เจาะถุงเงิน3ทีมบอลดังไทยพรีเมียร์ลีกล่าสุด -บุรีรัมย์ เป๋าตุง815ล.เพิ่มทุนพรวด100 ล.
"...ฟุตบอล ยังคงเป็นธุรกิจที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยจะประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง จากปัญหาทางการเมืองมากขนาดไหนก็ตาม.."
การแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุด ยังคงดุเดือดร้อนแรงเช่นเดิม
โดยล่าสุดข้อมูล ณ 3 ก.ย.2560 ผลตารางคะแนน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แข่ง 25 นัด ชนะ 18 เสมอ 5 แพ้ 2 มีคะแนนร่วม 59 แต้ม ขึ้นนำจ่าฝูง ตามมาด้วย เมืองทอง อันดับ2 แบงค็อก ยูไนเต็ด อันดับ 3 เชียงราย ยูไนเต็ด อันดับ 4 บางกอกกล๊าส อันดับ 5 (ดูรายละเอียดในตารางจาก Google)
หากโฟกัสข้อมูลสถานะผลประกอบการทางธุรกิจ ของ 3 ทีมฟุตบอลนำ ในตารางการแข่งขันล่าสุด จะพบว่ามีความน่าสนใจไม่แพ้กัน
@ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด เจ้าของทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
นำส่งงบการเงินล่าสุด ณ 31 ธันวาคม 2559 แจ้งว่ามีรายได้รวม 815,666,740.66 บาท รวมรายจ่าย 825,131,239.02 บาท ขาดทุนสุทธิ 10,090,258.78 บาท
เปรียบเทียบกับปี 2558 แจ้งว่า มีรายได้รวม 597,584,359.06 บาท รวมรายจ่าย 582,154,952.95 บาท กำไรสุทธิ 2,370,395.20 บาท
แม้ในปี 2559 จะโชว์ตัวเลขว่าขาดทุน 10,090,258.78 บาท แต่ถ้าเปรียบเทียบรายได้ จะพบว่า ในปี 2559 มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปี 2558 เป็นวงเงินกว่า 218 ล้านบาท
@ บริษัท เมืองทอง ยูไนเต็ด จำกัด เจ้าของทีม เมืองทอง
นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2559 แจ้งว่ามีรายได้รวม 445,238,015.37 บาท รวมรายจ่าย 431,891,526.66 บาท กำไรสุทธิ 3,632,836.65 บาท
เปรียบเทียบกับปี 2558 แจ้งว่า มีรายได้รวม 326,713,684.16 บาท รวมรายจ่าย 315,538,271.95 บาท กำไรสุทธิ 1,881,163.37 บาท
เท่ากับว่ามีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 118 ล้านบาท
@ บริษัท ทรู ยูไนเต็ด ฟุตบอล คลับ จำกัด เจ้าของทีม แบงค็อก ยูไนเต็ด
นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2559 แจ้งว่ามีรายได้รวม 200,089,276 บาท รวมรายจ่าย 316,035,093.00 บาท ขาดทุนสุทธิ 126,114,267 บาท
ส่วนข้อมูลงบการเงินปี 2558 ในฐานข้อมูลออนไลน์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แจ้งว่า มีข้อมูลไม่สมบูรณ์ ต้องตรวจสอบต้นฉบับเอกสารที่แจ้งไว้อีกครั้ง จึงไม่สามารถเปรียบเทียบผลประกอบการกับปี 2559 ได้
แต่ถ้าหากพิจารณาในเรื่องของการปรับเพิ่มเงินทุนจดทะเบียน จากครั้งแรกที่แจ้งไว้ในช่วงจดทะเบียนจดตั้ง เมื่อปี 2553 จำนวน 20 ล้านบาท กับล่าสุดที่ปรับเพิ่มเป็น 320 ล้านบาท ในช่วงเดือนมิ.ย.2558 ที่ผ่านมา จะพบว่าทุนทางการเงินของ แบงค็อก ยูไนเต็ด เข้มแข็งอย่างมากอีกทีีมหนึ่ง
เช่นเดียวกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่มปรับทุนจดทะเบียน เป็น 100 ล้านบาท ในช่วงปลายเดือนธ.ค.2559 จากเดิม 75 ล้านบาท
ส่วน เมืองทอง ยูไนเต็ด ปรับเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 280 ล้านบาท ในช่วงกลางเดือน ธ.ค.2558 จากเดิมที่แจ้งไว้ 120 ล้านบาท เช่นกัน
ชี้ให้เห็นว่า ฟุตบอล ยังคงเป็นธุรกิจที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยจะประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง จากปัญหาทางการเมืองมากขนาดไหนก็ตาม
สำหรับข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท เจ้าของทีมฟุตบอลทั้ง 3 ทีม นั้น
บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง 26 มีนาคม 2555 ทุนปัจจุบัน 100 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 444 หมู่ที่ 15 ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
แจ้งประกอบธุรกิจสโมสรฟุตบอล ปรากฎชื่อ นายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมืองชื่อดัง และ นายทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 30 เมษายน 2560 นายเนวิน และนาง กรุณา ชิดชอบ ถือหุ้นใหญ่เท่ากัน คนละ13.7867% มูลค่า 13,786,700 บาท
บริษัท เมืองทอง ยูไนเต็ด จำกัด จดทะเบียน 5 กันยายน 2551 ทุนปัจจุบัน 280 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 115/66 ซอยรามอินทรา 40 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจบริหารและจัดการสโมสรฟุตบอลจำหน่ายเครื่องกีฬา อุปกรณ์การกีฬา จำหน่ายเครื่องกีฬาและของที่ระลึก
ปรากฎชื่อ นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายระวิ โหลทอง นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา นายวิลักษณ์ โหลทอง นายวรรคสร โหลทอง นายปราโมทย์ เตชะสุพัฒน์กุล นางวีนัส อัศวสิทธิถาวร เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
ณ วันที่ 20 เมษายน 2560 นาย ระวิ โหลทอง ถือหุ้นใหญ่สุด 44.2857% มูลค่า 105,497,600 บาท ตามด้วย บริษัท ซิเมนต์ไทยโฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 30% มูลค่า 55,996,800 บาท
ส่วนบริษัท ทรู ยูไนเต็ด ฟุตบอล คลับ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง 28 กรกฎาคม 2553 ทุน 320 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 18 อาคารทรู ทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจ กีฬาฟุตบอล ปรากฎชื่อ นายขจร เจียรวนนท์ นายองอาจ ประภากมล นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ นายธัช บุษฏีกานต์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 28 เมษายน 2560 บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 70% มูลค่า 223,999,970 บาท ตามด้วย บริษัท บียูเอฟซี จำกัด 30% มูลค่า 96,000,000 บาท
สถานะของกลุ่มคนเจ้าของทีมฟุตบอลไทยชื่อดังทั้ง 3 ทีม มีแค่ 2 กลุ่ม คือ นักการเมือง นักธุรกิจ เท่านั้น