โพลเผยคนส่วนใหญ่เชื่อพ.ร.บ.ยาสูบใหม่ ลดนักสูบกลุ่มเด็ก-เยาวชน
'นิด้าโพล' เผยผลสำรวจประชาชนร้อยละ 50.56 เชื่อ พ.ร.บ.ยาสูบ 2560 ช่วยลดนักสูบหน้าใหม่ หนุนกฎหมายห้ามแบ่งขาย ปิดช่องเยาวชนเข้าถึงได้ แนะใช้การรณรงค์ปลูกจิตสำนึกแก้ปัญหาที่ต้นทาง
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “คนไทยคิดอย่างไรกับ พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 5 – 7 ก.ค. 2560 จากประชาชน ทั่วประเทศ กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับ พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ฉบับใหม่ ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา
จากการสำรวจ เมื่อถามถึงการรับทราบเกี่ยวกับการบังคับใช้ พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ในประเด็นต่าง ๆ พบว่า การห้ามขายผลิตภัณฑ์ยาสูบกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 77.44 ระบุว่า ทราบ และร้อยละ 22.56 ระบุว่า ไม่ทราบ การห้ามให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นผู้ขายผลิตภัณฑ์ยาสูบ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 65.20 ระบุว่า ทราบ และร้อยละ 34.80 ระบุว่า ไม่ทราบ การห้ามขายผลิตภัณฑ์ยาสูบใน 4 กลุ่มสถานที่ ได้แก่ วัดหรือสถานที่ปฏิบัติ พิธีกรรมทางศาสนา สถานพยาบาลและร้านขายยา สถานศึกษาทุกระดับ สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และสวนสนุก พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 70.36 ระบุว่า ทราบ และร้อยละ 29.64 ระบุว่า ไม่ทราบ
การห้ามโฆษณาสื่อสารการตลาดผลิตภัณฑ์ยาสูบในทุกรูปแบบ อาทิ พริตตี้ ส่งเสริมการขายในงานคอนเสิร์ต พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 59.82 ระบุว่า ทราบ และร้อยละ 40.18 ระบุว่า ไม่ทราบ การห้ามผู้ประกอบการธุรกิจผลิตภัณฑ์ยาสูบทำกิจกรรม CSR อุปถัมภ์สนับสนุน บุคคลหรือองค์กร พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 61.32 ระบุว่า ไม่ทราบ และร้อยละ 38.68 ระบุว่า ทราบ การห้ามตั้งวางโชว์ผลิตภัณฑ์ยาสูบหรือซองบุหรี่ ณ จุดขายปลีก พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 68.45 ระบุว่า ทราบ และร้อยละ 31.55 ระบุว่า ไม่ทราบ
การห้ามแบ่งซองขายบุหรี่เป็นรายมวน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 67.65 ระบุว่า ทราบ และร้อยละ 32.35 ระบุว่า ไม่ทราบ
การเพิ่มโทษผู้ฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่เป็นปรับไม่เกิน 5,000 บาท พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 58.70 ระบุว่า ทราบ และร้อยละ 41.30 ระบุว่า ไม่ทราบ
เจ้าของสถานที่สาธารณะที่เป็นเขตปลอดบุหรี่ มีหน้าที่ต้องประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือน ดูแลให้ไม่มีการฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 61.37 ระบุว่า ทราบ และร้อยละ 38.63 ระบุว่า ไม่ทราบ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการบังคับใช้ พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ในประเด็นต่าง ๆ พบว่า การห้ามขายผลิตภัณฑ์ยาสูบกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 89.68 ระบุว่า เห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 9.28 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 1.04 ระบุว่า เฉย ๆ /ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ การห้ามให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นผู้ขายผลิตภัณฑ์ยาสูบ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 82.56 ระบุว่า เห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 14.72 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 2.72 ระบุว่า เฉย ๆ /ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
การห้ามขายผลิตภัณฑ์ยาสูบใน 4 กลุ่มสถานที่ ได้แก่ วัดหรือสถานที่ปฏิบัติ พิธีกรรมทางศาสนา สถานพยาบาลและร้านขายยา สถานศึกษาทุกระดับ สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และสวนสนุก พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 91.20 ระบุว่า เห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 7.60 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 1.20 ระบุว่า เฉย ๆ /ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
เจ้าของสถานที่สาธารณะที่เป็นเขตปลอดบุหรี่ มีหน้าที่ต้องประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือน ดูแลให้ไม่มีการฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 91.52 ระบุว่า เห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 6.88 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 1.60 ระบุว่า เฉย ๆ /ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับ พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ ว่าจะช่วยลดการเข้าถึงหรือปัญหา การสูบบุหรี่ในกลุ่มเด็กและเยาวชนได้หรือไม่ พบว่า ประชาชน ร้อยละ 18.08 ระบุว่า ช่วยได้มาก เพราะการบังคับใช้รอบนี้ มีบทลงโทษที่รุนแรง และค่อนข้างจริงจัง คนน่าจะเกรงกลัวกฎหมายมากขึ้น อีกทั้งกฎหมายการห้ามแบ่งขาย น่าจะทำให้เด็กไม่มีกำลังซื้อ และห้ามขายให้กับผู้ที่อายุ ต่ำกว่า 20 ปี ตลอดจนการห้ามส่งเสริมการขายและการโฆษณา เด็กก็จะไม่เกิดการเลียนแบบ น่าจะช่วยลดปัญหาการสูบบุหรี่ในกลุ่มเด็ก และเยาวชนลงได้ ร้อยละ 50.56 ระบุว่า ช่วยได้ในระดับหนึ่ง เพราะ บางข้อก็สามารถควบคุมได้ แต่บางข้อก็ไม่สามารถควบคุมได้ หรือควบคุมได้เฉพาะกลุ่ม อีกทั้งการบังคับใช้กฎหมายจะเข้มงวดในช่วงแรก ๆ แต่พอได้สักระยะก็จะเป็นเหมือนเดิม และยังมีช่องทางอื่นที่เด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงหรือแอบหาซื้อบุหรี้ได้อยู่ดี วัยรุ่นเป็นวัยที่อยากรู้ อยากลอง ชอบเลียนแบบ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ตราบใดยังมีคนขาย ก็ยังมีคนซื้อ เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ควรใช้การรณรงค์จิตสำนึกมากกว่า ร้อยละ 25.84 ระบุว่า ช่วยไม่ได้เลย เพราะ กฎหมายไม่ได้ถูกบังคับใช้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะตามพื้นที่ในต่างจังหวัด ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการแก้ไขกฎหมายมาแล้วหลายครั้ง ปัญหาผู้เสพหน้าใหม่ก็ไม่ได้ลดลงเลย ทั้งนี้ บุหรี่เป็นสิ่งที่หาซื้อได้ง่าย ถึงมีกฎหมายระบุห้ามก็ตาม เด็กและเยาวชนอาจจะฝากให้คนอื่นซื้อให้ หรือต้องขวานขวายหามาสูบให้จนได้ อีกทั้งร้านค้าบางร้านก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือ และร้อยละ 5.52 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก www.trc.or.th