เจาะแฟ้มลับ‘บิ๊กตู่’หอบสารพัดปัญหาเกษตร-ภาษี-สารเร่งเนื้อแดงคุย‘ทรัมป์’
เจาะแฟ้มลับ พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมตัวเต็มที่หอบสารพัดประเด็นหารือ ‘ทรัมป์’ ทั้งการให้สิทธิพิเศษทางภาษี การระบายข้าว การค้างาช้าง ความเข้มงวดบังคับใช้กฏหมายฉลากภาพบนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยันสารเร่งเนื้อแดงในหมู
“ตอนนี้ยังไม่ได้มีการยกเลิกนัดหมายแต่อย่างใด เพราะยังไม่ได้กำหนดวันเอาไว้ ทางการไทยยังต้องเตรียมข้อมูลการประชุมต่อไป โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศ ที่ต้องเตรียมประเด็นหารือให้ลงตัวมากที่สุด”
"ภายหลังที่ทางการไทยเตรียมประเด็นหารือลงตัวแล้ว ก็จะนัดหมายให้ผู้นำทั้งสองประเทศพบกันตามคำเชิญ ซึ่งสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ยืนยันว่าคำเชิญยังมีผลบังคับใช้อยู่ แต่ขึ้นอยู่กับเวลาและสาระการประชุมว่าจะลงตัวช่วงใด หากทุกอย่างลงตัวก็จะจัดให้มีการนัดหมาย"
เป็นคำยืนยันจาก พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามถึงกระแสข่าวว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยกเลิกนัดหมายพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว จากกำหนดการเดิมที่จะเยือนสหรัฐฯในวันที่ 19 ก.ค. 2560 (อ้างอิงจาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์)
ไม่ว่าข้อเท็จจริงประเด็นนี้เป็นอย่างไร ?
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า คณะทำงานของ ‘บิ๊กตู่’ ได้จัดเตรียมประเด็นหารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ไว้แล้วหลายประเด็นด้วยกัน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบรายละเอียด ดังนี้
เบื้องต้น การหารือกับ ‘ผู้นำเบอร์หนึ่ง’ ของสหรัฐฯ จะเป็นการอัพเดตความคืบหน้าภายหลังการประชุม TIFA JC หรือการประชุมคณะมนตรีภายใต้กรอบความตกลงทางการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐฯ ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ประจำปี 2560 ที่จัดขึ้นในไทย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2560 ที่ผ่านมา
โดยการพูดคุยระหว่าง ‘บิ๊กตู่’ และ ‘ทรัมป์’ ครั้งนี้ คือการระบุแผนการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม และกรอบการดำเนินงานที่ผ่านมาระหว่างไทย-สหรัฐฯ นอกจากนี้จะมีประเด็น ‘เชิงบวก’ ที่หน่วยงานไทยเห็นควรให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยิบยกขึ้นมาหารือด้วย เพื่อสะท้อนความพยายามในการแก้ไขปัญหาการปรับปรุงการดำเนินงานของไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศ
สำหรับการหารือดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นประเด็นทางการค้า และการลงทุนหลาย 10 ประเด็นแล้ว คาดว่ามีประเด็นสำคัญที่อาจถูก ‘บิ๊กตู่’ หยิบยกมาหารือสืบเนื่องมาจากการประชุม TIFA JC (ดูเอกสารประกอบ)
หนึ่ง โครงการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ที่สหรัฐฯทำสัญญากับไทยตั้งแต่ปี 2519 โดยปัจจุบันสมาพันธ์สหภาพแรงงานสหรัฐฯ ได้ขอร้องเรียนเพื่อขอให้ทบทวนสิทธิ GSP ดังกล่าว เนื่องจากปัญหาสิทธิแรงงาน
โดยการประชุม TIFA JC เมื่อเดือน เม.ย. 2560 ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ขอให้เพิ่มเติมความ และส่งร่าง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ ให้กับสหรัฐฯ เพื่อให้ความเห็นทางกฎหมายต่อไปด้วย โดยสหรัฐฯแสดงความเป็นห่วงว่า คุณสมบัติของผู้ขอจัดตั้งสหภาพ หรือกรรมการสหภาพที่เป็นคนต่างด้าวที่กำหนดให้ต้องสามารถอ่านและเขียนภาษาไทยได้ เห็นว่า แนวทางปฏิบัติเป็นไปได้ยาก และพบว่า ไม่สามารถมีส่วนร่วมในการพิจารณาร่างกฎหมาย และแสดงความเห็นต่อร่างกฎหมายได้อย่างครบถ้วน เนื่องจากไม่มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษ
ทั้งนี้ ไทยได้แจ้งสถานะว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2560 ที่ผ่านมา ไทยและสหรัฐฯ ได้หารือเชิงเทคนิคในระดับเจ้าหน้าที่ เพื่อติดตามความคืบหน้าประเด็นดังกล่าวแล้ว และประชุมกันอีกครั้งเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมาแล้ว
