบว่า นางขนิษฐา บุญยรัตกลิน และนางวิจิตรา บุญยรัตกลิน น้องสาวของ พล.อ.สนธิ แจ้งประกอบธุรกิจรวม 4 แห่ง ปิดตัวไปแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท บายอัส ไซเน็ท จำกัด บริษัท รัตนกลิน จำกัด และ หจก.บายอัส จำกัด (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุสถานะว่า ร้าง)
ส่วนที่ยังดำเนินธุรกิจอยู่คือ บริษัท เอกาย ไซน์ อินดัสเทรียล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2547 ทุนปัจจุบัน 2 ล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายใน มีนางขนิษฐา บุญรัตกลิน เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2558 มีรายได้รวม 17,255,045 บาท กำไรสุทธิ 1,015,740 บาท (อ่านประกอบ : ปรองดองล่ม“บิ๊กบัง”หย่าเมียคนแรก?-ขายที่ดินเกลี้ยง 77 ไร่)
ส่วนฝั่ง ‘ชินวัตร’ เฉพาะนายทักษิณ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ (อดีตภรรยา) บุตร (นายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา และ น.ส.แพทองธาร) เครือญาติ และคนใกล้ชิด
นายทักษิณ ชินวัตร แจ้งทรัพย์สินครั้งสุดท้าย ช่วงพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครบ 1 ปี เมื่อปี 2550 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 614,393,759 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากธนาคารกว่า 551,257,421 บาท ส่วนคุณหญิงพจมาน มีทรัพย์สิน 8,594,784,177 บาท (รวม 8.5 พันล้านบาท) ส่วนใหญ่เป็นที่ดิน 123 แปลง มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท และธุรกิจหลายสิบแห่ง มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังมีอสังหาริมทรัพย์เป็นบ้านและคอนโดอีกจำนวนมาก มีหนี้สินประมาณ 110 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีนายทักษิณเคยให้สัมภาษณ์ Tom Plate ในหนังสือ Conversation with THAKSIN ตีพิมพ์ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 2554 ระบุภายหลังถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายึดทรัพย์กว่า 4.6 หมื่นล้านบาทว่า ทรัพย์สินที่ถูกยึดนั้นคิดเป็น 60% ของทรัพย์สินทั้งหมด หรือประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และทรัพย์สินที่อยู่เมืองไทยมีเพียง 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯเท่านั้น ส่วนตอนทีอยู่ต่างประเทศได้ลงทุนเหมืองแร่เป็นจำนวนมาก
สำหรับขุมข่ายธุรกิจของสกุล ‘ชินวัตร’ ที่ตรวจสอบพบในไทย มีอยู่หลายแห่ง ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และมีคนใกล้ชิดถือหุ้น และเป็นกรรมการ โดยมีบริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) คือธุรกิจเบอร์หนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับสกุลชินวัตรมากที่สุด เฉพาะไตรมาส 2/2560 มีรายได้กว่า 4 พันล้านบาท กำไรกว่า 300 ล้านบาทเข้าไปแล้ว
ส่วนบริษัททั้งหมด (เท่าที่ตรวจสอบพบ) มีดังนี้
1.บริษัท พี.ที.คอร์ปอเรชั่น จำกัด ทุนปัจจุบัน 3.7 พันล้านบาท สินทรัพย์รวม 3,554,529,226 บาท มีนายชานนท์ สุวสิน และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน (เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน) เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดปี 2559 มีรายได้รวม 184,611,556 บาท รายจ่ายรวม 211,310,498 บาท ขาดทุนสุทธิ 53,705,782 บาท
2.บริษัท โอเอไอ แมนเมจเม้นท์ จำกัด ทุนปัจจุบัน 2.7 พันล้านบาท สินทรัพย์รวม 2,749,011,931 บาท มีนายชานนท์ สุวสิน และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 36,919,770 บาท มีรายจ่ายรวม 36,065,321 บาท ขาดทุนสุทธิ 2,474,265 บาท
3.บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ทุนปัจจุบัน 4.6 พันล้านบาท สินทรัพย์รวม 3,925,074,324 บาท มี น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ แจ้งบบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 77,534,399 บาท รายจ่ายรวม 101,305,994 บาท ขาดทุนสุทธิ 23,771,595 บาท
