ผลสอบ สตง.ฉบับเต็ม!‘บิ๊ก-ผอ.กองฯ’ เทศบาล ต.หลักหก-ปทุมฯซื้อรถตัดหญ้าแพงเกินจริง4ล.?
เปิดผลสอบฉบับเต็ม! สตง.ชง ป.ป.ช. ไต่สวน ‘บิ๊ก-ผอ.กองฯ-กก.TOR’ เทศบาลตำบลหลักหก-ปทุมธานีฯ จัดซื้อรถตัดหญ้าไหล่ทาง 7 ล้าน แพงเกินจริงกว่า 4 ล้าน พบเอกชนที่ถูก กก.TOR สอบถามราคาเบื้องต้น ชนะการประมูลด้วย
หลายคนทราบดีว่า ปัจจุบันสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ดำเนินการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะงบประมาณส่วนองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ และเทศบาลตำบลหลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ก็เป็นหนึ่งใน อปท. ที่ถูก สตง. เข้าไปตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะประเด็นการจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ ด้วย
ล่าสุด สตง. ได้สรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการจัดซื้อรถตัดหญ้าไหล่ทาง จำนวน 3 คัน วงเงิน 7 ล้านบาท และส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนข้อเท็จจริงต่อแล้ว
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวจากผลการตรวจสอบของ สตง. ได้ดังนี้
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 7 ได้ตรวจสอบสืบสวนกรณีการจัดซื้อรถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยาง ชนิดขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมอุปกรณ์ของเทศบาลตำบลหลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ถูกกล่าวหาว่ามีราคาสูงเกินจริง ผลการตรวจสอบสรุปได้ดังนี้
เทศบาลตำบลหลักหก ได้ตั้งงบประมาณเพื่อจัดซื้อรถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยางพร้อมอุปกรณ์ ตามเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 จำนวน 7,000,000 บาท โดยปรากฏชื่อของผู้บริหารที่รักษาการแทน ผอ.กองหนึ่ง ภายในเทศบาลตำบลหลักหก เป็นจ้าของเรื่อง และเจ้าของงบประมาณ ได้เสนอตั้งงบประมาณเพื่อจัดซื้อรถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยางพร้อมอุปกรณ์จำนวน 7,000,000 บาท จากการนำเสนอข้อมูลราคาของผู้ประกอบการที่ไม่เคยมีการซื้อขายรถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยางมาก่อน มาตั้งเป็นวงเงินงบประมาณ
โดยทราบข้อเท็จจริงอยู่แล้วว่า รถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยางที่ต้องการเป็นรถที่ต้องนำเข้า หรือประกอบจากต่างประเทศ เนื่องจากผู้บริหารที่รักษาการแทน ผอ.กองรายนี้เป็นผู้ค้นหาข้อมูลของรถดังกล่าวด้วยตนเอง และยังทราบว่ารถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยางที่ต้องการไม่มีกำหนดไว้ในบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ ไม่มีราคาในจังหวัดหรือท้องถิ่น หรือราคาที่เคยจัดหาอย่างประหยัด เนื่องจากไม่เคยมีหน่วยงานราชการใดจัดซื้อมาก่อน
ถึงแม้ว่าผู้บริหารที่รักษาการแทน ผอ.กองรายนี้จะนำราคาจากผู้ประกอบการที่ให้ข้อมูลราคาต่ำที่สุดมากำหนดเป็นวงเงินในการเสนอตั้งงบประมาณ แต่รถตัดหญ้าไหล่ทางที่ต้องการเป็นรถที่ต้องนำเข้า หรือประกอบจากต่างประเทศ จึงสมควรต้องมีการตรวจสอบราคารถของผู้ประกอบการในต่างประเทศ เพื่อนำมาพิจารณาเปรียบเทียบกับราคาที่ผู้ประกอบภายในประเทศเสนอว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของทางราชการ
อย่างไรก็ดีผู้บริหารที่รักษาการแทน ผอ.กองรายนี้ เป็นผู้ที่ค้นหาข้อมูลของรถจากเว็บไซต์ต่างประเทศด้วยตนเอง จึงย่อมอยู่ในวิสัยที่ควรจะต้องทราบราคาจำหน่ายรถของผู้ประกอบการในต่างประเทศ แต่กลับเสนอตั้งงบประมาณ จำนวน 7,000,000 บาท ซึ่งเป็นวงเงินงบประมาณที่มีมูลค่าสูงเกินกว่าความเป็นจริงอย่างมาก
