องค์กรสังฆาธิการฯ ชวนทุกวัดไม่รับงบ จนกว่าจะเปลี่ยน ผอ.พศ.
องค์กรสังฆาธิการแห่งคณะสงฆ์ไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เปลี่ยนตัว ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หลังออกมาให้ข่าวกรณีทุจริตเงินทอนวัด จนสร้างความเสียหายต่อพระพุทธศาสนา พร้อมสั่งให้วัดทุกแห่งทั้งในและนอกประเทศ งดรับเงินอุดหนุนใด ๆ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนตัว ผอ.พศ.
วันที่ 18 ก.ค. 2560 ในกลุ่มไลน์ของพระสังฆาธิการแห่งคณะสงฆ์ไทย ได้มีการแชร์หนังสือแถลงการณ์องค์กรพระสังฆาธิการแห่งคณะสงฆ์ไทย ฉบับที่ 2/2560 เรื่องการทุจริตเงินอุดหนุนพัฒนาวัดและเงินอุดหนุนการศึกษาสงฆ์ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) โดยไม่มีการลงนามรับรองจากบุคคลใด พร้อมข้อความเรียกร้องให้ปลด พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ออกจากตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เนื่องจากออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการทุจริตเงินอุดหนุนพัฒนาวัดทั่วราชอาณาจักรแบบคลุมเครือ ทั้งที่ผลสอบข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฎ รวมทั้งการมุ่งโยกย้ายข้าราชการผู้ปฏิบัติการมากกว่าผู้บริหารระดับสูง ที่มีหลักฐานพัวพันกับการทุจริต ส่งผลเสียหายต่อสภาบันพระพุทธศาสนาในภาพรวม
พร้อมกันนี้ ในแถลงการณ์ยังขอให้ทุกวัด และโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาทุกแห่งภายในประเทศและต่างประเทศ ขึ้นป้ายไม่ขอรับเงินอุดหนุนใด ๆ จาก พศ. จนกว่าจะมีการปลด พ.ต.ท.พงศ์พร หรือจนกว่า พ.ต.ท.พงศ์พร จะแสดงความรับผิดชอบ ต่อการแก้ปัญหาทุจริตในหน่วยงานของตัวเอง จนที่ประจักษ์
ขณะที่ พระเทพปฏิภาณวาที หรือ เจ้าคุณพิพิธ วัดสุทัศนเทพวราราม แสดงความไม่พอใจต่อการสอบสวนกรณีทุจริตเงินทอนวัด ของพ.ต.ท.พงศ์พร โดยต่อว่า ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ ผอ.สำนักพุทธฯปากมาก พูดเรื่องเงินเยอะทำไม ต้องปลดออกจากตำแหน่ง เพราะไม่เข้าใจวิธีการทำงานของคณะสงฆ์ และมหาเถรสมาคม โดยปกติ การตรวจสอบกรณีต่างๆ จะต้องเป็นไปตามลำดับ เช่น เรื่องลับ เรื่องลับมาก ซึ่งไม่ควรเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ ผอ.พศ. ใช้วิธีตั้งโต๊ะแถลงข่าวรายวัน รวมถึงมีการเปิดเผยข้อมูลทั้งที่บางข้อมูลห้ามเปิดเผย ตรงนี้เป็นชนวนสำคัญที่ทำให้คณะสงฆ์ไม่พอใจจนถึงขั้นออกแถลงการณ์ต้าน นอกจากนี้ จะไม่เชิญผอ.พศ.และ ผอ.พศ.จังหวัด เข้าร่วมกิจกรรมที่ทางคณะสงฆ์เป็นผู้จัดอย่างเด็ดขาด
ด้าน พ.ต.ท.พงศ์พร ยืนยันว่าจะพิสูจน์ความจริงให้ได้ และหากมีเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาฯทำผิด ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายแน่นอน ทั้งนี้ ยอมรับว่า เป็นเรื่องจริงกรณีพระผู้ใหญ่แสดงความไม่พอใจที่ตนเองให้ข่าวในทำนองทำให้พระเสียหาย
อย่างไรก็ตาม นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีแนวคิดที่จะปรับ พ.ต.ท.พงศ์พร ออกจากตำแหน่ง เพราะเชื่อมั่นในการทำงาน และสามารถพูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มที่ออกมาต่อต้าน พร้อมกันนี้ให้คำแนะนำว่า การทำงานกับคนหมู่มากต้องระมัดระวังรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดความกระทบกระทั่งระหว่างกัน ซึ่งปัญหาอาจเกิดจากบุคคลิกภาพของ พ.ต.ท.พงศ์พร ที่ทำงานตรงไปตรงมา ยึดข้อกฎหมายเป็นหลักและทำงานเชิงรุกมากเกินไป