เปิดสัญญาทาส 'ผู้ประกาศข่าว' ยุคทีวีดิจิทัล ได้เงิน3แสน/ด. ต้องเจออะไรบ้างรู้ไหม?
".. เมื่อผู้ประกาศข่าวรายนี้ ถูกห้ามไม่ได้มานั่งอ่านข่าวอีก จึงทำให้ต้องขาดรายได้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวไปทันที เพราะข้อตกลงในสัญญามีลักษณะเป็นการจ้างทำของ ไม่ใช่สัญญาจ้างงานแบบบริษัทอื่นที่มีการจ่ายเงินค่าตอบแทนเป็นรายเดือนให้ ข้อตกลงในสัญญาจะจ่ายเงินให้ตามผลสำเร็จของงานที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น ซึ่งในกรณีนี้ คือ จ่ายเงินจำนวนครั้งที่มาอ่านข่าวต่อวัน 4 ชั่วโมง คิดเป็นเงิน 1 หมื่นบาท นอกจากนี้ ยังไม่สามารถไปรับงานที่อื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นแค่เสียงก็ตาม.."
การทำสัญญาว่าจ้าง 'ผู้ประกาศข่าว' ในยุคสื่อทีวีดิจิทัลของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีลักษณะเป็น สัญญาทาส ที่กำหนดให้ผู้ประกาศข่าว ต้องทำงานตามคำสั่งที่นายจ้างมอบหมายไว้ทุกอย่าง โดยไม่มีข้อยกเว้น แม้กระทั่งการโฆษณาขายสินค้าให้กับสถานี ภายในช่วงระยะเวลาตามสัญญาจ้าง
หากใครฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะถูกสั่ง ห้ามอ่านข่าว มีผลทำให้ไม่ได้รับเงินค่าจ้างที่จ่ายให้เป็นรายวันตามอัตราที่ตกลงกันไว้ และห้ามไปรับงานที่อื่น จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาว่าจ้างในสัญญา
แหล่งข่าวในวงการสื่อทีวีดิจิทัล เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranes.org ว่า การว่าจ้างผู้ประกาศข่าวทีวีดิจิทัลช่องหนึ่ง มีการตกลงจ่ายเงินค่าตอบแทนการทำงานให้ผู้ประกาศข่าวรายหนึ่ง ในอัตราที่สูงถึงวันละ 1 หมื่นบาท จากการอ่านข่าวจำนวน 4 ชั่วโมงต่อ 1 วัน เมื่อครบหนึ่งเดือนจะจ่ายเงินค่าจ้างรวมให้ครั้งเดียว วันไหนไม่มาอ่านข่าวจะถูกหักเงิน จะจ่ายเงินตามวันที่มีการทำงานจริงเท่านั้น
สิริรวมรายได้เฉลี่ยตกอยู่เดือนละประมาณ 3 แสนบาท!
ทั้งนี้ ในการว่าจ้างงานผู้ประกาศข่าว รายนี้ จะมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ระบุตำแหน่ง 'พิธีกร' ไม่ใช่ผู้ประกาศข่าว และจะต้องยินยอมทำงานทุกอย่างตามที่สถานีกำหนด ไม่เว้นแม้กระทั่งการเป็นพิธีกรดำเนินรายการโฆษณาขายสินค้าให้กับทางสถานี และผู้ประกาศข่าวไม่มีสิทธิที่จะยกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดระยะเวลาว่าจ้างที่ตกลงไว้ ซึ่งปัจจุบันกำหนดให้ลงนามเป็นระยะเวลายาวนานถึง 5 ปี
ซึ่งในช่วงเวลานี้ หากผู้ประกาศข่าว ฝ่าฝืน มีปัญหาไม่ปฎิบัติตามคำสั่ง มีสิทธิที่จะถูกสั่งห้ามอ่านข่าวได้ และห้ามไปรับงานที่อื่น จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญา
แหล่งข่าว ยังกล่าวด้วยว่า ล่าสุดทราบข่าวมาว่า มีผู้ประกาศข่าวรายนี้ ในทีวีดิจิทัลช่องนั้น มีปัญหากับผู้อำนวยการสถานี หลังจากทำงานมาประมาณ 3 ปี เหลือสัญญาว่าจ้างอีก 2 ปี ทำให้ถูกสั่งห้ามมาอ่านข่าวอีก
สาเหตุมีจากความขัดแย้งในการทำงานหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการถูกบังคับให้ไปเป็นพิธีกรรายการขายโฆษณาสินค้าให้ จากช่วงแรกที่ตกลงแค่ให้มานั่งอ่านข่าวเท่านั้น
"เมื่อผู้ประกาศข่าวรายนี้ ถูกห้ามไม่ได้นั่งอ่านข่าวอีก จึงทำให้ต้องขาดรายได้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวไปทันที เพราะข้อตกลงในสัญญามีลักษณะเป็นการจ้างทำของ ไม่ใช่สัญญาจ้างงานแบบบริษัทอื่นที่มีการจ่ายเงินค่าตอบแทนเป็นรายเดือนให้ ข้อตกลงในสัญญาจะจ่ายเงินให้ตามผลสำเร็จของงานที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น ซึ่งในกรณีนี้ คือ จ่ายเงินจำนวนครั้งที่มาอ่านข่าวต่อวัน 4 ชั่วโมง คิดเป็นเงิน 1 หมื่นบาท นอกจากนี้ ยังไม่สามารถไปรับงานที่อื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นแค่เสียงก็ตาม"
แหล่งข่าว ยังระบุด้วยว่า "ขณะนี้ผู้ประกาศข่าวรายนี้ กำลังเดือดร้อนมาก เพราะปัจจุบันไม่มีรายได้อะไรเลยตอนนี้ จะไปขอร้องให้ทางสถานียกเลิกสัญญาก่อน โดยยอมจ่ายเงินค่าเสียหายให้ ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับ บอกแต่ว่าไม่ต้องมาอ่านข่าวอีกแล้ว คนในวงการที่รู้เรื่องก็ไม่รู้จะหาทางช่วยอย่างไร ทีวีช่องอื่นก็ไม่กล้าจ้างงานต่อ เพราะมีเงื่อนไขในสัญญาจ้างกำหนดอยู่"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อคนในสถานีทีวีดิจิทัลรายหนึ่ง เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ได้รับการยืนยันว่า มีมูลความจริง
เบื้องต้น ได้พยายามหาช่องทางติดต่อผู้ประกาศข่าวรายนี้ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมแล้ว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้
หมายเหตุ : ภาพประกอบเรื่องจาก Thumbsup