บางจากฯ ถือหุ้น LAC ทำเหมืองลิเทียมรายใหญ่ของโลก
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2560 บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดย BCP Innovation Pte. Ltd. (BCPI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บางจากฯ และ Lithium Americas Corp. ร่วมลงนามในสัญญาการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัท Lithium Americas Corp. เพื่อพัฒนาเหมืองแร่ลิเทียม ที่ประเทศอาร์เจนติน่า ก้าวสู่ผู้นำธุรกิจพลังงานสีเขียว โดยมีตัวแทนจากสถานทูตแคนาดา และที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงพลังงานให้เกียรติเข้าร่วมงาน ที่สำนักงานใหญ่ บริษัท บางจากฯ อาคารเอ็มทาวเวอร์ สุขุมวิท
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากฯ ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในประเทศต่างๆ ทั่วโลกโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบการกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) ในรูปแบบของแบตเตอรี่ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยมีแร่ลิเทียมเป็นธาตุหลักที่สำคัญต่อการพัฒนาด้วยเป็นโลหะที่เบาที่สุดในตารางธาตุ และมีความสามารถเก็บประจุได้เป็นเวลานานกว่าแบตเตอรี่จากธาตุอื่น
ซึ่งในขณะนี้ ราคาของลิเทียมในการทำสัญญาซื้อขายระยะยาวได้ขยับขึ้นมากกว่า 4 เท่าตัว และคาดว่าจะมีความต้องการใช้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกือบ 5 เท่า ในปี 2568 เพื่อรองรับการเติบโตของการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) คาดว่าจะผลิตได้ถึง 20 ล้านคันในปี 2583 ในขณะที่ปริมาณลิเทียมยังคงผลิตได้ไม่เพียงพอ
ดังนั้น บริษัท บางจากฯ โดย BCP Innovation Pte. Ltd. (BCPI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จึงได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 50 ล้านหุ้น ใน Lithium Americas Corp. หรือ LAC ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตรอนโต ประเทศแคนาดา และดำเนินโครงการเหมืองแร่ลิเทียมที่ประเทศอาร์เจนตินาและประเทศสหรัฐอเมริกา รวมจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ในปัจจุบัน จาก 20,286,757 หุ้น เพิ่มเป็น 70,286,757 หุ้นในปัจจุบัน หรือคิดเป็นสัดส่วนถือหุ้นร้อยละ 16 และขยายการลงทุนด้านพลังงานสะอาดในต่างประเทศ เป็นการสร้างโอกาสและสร้างรายได้ในธุรกิจสีเขียวทั้งในสัดส่วนของการถือหุ้นในเหมืองและได้ผลิตภัณฑ์ไปต่อยอดทำแบตเตอรี่คุณภาพสูง ที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกให้ความสนใจลงทุน
นอกจากนี้ BCPI จะให้เงินกู้ยืมแก่ LAC ในวงเงินไม่เกิน 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้ Minera Exar ที่ LAC ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 50 ดำเนินการก่อสร้างเหมืองแร่ลิเทียมโครงการ Cauchari Olaroz ที่ได้รับประทานบัตรในประเทศอาร์เจนตินา ตามสัดส่วนการลงทุนของ LAC ใน Minera Exar โดย BCPI จะได้สิทธิการซื้อผลผลิตแร่ลิเทียมจาก Minera Exar เป็นเวลา 20 ปี นับตั้งแต่วันจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ซึ่งปริมาณดังกล่าวสามารถนำไปผลิตแบตเตอรี่สำหรับโทรศัพท์มือถือได้กว่า 800 ล้านเครื่องต่อปี หรือผลิตแบตเตอรี่สำหรับใช้ในรถไฟฟ้า (Plug in Hybrid Electric Vehicle: PHEV) กว่า 150,000 คัน
ทั้งนี้ LAC เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 50 ใน Minera Exar ร่วมกับ Sociedad Quimica y Minera de Chile (SQM) จากประเทศชิลี โดย SQM เป็นผู้ประกอบธุรกิจเคมีภัณฑ์ขนาดใหญ่ และยังเป็นผู้ผลิตแร่ลิเทียมจากน้ำเกลือ (brine) รายใหญ่ที่สุดในโลกที่มีต้นทุนการผลิตต่ำที่สุดด้วย โดย Minera Exar อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ Cauchari Olaroz ซึ่งเป็นเหมืองแร่ลิเทียมในจังหวัด Jujuy ประเทศอาร์เจนตินา มีกำลังการผลิต 25,000 ตันต่อปี ในระยะแรก และเพิ่มเป็น50,000 ตันต่อปี ในระยะที่ 2 คาดว่าโครงการจะสามารถผลิตแร่ลิเทียมเชิงพาณิชย์จากน้ำเกลือได้ในปี 2562 นอกจากนี้ LAC ยังมีการพัฒนาเหมืองแร่ลิเทียมอีกแห่งหนึ่งในรัฐ Nevada ประเทศสหรัฐอเมริกา ก้าวสู่ผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก
อนึ่ง LAC ยังมีบริษัท Ganfeng Lithium ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของประเทศจีนที่มีเทคโนโลยีที่หลากหลาย และเป็นเจ้าของเหมืองลิเทียมในแหล่งต่างๆ ในโลก เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนร้อยละ 17 ด้วย