4.บริษัท บี.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ทุนปัจจุบัน 240 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 626,833,662 บาท มีนายชานนท์ สุวสิน และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 14,813,492 บาท รายจ่ายรวม 49,777,554 บาท ขาดทุนสุทธิ 34,964,061 บาท
5.บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ทุนปัจจุบัน 747 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 601,546,551 บาท มี น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 281,674,804 บาท รายจ่ายรวม 264,676,985 บาท กำไรสุทธิ 13,738,540 บาท
6.บริษัท ประไหมสุหรี พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด ทุนปัจจุบัน 3,340,000,000 บาท สินทรัพย์รวม 1,994,026,468 บาท มีนายชานนท์ สุวสิน และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 2,492,702 บาท รายจ่ายรวม 488,052 บาท (ดอกเบี้ย 8,275,000) ขาดทุนสุทธิ 6,270,350 บาท
7.บริษัท เอส ซี ออฟฟิซ ปาร์ค จำกัด ทุนปัจจุบัน 160 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 224,910,243 บาท มีนายชานนท์ สุวสิน และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 45,076,457 บาท รายจ่ายรวม 41,303,512 บาท กำไรสุทธิ 2,932,184 บาท
8.บริษัท โอเอไอ คอนซัลแต้นท์แอนด์แมนเนจเม้นท์ จำกัด ทุนปัจจุบัน 700 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 553,352,844 บาท มี น.ส.พินทองธา ชินวัตร คุณากรวงศ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนางกาญจนภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 171,822,136 บาท รายจ่ายรวม 164,248,798 บาท กำไรสุทธิ 6,631,616 บาท
9.บริษัท เอสซี ออฟฟิซ พลาซ่า จำกัด ทุนปัจจุบัน 1,380,000,000 บาท สินทรัพย์รวม 1,423,273,702 บาท มีนายชานนท์ สุวสิน และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 16,410,737 บาท รายจ่ายรวม 16,622,819 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,422,076 บาท
10.บริษัท เอส ซี เค เอสเทต จำกัด ทุนปัจจุบัน 1,830 ล้านบาท สินทรัพย์ 1,833,291,705 บาท มีนายชานนท์ สุวสิน และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 2,022,345 บาท รายจ่ายรวม 1,122,192 บาท กำไรสุทธิ 719,304 บาท
11.บริษัท โอเอไอ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ทุนปัจจุบัน 2.5 พันล้านบาท สินทรัพย์รวม 480,449,790 บาท มีนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ นายชานนท์ สุวสิน และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 รายได้รวม 780,837 บาท รายจ่ายรวม 128,216,666 บาท ขาดทุนสุทธิ 127,435,828 บาท
12.บริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) ทุนปัจจุบัน 4,379,332,012 บาท สินทรัพย์รวม (ปี 2560) 36,203 ล้านบาท มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถือหุ้นใหญ่สุด 29.10% น.ส.พินทองทา ชินวัตร 28.16% นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ 4.81% คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ 2.80% แจ้งงบการเงินล่าสุดปี 2560 (ไตรมาส 2) มีรายได้รวม 4,615.80 ล้านบาท กำไรสุทธิ 339.60 ล้านบาท
13.บริษัท โพมิเน็นท์ ถลาง จำกัด ทุนปัจจุบัน 200 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 774,131,832 บาท มีนายอุดมศักดิ์ โง้วศิริ และนายยรรยง วัฒนวงศ์พิทักษ์ เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 1,095,406 บาท รายจ่ายรวม 90,756 บาท (ดอกเบี้ย 5,891,404 บาท) ขาดทุนสุทธิ 4,886,753 บาท
14.บริษัท เรนด์ เพลินจิต โฮเต็ล จำกัด ทุนปัจจุบัน 700 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 2,046,907,341 บาท มีนายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นางกาญจนาภา หงษ์เหิน และนายอุดมศักดิ์ โง้วศิริ เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดปี 2559 มีรายได้รวม 120,071 บาท รายจ่ายรวม 2,100,476 บาท (ดอกเบี้ย 7,957,244 บาท) ขาดทุนสุทธิ 9,937,649 บาท
15.บริษัท เทมส์ วัลลี่ย์ เขาใหญ่ โฮเต็ล จำกัด ทุนปัจจุบัน 400 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 425,024,671 บาท มี น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายอุดมศักดิ์ โง้วศิริ เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 104,561,505 บาท รายจ่ายรวม 100,319,314 บาท กำไรสุทธิ 3,386,893 บาท