สอง การเปิดตลาดเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ที่ตรวจพบสารเร่งเนื้อแดง (Ractopamine) ตกค้างตาม Codex (โครงการมาตรฐานอาหารขององค์การอาหาร และเกษตรแห่งสหประชาชาติ และองค์การอนามัยโลก)
สหรัฐฯให้ไทยศึกษาผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการใช้สารเร่งเนื้อแดงในสุกร และผลกระทบต่อสุขภาพของสัตว์ให้สหรัฐฯทราบ โดยมีกำหนดสรุปผลรายงานภายในสิ้นปี 2560
สถานะล่าสุดเรื่องนี้ กรมปศุสัตว์ ประเทศไทย อยู่ระหว่างศึกษาปริมาณสารตกค้างของสารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงสุกรไทย ด้านสุขภาพมนุษย์ และสวัสดิภาพสัตว์ โดยมีการกำหนดสรุปผลการศึกษาภายในปี 2560 โดยนายกรัฐมนตรี ได้ขอทราบประเด็นเหล่านี้ทั้งหมด เพื่อเตรียมหารือต่อไป
สาม การอุดหนุนและการระบายข้าว
ในการประชุม TIFA JC ที่ผ่านมา ไทยแจ้งยืนยันว่า ปัจจุบันไม่มีโครงการรับจำนำข้าว และไม่มีการแทรกแซงขายข้าวในสต็อกแล้ว
อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 7-8 มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมา ในการประชุมคณะกรรมการเกษตรสมัยสามัญ (COA) ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐฯทวงถามการแจ้งข้อมูลอุดหนุนภายในของไทยภายใต้ WTO (องค์การการค้าโลก) ที่ยังคงค้าง โดยคณะผู้แทนไทยได้แจ้งว่า ไทยอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะจัดทำข้อมูลเพื่อแจ้งการอุดหนุนภายในของไทยแก่ WTO ต่อไป
‘บิ๊กตู่’ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวม เพื่อเตรียมไปหารือเรื่องนี้เช่นกัน
สี่ การค้างาช้าง
ในการประชุม TIFA JC ที่ผ่านมา สหรับฯแจ้งว่า จะนำส่งความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย และการออกร่าง พ.ร.บ.ช้างของไทย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯทราบ พร้อมทั้งเสนอแนะให้ไทยจัดเก็บข้อมูลสถิติเกี่ยวกับการค้างาช้างอย่างต่อเนื่อง
พล.อ.ประยุทธ์ สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสถานะล่าสุดของร่างกฎหมายฉบับนี้แล้ว รวมทั้งกรอบเวลาที่คาดว่าจะมีผลใช้บังคับด้วย
ห้า การดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการค้า (TFA)
ช่วงปลายเดือน พ.ค. 2560 ที่ผ่านมา ไทยแจ้งบทบัญญัติที่ต้องการระยะเวลาปรับตัว (Category B) และระยะเวลาที่คาดว่าจะสามารถปฏิบัติตามบทบัญญัติดังกล่าว โดย พล.อ.ประยุทธ์ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอัพเดตความคืบหน้า เพื่อเตรียมหารือประเด็นนี้ด้วย
หก มาตรการฉลากภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สหรัฐฯ ระบุว่า ไทยได้เผยแพร่เอกสารวิชาการฉบับปรับปรุงบนเว็บไซต์ของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2560 ซึ่งไทยจะทำงานร่วมกับสหรัฐฯเพื่อทำให้มั่นใจว่าการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวของไทย จะไม่เกิดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมต่อการค้าสุรา
อย่างไรก็ดีสหรัฐฯ ขอรับทราบความเข้มงวดในการบังคับใช้มาตรการฉลากภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของไทย ในกรณีที่พบว่า ผู้ประกอบการยังดำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรการดังกล่าวด้วย
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทั้งหมดคือ 5-6 ประเด็นสำคัญ ที่ ‘บิ๊กตู่’ อาจนำไปหารือกับ ‘ทรัมป์’ ในวันที่ 19 ก.ค. 2560 ที่จะถึงนี้
แต่ถ้าไม่เป็นไปตามแผนนี้ คงต้องตามอย่างที่ พล.ท.วีรชน ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า “คำเชิญยังมีผลบังคับใช้อยู่ แต่ขึ้นอยู่กับเวลาและสาระการประชุมว่าจะลงตัวช่วงใด หากทุกอย่างลงตัวก็จะจัดให้มีการนัดหมาย” นั่นเอง ?
หมายเหตุ : ภาพประกอบ พล.อ.ประยุทธ์ จากเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลไทย, ภาพโดนัลด์ ทรัมป์ จากนิตยสาร time ออนไลน์