ตัวประกันชาวเวียดนาม 2 ราย ถูกฆ่าตัดคอเกาะมินดาเนา
กองทัพฟิลิปปินพบศพตัวประกันชาวเวียดนาม2รายถูกฆ่าตัดคอในฐานที่มั่นกลุ่มติดอาวุธอาบูไซยาฟ หลังไม่ได้รับเงินค่าไถ่
วันที่ 5 ก.ค. 2560 กองทัพฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า พบศพกะลาสีเรือชาวเวียดนาม 2 คนถูกฆ่าตัดคออย่างโหดเหี้ยมหลังถูกจับเป็นตัวประกันนาน 8 เดือนในจังหวัดบาซิลัน บนเกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธอาบูไซยาฟเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยกองทัพฟิลิปปินส์เชื่อว่ากลุ่มอาบูไซยาฟตัดสินใจปลิดชีพตัวประกันทั้ง 2 คนเพราะไม่ได้รับเงินค่าไถ่จากการจับตัวประกันดังกล่าว
กะลาสีเรือชาวเวียดนาม 2 คนนี้ถูกจับเป็นตัวประกันพร้อมกับกะลาสีเรืออีก 4 คนตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่ผ่านมา โดยลูกเรือคนหนึ่งจากทั้งหมด 6 คนได้รับการช่วยเหลือออกมาได้ แต่ยังมีลูกเรืออีก 3 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน โดยปัจจุบันกลุ่มติดอาวุธอาบูไซยาฟจับตัวประกันเอาไว้ทั้งหมด 22 คนเป็นชาวต่างชาติ 16 คน ซึ่งกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้มักฆ่าตัดคอตัวประกันหากไม่ได้รับเงินค่าไถ่ โดยมีชาวเยอรมันอายุ 70 ปีรายหนึ่งถูกฆ่าตัดคอในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา หลังกลุ่มติดอาวุธดังกล่าวไม่ได้รับเงินค่าไถ่ 600,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 20 ล้านบาท และปีที่ผ่านมากลุ่มอาบูไซยาฟได้ฆ่าตัดศีรษะตัวประกันชาวแคนาดา 2 คน
อย่างไรก็ตาม อาบูไซยาฟเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ก่อตั้งขึ้นจากเงินของเครือข่ายกลุ่มอัลกออิดะห์ ของโอซามะ บินลาเดนในยุค 90 แต่ต่อมาได้แตกกระจายกันออกไป ซึ่งส่วนหนึ่งเดินหน้าโจรกรรมทรัพย์สินและก่อเหตุลักพาตัวผู้คน และอีกส่วนหนึ่งประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ร่วมกับกลุ่มติดอาวุธมาอูเตที่บุกยึดเมืองมาราวีอยู่ในขณะนี้ โดยกลุ่มติดอาวุธยังคงฝังตัวอยู่ในพื้นที่บางส่วนของเมืองมาราวี แม้ว่ากองกำลังทหารฟิลิปปินส์จะเดินหน้าออกปฏิบัติการปราบปรามอย่างดุเดือด ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 460 คนและมีผู้อพยพย้ายถิ่นฐานอีกเกือบ 400,000 คนนับตั้งแต่เกิดวิกฤตในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กองทัพฟิลิปปินส์ตรวจพบอาวุธปืนจำนวน 410 กระบอกและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่งเช่น โดรนและชุดวิทยุขณะออกปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธอิสลามในเมืองมาราวี ซึ่งกองทัพฟิลิปปินส์เชื่อว่าการยึดอาวุธครั้งนี้จะช่วยลดความสามารถในการสู้รบของกลุ่มติดอาวุธได้