อธิบายชัดๆ ความเชื่อมโยง 'ผู้ชนะ-คู่เทียบ'ชิงงานก.เกษตรฯร้อยล.-ใคร'ผู้กำกับ'หลังฉาก?
"....ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการติดต่อจากบุคคลคนหนึ่ง ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ อ้างว่า รู้จักกับ น.ส.กันยา แทนพลกรัง เป็นอย่างดี พร้อมยืนยันว่า น.ส.กันยา แทนพลกรัง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับบริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด มานานแล้ว แต่ถูกบุคคลกลุ่มหนึ่ง ยังนำชื่อไปใช้ เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด เพื่อเข้าร่วมประกวดแข่งขันงานในหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ..."
นับเป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ ที่ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ติดตามตรวจสอบข้อมูลการประกวดราคาแข่งขันจัดงานประชาสัมพันธ์ ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีประเด็นสำคัญอยู่ที่เอกชน 3 ราย ที่เข้าซื้อซองเสนอราคาแข่งขันงานพร้อมกัน จำนวน 3 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) เคยปรากฎชื่อกรรมการ ผู้ถือหุ้น ผู้รับมอบอำนาจ พยาน เป็นบุคคลเดียวกัน รวมถึงเคยแจ้งใช้ที่อยู่แห่งเดียวกัน มานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบ
เพื่ออธิบายข้อมูลเรื่องนี้ ที่มีความซับซ้อน ให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ สำนักข่าวอิศรา ได้สรุปข้อมูลพร้อมภาพแผนภูมิมานำเสนอให้สาธารณชนรับทราบแบบชัดๆ อีกครั้ง
@ เริ่มต้น เปิดประเด็น
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงาน ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ย้อนหลังจนถึงปัจจุบัน พบว่า มีอยู่ 1 โครงการที่น่าสนใจ คือ จัดงานมหกรรมปศุสัตว์แห่งชาติ ปี 2557 Thailang Livestock Expo 2014 วงเงินงบประมาณ 39,600,000 บาท ที่ปรากฎชื่อ บริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด และ บริษัท เกรท คอม จำกัด เข้าซื้อซองเสนอราคาแข่งขันงานพร้อมกัน
เหตุที่น่าสนใจ เพราะจากตรวจสอบข้อมูลเอกสารหลักฐานการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด และ บริษัท เกรทคอม จำกัด ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า เคยใช้ผู้รับมอบอำนาจและพยานคนเดียวกัน ในการติดต่อราชการกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือ นายมีชัย เดชวิทยาพร และนางภานิชา พิณโท (อ่านประกอบ : บ.ชนะ-คู่เทียบ ใช้ผู้รับมอบอำนาจเดียวกัน! เปิดหลักฐานจ้างเหมาจัดมหกรรมปศุสัตว์ปี57 )
จากการตรวจสอบข้อมูลยังพบว่า บริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด และ บริษัท เกรทคอม จำกัด ยังเคยแจ้งใช้ที่อยู่ซอยเดียวกัน และเลขที่ติดต่อกันด้วย
(อ่านประกอบ : ขอเรียกข้อมูลดูก่อน!อธิบดีปศุสัตว์ แจง อิศรา ปมคุ้ยเจอสัมพันธ์ลึกบ.จ้างเหมาจัดมหกรรมปี57 , เคยใช้ที่อยู่ซอยเดียว-เลขติดกัน! สาวลึก'ผู้ชนะ-คู่เทียบ'จ้างเหมาจัดมหกรรมปศุสัตว์ปี57, โฮมออฟฟิศ2หลังติดกัน!ตามไปดูที่อยู่เก่า 'ผู้ชนะ-คู่เทียบ' จ้างเหมาจัดมหกรรมปศุสัตว์ปี57)
ต่อมาสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า บริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด และ บริษัท เกรทคอม จำกัด ยังเข้าร่วมซื้อซองยื่นเสนอราคาแข่งขันงานพร้อมกันสัญญาที่2 คือ งานประกวดราคาจ้างจัดงานการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์ วงเงิน 29,760,000 บาท ของ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ในช่วงต้นปี 2557ด้วย (อ่านประกอบ : ลามกรมส่งเสริมสหกรณ์! ผู้ชนะ-คู่เทียบ เจ้าเดิม ชิงจัดงานวาระแห่งชาติ วงเงินพุ่ง69ล.)
