กทม.จัดเก็บค่าจอดรถได้ต่ำ เล็งขึ้นราคาหวังเพิ่มรายได้
"สภากทม." ติงจัดเก็บค่าจอดรถทั้งในถนน อาคารและลานจอด มีปัญหาการผูกขาดรายเดือน ทำให้รายได้น้อย แนะ กทม.พัฒนาข้อมูลจัดเก็บภาษีให้ทันสมัย เพิ่มรายได้
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) สมัยสามัญที่ 3 ครั้งที่ 3 ประจำปี 2561 ในการเสนอร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2561 ที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เสนอนั้น ที่ประชุมได้มีการอภิปรายในเรื่องงบประมาณกันอย่างกว้างขวาง โดยในส่วนของการจัดเก็บรายได้นั้น นางสุกัญญา สุวัฒนวงศ์ สมาชิกสภา กทม. ได้ตั้งข้อสังเกตการจัดเก็บรายได้ ในส่วนของค่าที่จอดรถของ กทม.ที่เปิดให้จอดรถเก็บเงินของ กทม. ทั้งในถนนเส้นต่างๆ รวมถึงในอาคารและลานจอดรถ ว่าจะจัดเก็บได้น้อยกว่าความเป็นจริง ซึ่งจากการลงพื้นที่ติดตามการจัดเก็บด้วยตนเองในบางพื้นที่ เช่น เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตพระนคร ในส่วนของการจัดเก็บค่าจอดรถในถนนที่กำหนดนั้น พบว่า บางส่วนยังไม่มีการกำหนดขอบเขตเส้นทางที่ชัดเจน ว่าจุดที่จัดเก็บค่าจอดมีระยะเท่าใด รวมถึงสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายบนถนนไม่ชัดเจนนัก ทำให้เกิดปัญหาว่าประชาชนไม่ทราบว่าเป็นจุดที่จอดรถจะต้องเสียค่าจอด นอกจากนี้ยังพบว่า ค่าจอดรถที่ต้องชำระเป็นรายชั่วโมงกลับถูกผูกขาดการจอด หรือเหมาจ่ายเป็นรายเดือน ทำให้ค่าจัดเก็บได้น้อยกว่าการจัดเก็บเป็นรายชั่วโมง
ในส่วนของอาคารจอดรถและลานจอดรถของ กทม.ทั้ง 3 แห่ง คือ อาคารจอดรถบางลำพู และอาคารจอดรถสวนมะลิ และลานจอดรถสวนลุมพินีนั้น จากข้อมูลพบว่า เกือบ 100% มีการเช่าประจำเป็นรายเดือน ซึ่งจากการสังเกตพบว่า การจอดให้เช่าเป็นรายเดือนนั้น ได้รายได้น้อยกว่าการขัดเก็บแบบเป็นรายชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นการตัดโอกาสที่จะทำให้ กทม.มีรายได้ที่สูงขึ้น แล้วยังเป็นการผูกขาดผู้ใช้บริการรายเดิม และไม่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการรายใหม่ๆ หรือผู้เดินทางที่มีปัญหาที่จอดรถได้มีโอกาสใช้บริการ จึงขอให้ กทม.พิจารณากำหนดแนวทางและอัตราจัดเก็บเป็นรายชั่วโมง นอกจากนี้ขอให้พิจารณาระบบจัดเก็บรายได้ที่ทันสมัยมากขึ้น เนื่องจากระบบหรือเครื่องมือในการจัดเก็บที่ดีจะทำให้ลดปัญหาการจัดเก็บได้มากและได้รับรายได้ที่เป็นปัจจุบันมากขึ้น เพราะจากการขอข้อมูลการจัดเก็บรายได้ พบว่ายังไม่มีฐานข้อมูลเรื่องรายได้อย่างครบถ้วน 100% หากใช้วิธีที่ทันสมัยมากขึ้นน่าจะทำให้สามารถเพิ่มรายได้ ของ กทม.มากขึ้นด้วย
ด้านพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. กล่าวยอมรับว่า ยังมีการจัดเก็บรายได้ในส่วนของการจอดรถยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่ กทม.อยู่ระหว่างการปรับปรุงแนวทางการจัดเก็บ โดยในส่วนของ อาคารจอดรถนั้นแต่ละปีมีรายได้ ประมาณ 38 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน้อยมาก ทั้งนี้หากจุดใดหมดสัญญาเช่ากับผู้ประกอบการ กทม.จะพิจารณาปรับปรุงอาคารเพื่อเพิ่มศักยภาพการจอดรถ ทั้งในส่วนของพื้นที่และปรับราคาค่าจอดให้มากขึ้น รวมถึงการจัดเก็บบนถนนที่เสียค่าจอดจะมีการพัฒนาเครื่องหมายและการจัดเก็บให้ดีขึ้น