และในการเสนอตั้งงบประมาณมีเอกสารแสดงรายการงบประมาณของกองดังกล่าวเปลี่ยนแปลงในงบลงทุน (ค่าครุภัณฑ์ยานพาหนะและขนส่ง) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ได้เพิ่มวงเงินงบประมาณ ค่าจัดซื้อรถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยางพร้อมอุปกรณ์อเนกประสงค์ จำนวน 3 คัน จาก 4,500,000 บาท เป็น 7,000,000 บาท โดยมีสำเนาภาพถ่ายรถและรายละเอียดอุปกรณ์ที่มีคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ แนบประกอบ จำนวน 2 แผ่น เสนอต่อสภาเทศบาลตำบลหลักหกเพื่อพิจารณา
ต่อมาผู้บริหารรายหนึ่งในเทศบาลตำบลหลักหก ในฐานะเจ้าหน้าที่งบประมาณ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่จัดทำงบประมาณ โดยมีอำนาจเรียกให้หน่วยงานต่าง ๆ เสนอประมาณการรายรับและรายจ่าย พร้อมด้วยรายละเอียดที่กำหนด ตามระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่งหรือหนังสือสั่งการกระทรวงมหาดไทย และมีหน้าที่พิจารณาตรวจสอบ วิเคราะห์ และแก้ไขงบประมาณในขั้นต้น แล้วเสนอต่อผู้บริหารท้องถิ่นเพื่อพิจารณาตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 8 และข้อ 23
แต่ผู้บริหารรายดังกล่าวมีได้ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามระเบียบดังกล่าว โดยไม่ตรวจสอบ วิเคราะห์ เอกสารหรือหลักฐานที่แสดงถึงที่มาของราคาหรือวงเงินงบประมาณว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ รวมทั้งมิได้สอบถามถึงสาเหตุการปรับเปลี่ยนวงเงินดังกล่าว ซึ่งเป็นการไม่รักษาประโยชน์ของทางราชการ
หลังจากนั้นผู้บริหารรายนี้ได้เสนองบประมาณให้ผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่งเทศบาลตำบลหลักหกพิจารณา
แต่ผู้บริหารระดับสูงรายนี้กลับไม่ทราบว่ากองดังกล่าวมีการเปลี่ยนวงเงินงบประมาณในการจัดซื้อรถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยาง จากจำนวน 4,500,000 บาท เป็น 7,000,000 บาท และผู้บริหารระดับสูงไม่ได้พิจารณารายละเอียดที่เจ้าหน้าที่งบประมาณนำเสนอร่างเทศบัญญัติมาในขั้นต้น และไม่ได้พิจารณาว่าวงเงินงบประมาณดังกล่าวมีความเหมาะสมหรือไม่
แต่ได้อนุมัติให้ตั้งยอดเงินประมาณเพื่อจัดซื้อรถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยาง ในวงเงิน 7,000,000 บาท และได้นำเสนอต่อสภาเทศบาลตำบลหลักหกพิจารณาให้ความเห็นชอบ ในการประชุมสภาเทศบาลหลักหกสมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2557 เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557
โดยสมาชิกสภาเทศบาลตำบลหลักหกได้สอบถามผู้บริหารที่รักษาการแทน ผอ.กองดังกล่าวเฉพาะในส่วนของคุณสมบัติทั่วไป รายละเอียดในการใช้งานของรถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยาง และได้รับทราบข้อมูลว่าเป็นรถที่ต้องนำเข้าหรือประกอบจากต่างประเทศ แต่ที่ประชุมสภาฯ ไม่ได้มีการสอบถามถึงที่มาของวงเงินงบประมาณที่มีมาอย่างไร และไม่ได้พิจารณาว่าวงเงินงบประมาณดังกล่าวมีความเหมาะสมหรือไม่ แต่ได้พิจารณาให้ความเห็นของวงเงินงบประมาณ จำนวน 7,000,000 บาท ตามที่ผู้บริหารระดับสูงเทศบาลตำบลหลักหกเสนอ
ในการจัดซื้อรถตัดหญ้าไหล่ทางดังกล่าว เทศบาลตำบลหลักหกได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะ และกำหนดราคากลาง (TOR) ตามคำสั่งที่ 67/2558 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558 โดยคณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันกำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลาง จำนวน 7,000,000 บาท โดยมีการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของรถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยาง ใกล้เคียงกับรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของรถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยางของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง และคณะกรรมการฯ ยังได้นำข้อมูลราคารถที่ได้รับมาจากงานพัสดุ กองคลัง ซึ่งเป็นการสอบถามจากผู้ประกอบการที่ไม่เคยขายหรือนำเข้ารถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยาง เพื่อจำหน่ายมาก่อนแต่อย่างใด