เท่ากับว่า บริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด ปรากฎชื่อเป็นผู้ชนะ ได้รับงานไป 2 สัญญา รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 69,360,000 บาท โดยมี บริษัท เกรทคอม จำกัด ปรากฎชื่อเป็น คู่เทียบทั้ง 2 สัญญา
@ ขยายผลเชิงลึก
จากนั้น สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลพบว่า บริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด และ บริษัท เกรทคอม จำกัด ยังเข้าซื้อซองแข่งขันงานสัญญาที่ 3 คือ โครงการประชาสัมพันธ์บทบาทและภารกิจด้านสุขภาพสัตว์ของกรมปศุสัตว์ วงเงินราคากลาง 25 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม งานนี้ บริษัท เกรทคอม จำกัด ไม่ได้ยื่นซองเสนอราคา แต่มีบริษัทเอกชนอีกแห่งหนึ่ง เข้าซื้อซองและยื่นเสนอราคาแทน ชื่อ บริษัท จี-เบรน จำกัด (อ่านประกอบ : เปิดหลักฐานมัด'คู่เทียบ'แห่ง2 ชิงเสนองานก.เกษตรฯ ชื่อ 'กก.-ผู้ถือหุ้น' กลุ่มเดียวกัน)
จากการตรวจสอบข้อมูลยังพบว่า บริษัท จี-เบรน จำกัด และ บริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด เคยปรากฏชื่อกก.-ผู้ถือหุ้น คนเดียวกันด้วย
แต่เงื่อนไขการประกวดราคางานโครงการระบุคุณสมบัติเอกชนที่จะเข้าร่วมแข่งขันเสนอราคาว่า จะต้องไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ประสงค์จะเสนอราคารายอื่น และ/ หรือต้องไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ให้บริการตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ ณ วันประกาศประกวดราคาจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือไม่เป็นผู้กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า บริษัท จี-เบรน จำกัด ยังใช้ผู้รับมอบอำนาจและพยาน ในการติดต่องานกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือ นายมีชัย เดชวิทยาพร และนางภานิชา พิณโท คนเดียวกับผู้รับมอบอำนาจและพยาน ของ บริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด และบริษัทเกรทคอม จำกัด
นอกจากนี้ บริษัท จีเบรน จำกัด และ บริษัท เกรทคอม จำกัด ยังเคยใช้ที่อยู่เดียวกันด้วย คือ 573/134 ซอยรามคำแหง 39 ดังกล่าว
(อ่านประกอบ : เผยโฉม‘จี-เบรน’คู่เทียบแห่ง2ชิงจัดงานก.เกษตรฯ! ใช้ผู้รับมอบอำนาจ-พยานเดียวกันอีกแล้ว ,'ที่อยู่-ผู้รับมอบอำนาจ'เดียวกัน!เปิดครบหลักฐานคู่เทียบแห่ง2ชิงงานก.เกษตรฯ-เงินพุ่ง776ล.)
ขณะที่ที่อยู่เลขที่ 573/134 ซอยรามคำแหง 39 ดังกล่าว ปัจจุบันเป็นสถานที่ตั้งบริษัท กิ๊บสัน แอนด์ กัน จำกัด ซึ่งปรากฎชื่อ นางชลันธร แก้วแดง เป็นกรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้นใหญ่ และเคยได้รับงานว่าจ้างของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ จำนวน 19 สัญญา รวมวงเงิน 145,592,101 บาท ด้วย
ขณะที่ นางชลันธร แก้วแดง กรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เกรทคอม จำกัด ให้สัมภาษณ์ชี้แจงสำนักข่าวอิศราเป็นทางการก่อนหน้านี้
โดยยอมรับว่า รู้จักกับบริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด เนื่องจากประกอบธุรกิจเหมือนกัน บริษัทเคยอยู่ติดกัน แต่ย้ายไปนานแล้ว จึงทำให้เคยพบปะพูดคุยกัน และเคยมีการว่าจ้างงานบางส่วนซึ่งกันและกัน โดยการว่าจ้างงานดังกล่าวจะเป็นส่วนที่ทางบริษัท เกรทคอมฯ มีทักษะไม่เพียงพอ จึงได้ว่าจ้างบริษัทอื่น ๆ ที่อยู่ในละแวกเดียวกันทำด้วย ไม่ใช่แค่เพียงบริษัท ใกล้ฟ้าฯ โดยงานนั้น ๆ ยังคงอยู่ในทางของบริษัท เพราะบริษัทแต่ละแห่งมีความชำนาญกันคนละแบบ
ส่วนกรณีการใช้ผู้รับมอบอำนาจในการติดต่อราชการคนเดียวกัน นางชลันธร ชี้แจงว่า เป็นการว่าจ้างสำนักงานบัญชีให้เป็นผู้ดำเนินการแทน จึงเป็นไปได้ว่าจะเป็นบุคคลเดียวกัน เนื่องจากเป็นบริษัทในละแวกใกล้เคียง คิดว่าบริษัท ใกล้ฟ้าฯ น่าจะใช้สำนักงานบัญชีเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้จักกับ น.ส.กันยา แทนพลกรัง กรรมการผู้มีอำนาจ บริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด หรือไม่ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า เป็นลูกน้องคนสนิทที่ทำงานให้มานาน นางชลันธร ตอบว่า รู้จักกันจริง และเคยเป็นลูกน้องในบริษัทจริง แต่ปัจจุบันได้แยกตัวออกไปเปิดบริษัทเอง