16.บริษัท อัลไพน์ การ์เด้น ดีไซน์ จำกัด ทุนปัจจุบัน 20 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 38,819,059 บาท มี น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายอุดมศักดิ์ โง้วศิริ และ น.ส.ลัดดาวัลย์ ศรชัย เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 66,658,059 บาท รายจ่ายรวม 61,092,540 บาท กำไรสุทธิ 4,445,178 บาท
17.บริษัท โซลิด แอสเซท จำกัด ทุนปัจจุบัน 15 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 28,970,232 บาท มีนายเจริญ นัดพบสุข น.ส.นิลุบล กลิ่นประทุม และนายอุดมศักดิ์ โง้วศิริ เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 39,651,254 บาท รายจ่ายรวม 39,968,416 บาท ขาดทุนสุทธิ 413,165 บาท
18.บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด ทุนปัจจุบัน 600 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 2,269,424,956 บาท มีนายเสถียร ภู่ประเสริฐ นายมงคล ตัญจพัฒน์กุล นายวิรุฬห์ มาวิจักขณ์ นายประเสริฐ ไตรรัตน์วรกุล นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พลเอกสหชาติ พิพิธกุล นายอรรถพล สฤษฏิพันธาวาทย์ นายสมบูรณ์ คุปติมนัส นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และนางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 2,238,341,927 บาท รายจ่ายรวม 1,945,712,835 บาท กำไรสุทธิ 267,233,875 บาท
19.บริษัท บางกอก เทเลคอม เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ทุนปัจจุบัน 10 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 841,238,823 บาท มีนายสมบูรณ์ คุปติมนัส นายสุดเขต สุจิพิธธรรม และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 1,089,463,225 บาท รายจ่ายรวม 911,748,452 บาท กำไรสุทธิ 143,123,401 บาท
20.บริษัท ทุนนวัตกรรม จำกัด ทุนปัจจุบัน 480 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 451,850,548 บาท มีนายชานนท์ สุวสิน และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 492,375 บาท รายจ่ายรวม 456,334 บาท กำไรสุทธิ 36,041 บาท
21.บริษัท โอเอไอ ลีสซิ่ง จำกัด ทุนปัจจุบัน 225 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 92,111,927 บาท มีนายชานนท์ สุวสิน และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 12,762,492 บาท รายจ่ายรวม 40,845,776 บาท ขาดทุนสุทธิ 28,083,283 บาท
22.บริษัท เดอะ ซิสเตอร์ส เนลส์ จำกัด ทุนปัจจุบัน 20 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 9,319,409 บาท มีนางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 8,290,578 บาท รายจ่ายรวม 8,580,095 บาท ขาดทุนสุทธิ 289,516 บาท
23.บริษัท ฮาวคัม สตูดิโอ จำกัด ทุนปัจจุบัน 30 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 30,392,258 บาท มีนายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา ชินวัตร และนายเฉลิม แผลงศร เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 18,565,219 บาท รายจ่ายรวม 26,124,711 บาท ขาดทุนสุทธิ 7,931,250 บาท
24.บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด ทุนปัจจุบัน 2,310 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 1,462,065,394 บาท มีนายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ นายเฉลิม แผลงศร นายทรงศักดิ์ เปรมสุข น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายประทีป คงสิบ และนายเมฆินทร์ เพ็ชรลาย เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุด เมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 179,229,409 บาท มีรายจ่ายรวม 534,347,522 บาท ขาดทุนสุทธิ 368,016,922 บาท
25.บริษัท โอคานิท จำกัด ทุนปัจจุบัน 35 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 3,877,720 บาท มีนายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา และ น.ส.แพทองธาร เป็นกรรมการ แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 191,860 บาท มีรายจ่ายรวม 3,760,464 บาท ขาดทุนสุทธิ 3,760,026 บาท (ดูตารางประกอบ)
