ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับยกฟ้อง มือปืนป๊อบคอร์น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องมือปืนป๊อบคอร์น ทั้งนี้จำเลยได้ ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ เห็นว่าคดีนี้พยานโจทก์หลายปาก แต่ไม่มีประจักษ์พยานมายืนยัน จึงยังมีข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำผิดหรือไม่ จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างฎีกา มือปืนป๊อบคอร์น เผยรู้สึกดีใจมามากจนพูดอะไรไม่ออก
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (3 มี.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาบอุทธรณ์คดีฆ่าผู้อื่นหมายเลขดำ อ.1626/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวิวัฒน์ หรือท๊อป ยอดประสิทธิ์ มือปืนป๊อปคอร์น อายุ 25 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและนำอาวุธปืนออกนอกเคหะสถาน ภายในพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ขอให้ลงโทษตามป.อาญา มาตรา 288, 371, พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา ม.4, 7, 8ทวิ, 72, 72ทวิและ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548 ม.5, 6, 11, และ18
คดีนี้อัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2557 สรุปความผิดจำเลยว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2557 เวลากลางวันจำเลยกับพวก ได้มีปืนเล็กยาวไม่ทราบชนิดและขนาด ติดตัวไปที่ทางแยกหลักสี่ เขตหลักสี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และยิงปืนเข้าไปในอาคารศูนย์การค้าไอที สแควร์จน นายอะแกว แซ่ลิ้ว เสียชีวิต ส่วน น.ส.สมบุญ สักทอง นายนครินทร์ อุตสาหะ และนายพยนต์ คงปรางค์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย เหตุเกิดที่แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต คำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยไว้ 37 ปี 4 เดือน
ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษากันแล้วเห็นว่าคดีนี้พยานโจทก์หลายปาก แต่ไม่มีประจักษ์พยานมายืนยัน จึงยังมีข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำผิดหรือไม่ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างฎีกา หลังฟังคำพิพากษา นายวิวัฒน์หรือมือปืนป๊อบคอร์น กล่าวสั้นๆว่า รู้สึกดีใจมามากจนตนพูดอะไรไม่ออก