โชว์ภาพชุด-หนังสือล่ารายชื่อชาวบ้าน ค้านคำสั่งมท.1 -ทวงคืนที่ดินบ.ลูกกระทิงแดง
"...ตามที่ อบต.บ้านดง ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานต่อกระทรวงมหาดไทยให้ บริษัท เคทีดีฯ เช่าที่สาธารณะประโยชย์ป่าห้วยเม็ก (นสล.) เพื่อใช้เป็นที่กักเก็บน้ำสำหรับประกอบกิจการอุตสาหกรรมผลิตน้ำดื่ม โดยอ้างว่าประชาชนไม่ได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินสาธารณะดังกล่าว เป็นผลทำให้กระทรวงมหาดไทย โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ลงนามในคำสั่งให้เช่าที่ดินป่าห้วยเม็ก ... การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่คำนึงถึงการที่จะสงวนที่ดินไว้ให้อนุชนรุ่นหลัง ไม่คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ร่วมกันในชุมชน ชาวบ้าน จึงลงลายมือชื่อ ถึง พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อคัดค้านการดำเนินการดังกล่าวและให้ยกเลิกคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคืนผืนป่าห้วยเม็กให้กับประชาชนโดยร่วม.."
ทำไมชาวบ้านตำบลบ้านดง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ต้องออกมาร่วมตัวคัดค้านคำสั่งของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่อนุมัติให้ บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เช่าที่ดินป่าห้วยเม็ก เพื่อขยายเขตโรงงาน
จนถึงขนาดต้องล่าลายชื่อเพื่อส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สั่งการกระทรวงมหาดไทย ยกเลิกคำสั่งให้บริษัทฯ เช่าที่ป่าสาธารณห้วยเม็กดังกล่าวเป็นทางการ (อ่านประกอบ : สั่งจว.ขอนแก่นสอบ!'บิ๊กตู่'รู้เรื่องแล้วปมมท.1อนุมัติบ.ลูกกระทิงแดงใช้ที่ดินขยายรง.)
กรณีนี้อาจมีคำอธิบายไปแล้ว จากข้อมูลข่าวที่ปรากฎสู่สาธารณะในช่วงที่ผ่านมา สามารถแบ่งออกเป็นประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้
1. พื้นที่บริเวณนั้น ชาวบ้านระบุว่า เป็นพื้นที่ป่าสาธารณะ ควรเป็นพื้นที่ที่คนส่วนใหญ่ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
2. การอนุมัติของกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า เป็นการดำเนินการตามระเบียบมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 ของประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2543 ข้อ 22 (2) โดยให้เหตผลว่าที่แปลงสาธารณะประโยชน์แปลงดังกล่าว “..ปัจจุบันมีสภาพแห้งแล้งไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ ราษฎรไม่ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้ว และไม่ได้เป็นพื้นที่รับน้ำในฤดูฝนแต่อย่างใด..” และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ราษฎรในพื้นที่ สภา อบต. พิจารณาแล้วเห็นควรอนุมัติกับได้มีการประกาศการขออนุญาตใช้ที่ดินแล้ว “ไม่มีผู้ใด” คัดค้าน
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านยืนยันว่าพื้นที่บริเวณนี้ไม่ได้มีลักษณะเป็นสภาพแห้งแล้ง ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ ตามที่ระบุ
เพราะป่าห้วยเม็กเป็นที่ที่ชาวบ้านอนุรักษ์ไว้เป็นป่าของชุมชน กำหนดกติกาการใช้ประโยชน์ เก็บหาของป่า อยู่ในเขตหมู่บ้านหนองแต้ ม. 6 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เป็นทางน้ำผ่านตามธรรมชาติ เชื่อมกับห้วยทรายไปลงน้ำพอง ห่างจากสปริงเวย์ของเขื่อนอุบลรัตน์ประมาณ 1 กิโลเมตร
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังระบุด้วยว่า เป็นการอนุญาตเกินกำหนดในระเบียบ มท.เกี่ยวกับการใช้ที่ นสล. ข้อ 23 (3) ที่ในแต่ละจังหวัดอนุญาตให้ได้รายละไม่เกิน 10 ไร่ เว้นมีเหตุสมควร ซึ่งหนังสือ มท. ให้เหตุผลว่า "...ที่สาธารณะห้วยเม็กอยู่กึ่งกลางในเขตประกอบการอุตสาหกรรมของบริษัทฯ และบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขยายกิจการและก่อสร้างอาคารโรงงานเพื่อประกอบการอุตสาหกรรม.."
