เคบีทีจี คว้ารางวัลศูนย์นวัตกรรมที่ดีที่สุดของไทยในกลุ่มสถาบันการเงิน
เคบีทีจี กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของธนาคารกสิกรไทย คว้ารางวัล ศูนย์นวัตกรรมที่ดีที่สุดของไทย ในกลุ่มสถาบันการเงิน (Best Innovation Centre by Financial Institution in Thailand) จากวารสาร ดิ เอเชี่ยน แบงเกอร์ ด้วยโครงการนวัตกรรมบริการต่อลูกค้าที่มีความโดดเด่น ควบคู่กับการบริหารจัดการและสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์ของพนักงาน นำไปสู่การขับเคลื่อนธุรกิจตอบสนองต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที
ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ประธาน กสิกร บิซิเนส - เทคโนโลยี กรุ๊ป หรือ เคบีทีจี เปิดเผยว่า เคบีทีจี เป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของธนาคารกสิกรไทย ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนธนาคารกสิกรไทยในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะสามารถตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลาย ช่วยให้เข้าถึงการทำธุรกรรมทางการเงินได้ง่ายขึ้น รวดเร็ว และปลอดภัยที่สุด โดยมีเทคโนโลยีเป็นตัวเชื่อม จึงมีการกำหนดนโยบายและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์ มีระบบการทำงานแบบบริษัทเทคโนโลยีและดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่นดังกล่าวตั้งแต่การเปิดบริษัทอย่างเป็นทางการในปี 2559 เป็นต้นมา ส่งมอบเทคโนโลยีบริการที่ดีที่สุดให้แก่ธนาคาร ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าบุคคลและธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด เคบีทีจี ได้รับรางวัล ศูนย์นวัตกรรมที่ดีที่สุดของไทย ในกลุ่มสถาบันการเงิน (Best Innovation Centre by Financial Institution in Thailand) จากวารสาร ดิ เอเชี่ยน แบงเกอร์ ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่สถาบันการเงินที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมด้านนวัตกรรมที่มีความโดดเด่น จนส่งผลสำเร็จทั้งด้านการให้บริการแก่ลูกค้าและการพัฒนาพนักงานในองค์กร กิจกรรมด้านนวัตกรรมบริการต่อลูกค้าที่มีความโดดเด่นของ เคบีทีจี จนส่งผลให้ชนะรางวัลดังกล่าว ประกอบด้วย ความสำเร็จในการพัฒนาบริการจนเป็นที่ยอมรับของลูกค้า เช่น ทีมพัฒนาแอปพลิเคชั่นธนาคารบนมือถือ K PLUS และ K PLUS SME ทีประกอบด้วย ทีมดูแลกลยุทธ์ทางธุรกิจ ทีมวิศวกรนักพัฒนา และทีมออกแบบ UX/UI ที่ร่วมกันทำงานจนเป็นแอปพลิเคชั่นธนาคารบนมือถือที่ใช้งานง่าย และปลอดภัย ได้รับความนิยมอันดับหนึ่ง ด้วยฐานผู้ใช้งานกว่า 5.2 ล้านราย นอกจากนี้ เคบีทีจีภายใต้ชื่อ บีคอน อินเทอร์เฟส ยังได้สร้างนวัตกรรมธนาคารบนมือถือสำหรับผู้บกพร่องทางการเห็น ที่สามารถคว้า 2 รางวัล จากการประกวด Global Fintech Hackcelerator อันเป็นส่วนหนึ่งของงาน Singapore Fintech Festival ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 2559 และจะเปิดให้บริการจริงภายในสิ้นปีนี้ พร้อมทั้งการพัฒนาบริการต่าง ๆ ที่มากกว่าบริการทางการเงินที่จะตอบสนองการใช้ชีวิตของลูกค้าให้สะดวกยิ่งขึ้น
ด้านนวัตกรรมบริการเพื่อลูกค้าธุรกิจ เคบีทีจี ได้นำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้กับบริการการรับรองเอกสารต้นฉบับ โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนของ บริษัท ไอบีเอ็ม ชื่อว่า ไฮเปอร์เลดเจอร์ (Hyperledger) สำหรับการสร้างระบบการให้บริการที่เรียกว่า OriginCert API ที่ใช้ในการรับรองเอกสารหนังสือค้ำประกัน (Letter of Guarantee: LG) ซึ่งจะช่วยลดกระบวนการที่ใช้ในการออกหนังสือเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าได้เร็ว ถูกต้อง และปลอดภัย โดยบริการ OriginCert API นี้ สามารถเปิดให้ธนาคารและองค์กรพันธมิตรอื่น ๆ ที่สนใจ เข้าร่วมใช้งานโดยไม่ต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านบล็อกเชนเองอีกด้วย นับเป็นโครงการสำคัญที่ทำให้ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารแรกที่ประกาศการพัฒนาบริการทางการเงินด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนในประเทศไทย
ด้านความสำเร็จที่มีต่อพนักงาน คือ การจัดกิจกรรมฝึกสอนและส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความคิดสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยีในตัวพนักงาน เพื่อนำไปสู่การออกบริการใหม่ที่มีนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบออฟฟิศของ เคบีทีจี ที่อยู่ภายใต้แนวคิด “KBank Innovation Campus” เปลี่ยนสถานที่ทำงานให้เป็น Agile Workplace ทำงานคล่องตัวได้ทุกที่ และกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดนวัตกรรมในที่ทำงาน พร้อมตอบสนองความต้องการทางธุรกิจอย่างฉับไว ในด้านการจัดกิจกรรม เคบีทีจี มีการจัดสัมมนาอัพเดทเทรนด์เทคโนโลยีทุกเดือน และมีการจัดกิจกรรมในลักษณะห้องปฏิบัติการ นำอุปกรณ์เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของผู้คน (Disruptive Technology) มาทดลองพัฒนาต่อยอดเพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้นอีก นำไปสู่การสร้างโซลูชั่นบริการที่มีศักยภาพ ที่จะสามารถต่อยอดสร้างรายได้ให้แก่ธนาคารได้ในอนาคต
ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช กล่าวตอนท้ายว่า รางวัลที่ได้รับครั้งนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นของเคบีทีจี ซึ่งจะยังคงเดินหน้าพัฒนาบริการและนวัตกรรมแห่งอนาคต เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที เพิ่มศักยภาพธนาคารกสิกรไทยในการแข่งขันธุรกิจ และเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีบริการอันดับหนึ่งในใจลูกค้าอย่างต่อเนื่อง