คนโยธินฯเปิดภาพประตูหนีไฟ ร.ร.ถูกล็อค นร.หนีวุ่นออกไม่ได้ หลังสัญญาณดัง
“..เดิมทีผมไม่อยากจะเอาเรื่องมาเป็นประเด็น แต่หลังจากเกิดเหตุวันนี้ขึ้นแล้ว ผมว่าถ้าเราไม่รวมตัวกันเพื่อทำอะไรสักอย่าง เหตุร้ายอาจเกิดขึ้นแน่ในอนาคต คิดภาพว่า ถ้าเราวิ่งหนีไฟลงมา แล้วติดประตูที่คล้องกุญแจไว้ด้านนอก คนที่สำลักควันอยู่ข้างบนก็ผลักกันมา กระโดดหนีตายกันลงมาทับคนข้างล่าง ทับซ้อน ๆ กันไปเรื่อยจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวนะ ควรเรียกร้องให้ทำอะไรสักอย่าง..”
กรณีกลุ่มผู้ปกครองนักเรียน ร.ร.โยธินบูรณะ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนสำนักข่าวอิศรา ต่อข้อสงสัยในการบริหารงานของผู้บริหารโรงเรียนหลายประการ โดยเฉพาะเรื่อง ‘การรับเงินค่าเทอมของนักเรียนโครงการภาคภาษาอังกฤษ’ โดยให้โอนเข้าบัญชีของสมาคมผู้ปกครองและครู ร.ร.โยธินบูรณะ ทั้งที่ สมาคมฯ ถูกคำสั่งศาลแพ่ง ให้หยุดการดำเนินการตั้งแต่เมื่อปี 2550 และเรื่องอื่น ๆ อีกหลายประเด็น โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ทราบเรื่อง และได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รับไปพิจารณาตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2560 ตามข่าวก่อนหน้านี้ (อ่านประกอบ : โวย 2 เดือนไม่คืบหน้า! หลัง รมว.ศธ.สั่งสอบ ปม ร.ร.โยธินฯเรียกรับเงินผู้ปกครอง)
ขณะที่ เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2560 นายการูณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่ รมว.ศธ. มอบหมายให้พิจารณาเรื่องร้องเรียน ร.ร.โยธินบูรณะ แต่รับปากว่าจะติดตามเรื่องดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่ให้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2560 กลุ่มผู้ปกครองนักเรียน ร.ร.โยธินบูรณะ คนหนึ่งกล่าวว่า "เมื่อไม่กี่วันก่อนสัญญาณไฟไหม้ที่โรงเรียนฯ ดังขึ้น เด็กวิ่งหนีกันลงมาที่ชั้น 1 แต่ปรากฏว่าบันไดหนีไฟที่ชั้นล่างถูกคล้องโซ่กุญแจไว้ โชคดีที่เหตุการณ์ไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ ผอ.โรงเรียน ควรออกมาชี้แจง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง ๆ แล้วประตูล็อคแบบนี้ เด็ก ๆ จะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ทางกลุ่มฯ อยู่ระหว่างการประสานเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกรณีดังกล่าวต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่า สตง.) และจะเเจ้งสื่อมวลชนเพื่อนัดหมายวันอีกครั้งหนึ่ง" (อ่านประกอบ : ผู้ปกครอง นร.โยธินฯ ร้องอาคารเรียน ไม่ปลอดภัย - เลขาฯ กพฐ.ปัดยังไม่ทราบ)
กรณีดังกล่าว สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2560 เพจเฟซบุ๊คชื่อ YB Me Share ได้เผยแพร่รูปถ่าย จำนวน 2 ภาพ พร้อมระบุข้อความว่า “..เดิมทีผมไม่อยากจะเอาเรื่องมาเป็นประเด็น แต่หลังจากเกิดเหตุวันนี้ขึ้นแล้ว ผมว่าถ้าเราไม่รวมตัวกันเพื่อทำอะไรสักอย่าง เหตุร้ายอาจเกิดขึ้นแน่ในอนาคต คิดภาพว่า ถ้าเราวิ่งหนีไฟลงมา แล้วติดประตูที่คล้องกุญแจไว้ด้านนอก คนที่สำลักควันอยู่ข้างบนก็ผลักกันมา กระโดดหนีตายกันลงมาทับคนข้างล่าง ทับซ้อน ๆ กันไปเรื่อยจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวนะ ควรเรียกร้องให้ทำอะไรสักอย่าง..”