"น.ส.กันยา ไม่ใช่ลูกน้องเพียงคนเดียวที่แยกตัวออกไปเปิดบริษัท มีอีกหลายคนที่แยกตัวออกไปเปิดบริษัท และให้ความสนิทกับอดีตลูกน้องทุกคน ยินดีให้คำปรึกษาทั้งในเรื่องงานและเรื่องอื่น ๆ ยืนยันว่าไม่ได้ให้ความพิเศษแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง"
“ถามว่าเคยคุยกันเรื่องงานกันบ้างหรือไม่ ก็ขอตอบตรง ๆ ว่าคุยกันบ้าง แต่ในทางธุรกิจเรามีของดี เราก็ต้องเก็บของเราไว้บ้าง ไม่ใช่ไปบอกเขาหมด ทำงานเราไม่ได้กำไรเยอะแยะอะไร เดี๋ยวนี้คู่แข่งเยอะมาก เฉพาะในละแวกนี้ก็ปาเข้าไปเป็นสิบ ๆ บริษัทแล้ว ทั้งนี้ การที่เราจ้างบริษัทอื่น ๆ ให้มาทำงานของเราด้วย นั้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการจ้างช่วง แต่เป็นการช่วยเหลือกันในทางธุรกิจในเนื้องานที่เราไม่ถนัดเท่านั้น”
เมื่อถามต่อว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า บริษัท เกรทคอมฯ เป็นคู่เทียบในการเข้าร่วมเสนอราคาให้กับบริษัท ใกล้ฟ้าฯ นางชลันธรกล่าวว่า “ถ้าเป็นคู่เทียบจริง เราต้องชนะสิ ใครบ้างทำธุรกิจแล้วไม่อยากได้งาน ไม่อยากมีกำไร แต่เราไม่ได้เป็นคู่เทียบใคร เพราะการเป็นคู่เทียบไม่ทำให้รายได้เข้าบริษัทฯ และผลของการประกวดราคาก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคณะกรรมการฯ อยู่แล้ว โดยบริษัทฯ ได้ทำตามที่ระบุไว้ทุกอย่าง จึงมั่นใจได้ว่าไม่ผิดขั้นตอนแน่นอน” (อ่านประกอบ : แท้ที่'ผู้ชนะ'คว้าจัดงาน ก.เกษตรฯ69ล. ลูกน้องเก่าบ.คู่เทียบ! เจ้าของยันไม่เกี่ยวข้องกัน)
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า น.ส.กันยา แทนพลกรังกรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด ที่ปรากฏเป็นคู่สัญญาจัดงานประชาสัมพันธ์ให้กับหลายหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่ช่วงปี 2552 -2557 จำนวนทั้งสิ้น 17 สัญญา รวมวงเงิน 306,176,000 บาท พักอาศัยอยู่แฟลต ชั้นหนึ่ง โครงการบ้านเอื้ออาทร บึงกุ่ม อาคาร 18
ขณะที่ลูกสาว น.ส.กันยา ยืนยันว่า มารดาของตนเองเคยทำงานที่บริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด จริง แต่ออกมานานแล้วหลายปีแล้ว ?? (อ่านประกอบ : แฟลตเอื้ออาทร! ที่อยู่เจ้าของ บ.ใกล้ฟ้า คว้าจัดงานกษ.306ล.-ลูกยันแม่ลาออกนานแล้ว)
ทั้งที่ในช่วงต้นปี 2560 น.ส.กันยา แทนพลกรัง ยังปรากฎชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด เหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร
ขณะที่ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการติดต่อจากบุคคลคนหนึ่ง ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ อ้างว่า รู้จักกับ น.ส.กันยา แทนพลกรัง เป็นอย่างดี
พร้อมยืนยันว่า น.ส.กันยา แทนพลกรัง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับบริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด มานานแล้ว
แต่ถูกบุคคลกลุ่มหนึ่ง ยังนำชื่อไปใช้ เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ใกล้ฟ้า จำกัด เพื่อเข้าร่วมประกวดแข่งขันงานในหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ
บุคคลคนนี้ยังกล่าวอ้างด้วยว่า มีหลายบริษัท ที่กรรมการและผู้ถือหุ้น บริษัท มีสถานะที่แท้จริงเป็นเพียงแค่ พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และถูกนำชื่อมาใช้ เพื่อให้เข้าร่วมประกวดราคางานด้วย
แต่ไม่ยอมเปิดเผยว่า บุคคลที่อยู่เบื้องหลัง ในการวางแผนงานเรื่องนี้ทั้งหมดเป็นใครกันแน่?
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันจาก นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่าจะรับข้อมูลทั้งหมดของสำนักข่าวอิศรา เกี่ยวกับเรื่องนี้ไปตรวจสอบเชิงลึกอีกครั้ง
ส่วนผลการตรวจสอบของสตง.จะออกมาเป็นอย่างไรนั้น คงต้องติดตามดูกันต่อไป