เปิด บ.ทัวร์จีนล่าสุด! เชิดนอมินี มีรถหรู เงินฝาก ปปง.อายัดฟอกเงิน 33 รายการ
พฤติกรรม บ.ทัวร์จีนรายล่าสุด ถูก ปปง.อายัดทรัพย์สิน 33 รายการ รถพอร์ช เบนซ์ เงินฝาก 30 บัญชี เจ้าของสวมบัตรประชาชน โยงคดีศูนย์เหรียญ เจาะงบการเงิน แจ้งรายได้พุ่ง 184 ล.ปี 2559 หลังถูกสอบ ขณะที่ก่อนหน้าโชว์แค่หลักหมื่น
ปฏิบัติการกวาดล้างทัวร์ศูนย์เหรียญพร้อมตั้งข้อหาร่วมกันกระทำการเป็นอั้งยี่และร่วมกันทำลายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ได้แก่ บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด และบริษัทเครือข่ายอีก 4 แห่ง คือ คือบริษัท บางกอกแฮนดิคราฟท์ เซ็นเตอร์ จำกัด บริษัท รอยัล พาราไดซ์ จำกัด บริษัท รอยัล เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท รอยัลไทยเฮิร์บ จำกัด อายัดรถบัสนำเที่ยว 2,086 คัน บัญชีเงินสดกว่า 90 บัญชี มูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท เป็นข่าวคึกโครมเมื่อปลายเดือน ส.ค.2559
ล่าสุด บุคคลและนิติบุคคลอีก 4 ราย มีชื่อพัวพันขบวนการดังกล่าว ถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง. )อายัดทรัพย์สินเรียบร้อย 33 รายการ
ทั้งนี้ เมื่อ 18 ก.ค.2560 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้เผยแพร่คำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.70/2560 เรื่องยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว กรณี นายอนุชิต เหมารุ่งโรจน์ กับพวก มีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกอั้งยี่ตามประมวลกฎหมายอาญา
สำนักงาน ปปง. ได้รับรายงานการสืบสวนพฤติกรรมจากตำรวจท่องเที่ยวพบว่า นายอนุชิต เหมารุ่งโรจน์ เดิมชื่อนายชง แซ่ม้า เป็นบุคคลไม่มีสัญชาติไทย ทำเอกสารและใช้เอกสารอันเป็นเท็จเพื่อยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวประชาชน ปัจจุบันนายอนุชิตถูกดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าวและกรมการปกครองได้ยกเลิกบัตรประจำตัวประชาชนดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 30 ก.ค.2551
นายอนุชิต ได้จัดตั้งบริษัท ไทย ทง ยี่ทราเวล กรุ๊ป จำกัด โดยนายอนุชิตเป็นกรรมการผู้จัดการ และวันที่ 20 ส.ค.2555 นายอนุชิตได้จัดตั้งบริษัท เมืองไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ทราเวลกรุ๊ป จำกัด โดยให้ น.ส.พรรณี แซ่ว่าง เป็นกรรมการผู้จัดการ ออกหน้าแทนในลักษณะนอมินี ซึ่งทั้งสองบริษัทประกอบธุรกิจนำเที่ยวในลักษณะต่ำกว่าทุน อันเป็นการประกอบธุรกิจนำเที่ยวฝ่าฝืนต่อกฎหมาย โดยนำนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และนายอนุชิตมีข้อตกลงกับ บริษัท โอเอทรานสปอร์ต จำกัด กับพวก ในการขอใช้รถบัสโดยสารนำเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวจีนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยจะพานักท่องเที่ยวจีนไปซื้อสินค้าต่างๆจากร้านในเครือ บริษัท โอเอทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นสินค้าที่มีราคาแพงและไม่มีคุณภาพ โดยห้ามนักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้าจากร้านอื่นที่มีลักษณะเดียวกับร้านในเครือบริษัท โอเอทรานสปอร์ต จำกัด เพื่อมิให้นักท่องเที่ยวรู้สถานที่ ราคา และคุณภาพของสินค้าที่นำมาจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวและมีข้อตกลงจ่ายค่าคอมมิสชันให้แก่ บริษัท ไทย ทง ยี่ทราเวล กรุ๊ป จำกัด กับพวก ตั้งแต่ 30-70 % ของจำนวนยอดเงินที่นักท่องเที่ยวจีนได้ซื้อสินค้าจากร้านในเครือ บริษัท โอเอทรานสปอร์ต จำกัด อันเป็นการมุ่งประสงค์หารายได้จากการจำหน่ายสินค้าที่มีราคาสูงกว่าปกติ และรับเงินส่วนแบ่งรายได้ต่างๆจากนายธงชัย โรจน์รุ่งรังสี นายบุญชัย โรจน์รุ่งรังสี และ บริษัทในเครือ บริษัท โอเอทรานสปอร์ต จำกัด จากการตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงินพบว่าในช่วงระหว่างปี 2555-2559 บริษัท ไทย ทง ยี่ทราเวล กรุ๊ป จำกัด กับพวก ได้รับโอนเงินจาก นายธงชัย โรจน์รุ่งรังสี นายบุญชัย โรจน์รุ่งรังสี และ บริษัทในเครือ บริษัท โอเอทรานสปอร์ต จำกัด จำนวนหลายรายการ ซึ่ง บริษัท โอเอทรานสปอร์ต จำกัด กับพวกได้ถูกดำเนินคดีอาญาที่ 1172/2559 ในข้อหากระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวหาประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรมจากนักท่องเที่ยว ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวอันจะเกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่รับค่าบริการ ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันฟอกเงินเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ ฟย46/2559 เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2559 คดีอยู่ระหว่างสืบพยานในศาลอาญา