โดยในภาพดังกล่าว ปรากฏเป็นประตูทางหนีไฟบานหนึ่งถูกคล้องด้วยกุญแจ ดูคล้ายสายคล้องสำหรับล็อคจักรยาน ปรากฏกระดาษบนผนังระบุหมายเลขชั้น 1 ชัดเจน และมีกระดาษอีกแผ่นปิดไว้ที่ประตูระบุข้อความ “ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต” พร้อมชื่อบริษัทเอกชนรายหนึ่ง (ดูภาพประกอบ)
ขณะที่ เจ้าของเฟซบุ๊คดังกล่าว ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 3 ส.ค.2560 ว่า ไม่สะดวกที่จะเปิดเผยชื่อ เพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบเนื่องจากยังรับราชการอยู่ในโรงเรียนโยธินฯ บอกว่ายังไม่มีการยืนยันว่าสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นมาได้อย่างไร แต่เท่าที่ทราบคือมาจากห้องคหกรรม และในช่วงเวลาดังกล่าวไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ หรือรถดับเพลิง หรือรถกู้ภัย เข้ามาในพื้นที่ ร.ร. แต่อย่างใด ทั้งนี้ ตัวอาคารเรียน 12 ชั้น นั้น มีบันไดเพียงแค่ 2 ฝั่งที่ใช้งานเป็นหลัก ซึ่งทั้งหมดเป็นบันไดหนีไฟ ไม่มีบันไดหลัก และมีลิฟท์ใช้งานเพียง 2 ตัว โดยนักเรียนทั้งหมดประมาณ 3,000 กว่าคนเรียนที่อาคารนี้แห่งเดียว
"กฏหมายบอกว่าประตูทางหนีไฟต้องปิดเองอัตโนมัติ และเปิดได้สะดวก เพราะหากเกิดไฟไหม้ ควันที่เข้ามาในบันไดหนีจะทำให้คนข้างบนหนีลงมาข้างล่างไม่ได้ ที่สำคัญ กฎหมายบอกว่าบันไดหนีไฟต้องทำจากวัสดุไม่ติดไฟ แต่ทำไมพื้นบันไดของโรงเรียนฯ ทำจากไม้ อันนี้แค่สงสัยนะ เพราะตามปัญหาเรื่องนี้มานานแล้ว ยังมีข้อสงสัยในการก่อสร้างอีกหลายเรื่อง เช่น ประตูชั้นล่างบางแห่งใช้ไม่ได้ เพราะไม่มีบันได แต่ที่กังวลมากที่สุดก็คือเรื่องความปลอดภัยของทั้งนักเรียนและครู บางครั้งเด็กต้องต่อแถวรอขึ้นลิฟท์ไปเรียนกันทียาวเป็นสิบ ๆ เมตร"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้บริหารได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวแล้วหรือไม่ แหล่งข่าวกล่าวว่า ยังไม่มีการชี้แจงใด ๆ ต่อกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่วันนี้ (3 ส.ค. 2560) ได้นำกุญแจที่คล้องประตูหนีไฟไว้ออกแล้ว"
ผู้สื่อข่าวถามว่า การก่อสร้างอาคารเรียนดังกล่าวผิดแบบที่กำหนดไว้หรือไม่ แหล่งข่าวกล่าวว่า "ไม่ทราบ ไม่เคยเห็นแบบ"
ผู้สื่อข่าวถามว่า อาคารเรียนดังกล่าวยังอยู่ในประกันกับเอกชนคู่สัญญาหรือไม่ แหล่งข่าวกล่าวว่า "ยังมีประกันอยู่"
จึงถามว่า หลังจากที่มีการร้องเรียนกรณีดังกล่าวนี้ ผู้บริหารโรงเรียนฯ ได้มีการติดต่อให้เอกชนคู่สัญญาเข้ามาปรับปรุงแก้ไขแล้วหรือไม่ แหล่งข่าวยืนยันว่า "เท่าที่ทราบยังไม่เห็นว่ามีการติดต่อกับเอกชน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้พยายามโทรไปที่หมายเลข 081-713-36XX เพื่อติดต่อ นายอัชลิต พัฒคุ้ม รองผู้อำนวยการ ร.ร.โยธินบูรณะ กลุ่มบริหารการเงิน สินทรัพย์และงานบุคคล ให้ชี้แจงกรณีข้างต้นแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ไม่มีใครรับสาย
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่า ชื่อบริษัทที่ปรากฏอยู่บนประตูทางหนีไฟดังกล่าว เป็นเอกชนคู่สัญญากับ ร.ร.โยธินบูรณะ ในการก่อสร้างอาคารเรียนแห่งใหม่
ทั้งหมด คือ ข้อมูลล่าสุด กรณีการร้องเรียน ร.ร.โยธินบูรณะ โดยเฉพาะประเด็นการนำเงินค่าโครงการภาคภาษาอังกฤษไปเข้าบัญชีสมาคมผู้ปกครองฯ ทั้งที สมาคมฯ ถูกคำสั่งศาลให้ยุติการดำเนินการไปหลายปีแล้ว รวมถึง กรณีการก่อสร้างอาคารที่ไม่มีความปลอดภัย และเสี่ยงอันตราย ซึ่งกลุ่มผู้ปกครองฯ ได้ร้องเรียนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้วตั้งแต่ปี 2559 โดยเร็ว ๆ นี้ จะเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าฯ สตง.) ต่อไปด้วย
อ่านประกอบ :
ผู้ปกครอง นร.โยธินฯ ร้องอาคารเรียน ไม่ปลอดภัย - เลขาฯ กพฐ.ปัดยังไม่ทราบ
ผู้ปกครองข้องใจเงินค่าเทอม รร.โยธินฯเข้าบช.สมาคมฯ ไม่ตรงเอกสาร-รอง ผอ.ยันแจงที่ประชุมแล้ว
ดูชัดๆ!ใบแจ้งค่าเทอม ร.ร.โยธินฯโอนเข้าโครงการ แต่โผล่ บช.สมาคมฯ ชนวนผู้ปกครองร้อง