มสธ.โพล ชี้ นายกฯคนที่ 30 ต้องซื่อสัตย์ ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง
โพล มสธ. ชี้ นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 คือ ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่โกงกินชาติบ้านเมือง สามารถควบคุมคณะรัฐบาลและคนใกล้ชิด ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง ไม่ปล่อยให้ประชาชนในบ้านเมืองแตกแยก สังคมเสื่อมทรามด้านศีลธรรมจรรยา การศึกษาของคนในชาติตกต่ำ
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.60 รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยาธร ท่อแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการสื่อสารการเมืองและสังคม มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (STOU PSC POLL) ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ครั้งที่ 6/2560 ระหว่างวันที่ 21-28 มิถุนายน 2560 กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 11,868 คน เป็นชาย 6,078 คน (51.24%) หญิง 5,784 คน (48.76%) เกี่ยวกับ “คุณสมบัตินายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เป็นอย่างไร” ผลการวิเคราะห์ดังนี้
1. นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ผลพบว่า ลำดับ 1 ตนเองมีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่โกงกินชาติบ้านเมืองร้อยละ 87.18 ลำดับ 2 สามารถควบคุมคณะรัฐบาลและคนใกล้ชิดให้มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่โกงกินชาติบ้านเมือง ร้อยละ 86.32 ลำดับ 3 ยึดหลักทำงานเพื่อผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ร้อยละ 86.22 ลำดับ 4 รักและเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร้อยละ 85.14 ลำดับ 5 มีบารมีในการประสานความร่วมมือจากทุกพรรคการเมือง ร้อยละ 85.12 ลำดับ 6 กล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม ร้อยละ 84.56 ลำดับ 7 ฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนและสื่อมวลชน ร้อยละ 82.74 ลำดับ 8 มีความรู้ความสามารถเรื่องการศึกษา ร้อยละ 82.68 ลำดับ 9 มีลักษณะความเป็นผู้นำที่โดดเด่นในเวทีโลก ร้อยละ 82.28 ลำดับ 10 มีความรู้ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน ร้อยละ 81.26 ลำดับ 11 ขยันทำงาน ลงพื้นที่ดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง ร้อยละ 81.22 ลำดับ 12 มีทักษะการสื่อสารอย่างดีเยี่ยมกับคนทุกกลุ่ม ร้อยละ 81.18 ลำดับ 13 รู้จักเลือกใช้คนที่มีความสามารถสูง ร้อยละ 80.16 ลำดับ 14 เป็นคนตรงไปตรงมาไม่เล่นเล่ห์เหลี่ยมหรือเล่นโวหาร ร้อยละ 80.12 ลำดับ 15 ทำงานรวดเร็ว ถูกต้อง และถูกใจประชาชน ร้อยละ 80.08 ลำดับ 16 มีความรู้ความสามารถเรื่องเศรษฐกิจ ร้อยละ 80.06 ลำดับ 17 มีความรู้ความสามารถเรื่องการเมืองและสังคม ร้อยละ 78.32 ลำดับ 18 คิดเชิงบวกต่อการแก้ปัญหาประเทศ ร้อยละ 78.24
2. นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จำเป็นต้องสังกัดพรรคเมืองหรือไม่ ผลพบว่า ลำดับ 1 ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง ร้อยละ 63.24 ลำดับ 2 จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง ร้อยละ33.22 ลำดับ 3 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 3.54
3. สิ่งใดที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 “ไม่ควรทำ” ผลพบว่า ลำดับ 1 ปล่อยให้มีคนโกงกินบ้านเมือง ร้อยละ 87.28 ลำดับ 2 ปล่อยให้ประชาชนในบ้านเมืองแตกแยก ร้อยละ 85.26 ลำดับ 3 ปล่อยให้สังคมเสื่อมทรามด้านศีลธรรมจรรยาร้อยละ 85.48 ลำดับ 4 ปล่อยให้การศึกษาของคนในชาติตกต่ำ ร้อยละ 83.46 ลำดับ 5 ปล่อยให้คนทำผิดกฎหมายลอยนวล ร้อยละ 83.72 ลำดับ 6 ปล่อยให้ความไม่ยุติธรรมเบ่งบาน ร้อยละ 83.34 ลำดับ 7 ปล่อยให้ปัญหาชายแดนภาคใต้ลุกลาม ร้อยละ 80.18 ลำดับ 8 ปล่อยให้คนทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 80.06 ลำดับ 9 ปล่อยให้การพัฒนาประเทศล้าหลัง ร้อยละ 78.88 ลำดับ 10 ปล่อยให้คนในประเทศยากจนลง ทำมาหากินลำบาก ร้อยละ 78.56 ลำดับ 11 ปล่อยให้คนบางกลุ่มทำลายสถาบันหลักของชาติ ร้อยละ 74.08 ลำดับ 12 ปล่อยให้ส่วนราชการบริการประชาชนไม่มีคุณภาพ ร้อยละ 74.02