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลโคกครามให้ดำเนินคดีกับนายอนุชิต และน.ส.พรรณี ในข้อหาร่วมกันกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ตามคำร้องทุกข์คดีอาญาที่ 351/2560 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายอนุชิตกับพวกได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และจากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดรวมทั้งจากการรวบรวมพยานหลักฐานปรากฎว่าบุคคลดังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 33 รายการ อาศัยอำนาจตามกฎหมายดังกล่าว คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราวไว้ไม่เกิน 90 วัน
รายการทรัพย์สินที่ถูกอายัด 3 รายการ เป็นรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า CRV พอร์ช และ เมอร์ซิเดสเบนซ์ (รายการที่ 1-3) อยู่ระหว่างประเมินราคา และระหว่างการรอรับมอบ ส่วนอีก 30 รายการเป็นเงินฝากธนาคาร 30 บัญชี รวมเป็นเงิน 586,056.76 บาท
ทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ในชื่อ นายอนุชิต น.ส.พรรณี บริษัท ไทย ทง ยี่ทราเวล กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท เมืองไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ทราเวลกรุ๊ป จำกัด
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า บริษัท ไทย ทง ยี่ทราเวล กรุ๊ป จดทะเบียนวันที่ 30 ก.ค. 2551 ทุนปัจจุบัน 10 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ ประกอบกิจการนำเที่ยว ที่ตั้งเลขที่ 388/6 ถนนนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 30 เม.ย. 2560 นายนิติพงษ์ พีรวสุพงศ์ ถือหุ้น 94,000 หุ้น (94%) และเป็นกรรมการ แจ้งผลประอบการรอบปี 2558-2559 ไม่มีรายได้ รอบปี 2559 ขาดทุนสุทธิ 743,171.53 บาท สินทรัพย์ 14,775,044.30 บาท หนี้สิน 20,000 บาท กำไรสะสม 4,755,044 บาท
ขณะที่ บริษัท เมืองไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ทราเวลกรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนวันที่ 20 ส.ค. 2555 ทุนล่าสุด 100 ล้านบาท ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ที่ตั้งเลขที่ 388/6 ถนนนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร (ที่ตั้งสำนักงานบัญชีเลขที่ 46/112 หมู่ที่ 10 ซอยนวมินทร์ 74 ถนนรัชดา-รามอินทรา แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร) ณ วันที่ 30 เม.ย. 2560 น.ส.ปาณิสรา สุตะวงค์ ถือหุ้นใหญ่ 980,000 หุ้น (98%) และเป็นกรรมการ ได้จดทะเบียนเลิกบริษัท ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2560 และขณะนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี แจ้งผลประกอบการรอบปี 2559 รายได้ 184,102,248.47 บาท กำไรสุทธิ 10,671,418 บาท สินทรัพย์ 110,186,666 บาท หนี้สิน 132,006 บาท กำไรสะสม 10,054,660 บาท
ก่อนหน้านี้ รอบปี 2558 แจ้งว่า มีรายได้เพียง 7,097,344 บาท ขณะที่ รอบปี 2555-2557 แจ้งว่ามีรายได้เพียง 11,750 บาท 29,250 บาท และ 26,250 บาท ตามลำดับ
น่าสังเกตว่า แจ้งว่ามีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 184 ล้านบาท ในช่วงปี 2559 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทฯถูกตรวจสอบและดำเนินคดี
นี่คือ บริษัททัวร์จีนรายล่าสุดที่ถูก ป.ป.ง.อายัดทรัพย์คดีฟอกเงิน
http://www.amlo.go.th/amlo-intranet/images/CommandHold/CommandHold_2559/CommandHold_2560/70-2560.pdf
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก bangkokbiznews.com