เบ็ดเสร็จ 25 บริษัท สินทรัพย์รวมล่าสุด 62,643,434,616 บาท (ราว 6.2 หมื่นล้านบาท)
นี่คือขุมข่ายธุรกิจ-ทรัพย์สินของคนสกุล ‘ชินวัตร’ (เฉพาะในไทย ไม่นับรวมกิจการของสกุล 'ดามาพงศ์' และ 'วงศ์สวัสดิ์' หรือธุรกิจอื่นที่ต่างประเทศ) และ ‘บุญรัตกลิน’
เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้วจะเห็นได้เลยว่า เรื่องเงินทอง ‘บิ๊กบัง’ คงไม่อาจสู้ ‘ทักษิณ’ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อ 11 ปีก่อน หรือปัจจุบันก็ตาม
แต่ด้วย ‘ขุมกำลัง-อำนาจ’ ทำให้ พล.อ.สนธิ สามารถรัฐประหารรัฐบาลนายทักษิณที่ขณะนั้นครองคะแนนความนิยมจากประชาชนอย่างเหนียวแน่นลงได้
อย่างไรก็ดีนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นการแตกแยกทางการเมืองระหว่างประชาชนอย่างรุนแรง มีการแบ่งฝักฝ่าย และเป็นอีกชนวนเหตุหนึ่งให้เกิดการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2551 และปี 2552-2553 จนมีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก กระทั่งนำไปสู่การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เมื่อปี 2556-2557
เปิดเส้นทางให้ทหารเข้ามายึดอำนาจกุมบังเหียนบริหารประเทศอีกครั้ง
บริษัท |
สินทรัพย์ปัจจุบัน |
กำไร/ขาดทุน (ปี 2559) |
บริษัท พี.ที.คอร์ปอเรชั่น จำกัด |
3,554,529,226 บาท |
-53,705,782 บาท |
บริษัท โอเอไอ แมนเมจเม้นท์ จำกัด |
2,749,011,931 บาท |
-2,474,265 บาท |
บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด |
3,925,074,324 บาท |
-23,771,595 บาท |
บริษัท บี.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด |
626,833,662 บาท |
-34,964,061 บาท |
บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด |
601,546,551 บาท |
13,738,540 บาท |
บริษัท ประไหมสุหรี พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด |
1,994,026,468 บาท |
-6,270,350 บาท |
บริษัท เอส ซี ออฟฟิซ ปาร์ค จำกัด |
224,910,243 บาท |
2,932,184 บาท
|
บริษัท โอเอไอ คอนซัลแต้นท์แอนด์แมนเนจเม้นท์ จำกัด |
553,352,844 บาท |
6,631,616 บาท |
บริษัท เอสซี ออฟฟิซ พลาซ่า จำกัด |
1,423,273,702 บาท |
-1,422,076 บาท |
บริษัท เอส ซี เค เอสเทต จำกัด |
1,833,291,705 บาท |
719,304 บาท |
บริษัท โอเอไอ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด |
480,449,790 บาท |
-127,435,828 บาท |
บริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) |
36,203 ล้านบาท |
(ไตรมาส 2/2560) 339.60 ล้านบาท |
บริษัท โพมิเน็นท์ ถลาง จำกัด |
774,131,832 บาท |
-4,886,753 บาท |
บริษัท เรนด์ เพลินจิต โฮเต็ล จำกัด |
2,046,907,341 บาท |
-9,937,649 บาท |
บริษัท เทมส์ วัลลี่ย์ เขาใหญ่ โฮเต็ล จำกัด |
425,024,671 บาท |
3,386,893 บาท |
บริษัท อัลไพน์ การ์เด้น ดีไซน์ จำกัด |
38,819,059 บาท |
4,445,178 บาท |
บริษัท โซลิด แอสเซท จำกัด |
28,970,232 บาท |
-413,165 บาท |
บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด |
2,269,424,956 บาท |
267,233,875 บาท |
บริษัท บางกอก เทเลคอม เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด |
841,238,823 บาท |
143,123,401 บาท |
บริษัท ทุนนวัตกรรม จำกัด |
451,850,548 บาท |
36,041 บาท |
บริษัท โอเอไอ ลีสซิ่ง จำกัด |
92,111,927 บาท |
-28,083,283 บาท |
บริษัท เดอะ ซิสเตอร์ส เนลส์ จำกัด |
9,319,409 บาท |
-289,516 บาท |
บริษัท ฮาวคัม สตูดิโอ จำกัด |
30,392,258 บาท |
-7,931,250 บาท |
บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด |
1,462,065,394 บาท |
368,016,922 บาท |
บริษัท โอคานิท จำกัด |
3,877,720 บาท |
3,760,026 บาท |
อ่านประกอบ :
ก่อน ปปง.กล่าวโทษคดีฟอกเงินกรุงไทย ขุมธุรกิจพันล.‘พานทองแท้’ ปี’59ฟัน198 ล.ขาดทุนยับ
ตีแผ่ขุมธุรกิจ 4.1 หมื่นล.“ทักษิณ-ครอบครัว”ในประเทศไทย
กล่องดวงใจทักษิณ“ชินวัตร-ดามาพงศ์-วงศ์สวัสดิ์”45 บริษัท 5.2 หมื่นล.
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายทักษิณ จาก oknation, ภาพ พล.อ.สนธิ จาก pantip