และยังมีข้อมูลระบุว่า บริษัทได้เข้าไปซื้อที่ดินบริเวณโดยรอบป่าชุมชุนตั้งแต่ช่วงปี 2555 ก่อนจะมาขอใช้ที่ดินเพื่อขยายโรงงานช่วงปี 2558 แต่ก็ถูกชาวบ้านคัดค้านมาโดยตลอด ซึ่งเป็นเรื่องคาราคาซังเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน (ข้อมูลจาก เพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลในหนังสือล่าลายชื่อของชาวบ้าน ที่ยื่นถึงพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อคัดค้านการอนุมัติให้บริษัทฯ เช่าที่ดินดังกล่าว มีการระบุข้อมูลดังนี้
ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและได้รายงานต่อกระทรวงมหาดไทยให้ บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เช่าที่สาธารณะประโยชย์ป่าห้วยเม็ก (นสล.) ตามหนังสือสำนักสำหรับที่หลวง เลขที่ ขก 2321 เพื่อใช้เป็นที่กักเก็บน้ำสำหรับประกอบกิจการอุตสาหกรรมผลิตน้ำดื่มโดยอ้างว่าประชาชนไม่ได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินสาธารณะดังกล่าว เป็นผลทำให้กระทรวงมหาดไทย โดยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ลงนามในคำสั่งให้เช่าที่ดินป่าห้วยเม็ก เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2559 ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่คำนึงถึงการที่จะสงวนที่ดินไว้ให้อนุชนรุ่นหลัง ไม่คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ร่วมกันในชุมชน
ชาวบ้าน จึงลงลายมือชื่อ ถึงพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อคัดค้านการดำเนินการดังกล่าวและให้ยกเลิกคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคืนผืนป่าห้วยเม็กให้กับประชาชนโดยร่วม (ดูรูปประกอบท้ายข่าว)
กรณีนี้ มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาใน 2 เรื่องหลัก คือ
1. พื้นที่บริเวณที่มีการอนุมัติให้ใช้ที่ดินดังกล่าว ปัจจุบันมีสภาพแห้งแล้ง ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ และชาวบ้านไม่ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้วจริงหรือไม่?
2. ก่อนหน้าที่ พล.อ.อนุพงษ์ จะลงนามอนุมัติให้บริษัทใช้ประโยชน์ที่ดินพื้นนี้ ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งข้อมูลสภาพที่ดิน และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ครบถ้วนแล้วหรือยัง?
เพราะถ้าข้อมูลของชาวบ้านพูดเป็นความจริง นั้นหมายความว่า การลงนามอนุมัติของ พล.อ.อนุพงษ์ จะมีปัญหาในทางปฏิบัติทันที
และอาจถูกมองจากสาธารณชนว่า มีลักษณะการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน? และยิ่งเป็นประเด็นแหลมคมทางสังคมมากขึ้น เมื่อบริษัทเอกชนที่ได้รับอนุมัติครั้งนี้ คือ บริษัทกระทิงแดง
ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่กระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะพล.อ.อนุพงษ์ จึงต้องรีบออกมาทำความเข้าใจชี้แจงข้อมูลต่อสาธารณชนโดยเร็วที่สุด
และถ้าหากกระบวนการขั้นตอนมีปัญหาในทางปฏิบัติเกิดขึ้นจริง ก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องหาทางแก้ไขปัญหาโดยด่วน คือ ยกเลิกคำสั่งอนุมัติการใช้ที่ดิน เพื่อคืนพื้นที่สาธารณะดังกล่าว กลับไปให้ชาวบ้านซึ่งถือเป็นคนกลุ่มใหญ่ ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันตามที่เคยเป็นมาในอดีต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เช่นกัน
เบื้องต้นได้รับแจ้งจากเลขานายสราวุฒิ อยู่วิทยา ลูกของนายเฉลียว อยู่วิทยา นักธุรกิจชาวไทยเจ้าของบริษัทเครื่องดื่มชูกำลัง กระทิงแดง กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ว่า นายสราวุฒิ ไม่อยู่ และขอให้ฝากเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ จะให้ฝ่ายสื่อสารองค์กรติดต่อกลับมาเพื่อชี้แจงข้อมูลอีกครั้ง