แม้คณะกรรมการฯ จะได้นำราคาของผู้ประกอบการที่เสนอราคาต่ำสุดคือ ข้อมูลราคาของเอกชนรายนี้ จำนวน 7,000,000 บาท มากำหนดเป็นราคากลางก็ตาม แต่คณะกรรมการฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารที่รักษาการแทน ผอ.กองฯ ในฐานะประธานกรรมการฯ และผู้เสนอโครงการ ซึ่งทราบข้อเท็จจริงอยู่แล้วว่ารถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยางที่ต้องการเป็นรถที่ต้องนำเข้า หรือประกอบจากต่างประเทศ ไม่มีกำหนดไว้ในบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ ไม่มีราคาในจังหวัดหรือท้องถิ่น หรือราคาที่เคยจัดหาอย่างประหยัด เนื่องจากไม่เคยมีหน่วยงานราชการใดจัดซื้อมาก่อน จึงสมควรต้องมีการตรวจสอบราคารถของผู้ประกอบการในต่างประเทศ เพื่อนำมาพิจารณาเปรียบเทียบกับราคาที่ผู้ประกอบภายในประเทศเสนอว่ามีความเหมาะสมหรือไม่
แต่คณะกรรมการฯ กลับนำข้อมูลราคารถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยางจากผู้ประกอบการที่ไม่เคยขายสินค้าชนิดดังกล่าวมาก่อน มากำหนดเป็นราคากลางของโครงการจัดซื้อรถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยางพร้อมอุปกรณ์ โดยราคากลางที่คณะกรรมการฯ กำหนดเท่ากับวงเงินงบประมาณ ตามเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 จำนวน 7,000,000 บาท
และต่อมาเมื่อมีการดำเนินการจัดซื้อรถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยางพร้อมอุปกรณ์เทศบาลตำบลหลักหกได้กำหนดให้ใช้วงเงินงบประมาณตามที่สภาเทศบาลตำบลหลักหกให้ความเห็นชอบ เป็นราคาเริ่มต้นในการประมูลซื้อด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ปรากฏว่าเอกชนที่ถูกคณะกรรมการกำหนด TOR สอบถามราคา กลับเป็นผู้ชนะ โดยเสนอราคาต่ำสุดเป็นเงิน 6,944,000 บาท และเทศบาลตำบลหลักหกได้ทำสัญญาซื้อขายรถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยางพร้อมอุปกรณ์ กับเอกชนรายดังกล่าว ตามสัญญาซื้อขายเลขที่ 1/2558 ลงวันที่ 10 เมษายน 2558 เป็นเงิน6,944,000 บาท
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า รถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยางพร้อมอุปกรณ์ที่เทศบาลตำบลหลักหกจัดซื้อดังกล่าว มีราคาซื้อขายที่แท้จริงเพียง 2,802,169.50 บาท
การที่เทศบาลตำบลหลักหกจัดซื้อรถตัดหญ้าไหล่ทางล้อยางพร้อมอุปกรณ์ ในราคา 6,944,000 บาท จึงเป็นการจัดซื้อในราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น และทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย เป็นเงิน 4,141,830.50 บาท
การปฏิบัติหน้าที่ของ ผอ.กองฯ ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานเจ้าของงบประมาณ ผู้บริหารเทศบาลตำบลหลักหก ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานเทศบาลและลูกจ้างเทศบาล และรับผิดชอบควบคุมดูแลราชการประจำของเทศบาลให้เป็นไปตามนโยบาย หรือตามที่กฎหมายกำหนด และในฐานะเจ้าหน้าที่งบประมาณ และคณะกรรมการกำหนด TOR ดังกล่าว มีพฤติการณ์น่าเชื่อถือว่าเป็นการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน อาศัยอำนาจมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2542 พิจารณาแล้วเห็นชอบกับผลการดำเนินการของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้บริหาร และ ผอ.กองฯ ในสังกัดเทศบาลตำบลหลักหก และคณะกรรมการกำหนด TOR ในความผิดอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
อย่างไรก็ดีผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด ยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ และต้องชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในชั้นการไต่สวนของ ป.ป.ช. ต่อไป