ปิดคดีทุจริตคืนภาษี 4.3 พันล.ฟัน 6 ขรก. 28 เอกชน-4 บิ๊กรวยผิดปกติ 1.3 พันล.
สรุปความคืบหน้าคดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล. จากปี 56-60 โฟกัสในชั้น ป.ป.ช. ฟัน 6 ขรก. 5 เอกชน พ่วง 23 รายส่ง ดีเอสไอ ปปง. - 4 บิ๊กถูกชี้มูลรวยผิดปกติ 1.3 พันล. ลุ้นผลชะตากรรมในศาลปราบคอร์รัปชัน
ความคืบหน้าคดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล้านของกรมสรรพากรที่ถูกเปิดโปงเมื่อเดือน มิ.ย.2556
ล่าสุด 22 มิ.ย. 2560 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดในคดีที่สอง ข้าราชการ 4 คน คือ นายพายุ สุขสดเขียว สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ 1 นายป้อมเพชร วิทยารักษ์ นางศศิพิมพ์ บรรดาเสียง น.ส.อารีย์วรรณ เกาสุวรรณ์ เจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ และบุคคลที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐคือ นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ (อดีตเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 27) นายวีรยุทธ แซ่หลก น.ส.สายธาร แซ่หลก นายกิตติศักดิ์ อัญญโชติ และนายประสิทธิ์ อัญญโชติ กรณีร่วมกันทุจริตในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ จำนวน 1,113,034,083 บาท
นายพายุ ,นายป้อมเพชร ,นางศศิพิมพ์ และ น.ส.อารีย์วรรณ มีความผิดวินัยอย่างร้ายแรงและมีมูลความผิดทางอาญา ส่วนบุคคลที่มิใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ นายสุวัฒน์ (อดีตสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร) นายวีรยุทธ ,น.ส.สายธาร ,นายกิตติศักดิ์ และนายประสิทธิ์ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด ส่งอัยการฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไป
และมีบุคคลที่ได้รับเงินภาษีมูลค่าเพิ่มโดยมิชอบ รวม 23 ราย แต่ไม่พบว่าบุคคลดังกล่าวร่วมกระทำความผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ (รวมนายสุวัฒน์) ได้รับเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ซึ่งอาจมีมูลความผิดฐานฟอกเงิน จึงมีมติส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อดำเนินคดีฐานฟอกเงิน รวมทั้งถือได้ว่า บุคคลดังกล่าวเป็นผู้มีเงินได้ จึงให้ส่งกรมสรรพากรเพื่อเรียกเก็บภาษีเงินได้ เงินเพิ่ม และเบี้ยปรับด้วย
ถือว่าเป็นการปิดฉากการไต่สวนในชั้น ป.ป.ช. ยกเว้น นายสุวัฒน์ อดีตข้าราชการกรมสรรพากร ถูก ป.ป.ช.สอบสวนคดีร่ำรวยผิดปกติเพิ่มอีกหนึ่งคดี ซึ่ง ป.ป.ช.พบเงินก้อนใหม่เป็นคนละก้อนกับที่ชี้มูลไป (แล้วก่อนหน้านี้นายสุวัฒน์ถูกชี้มูลคดีร่ำรวยผิดปกติไปครั้งหนึ่งแล้วจำนวน 597,728,229 บาท)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปการบังคับใช้กฎหมาย ในส่วนของ ป.ป.ช.ต่อคดีนี้ ดังนี้
คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูล ข้าราชการ 6 คน กระทำผิดวินัยร้ายแรงและอาญา
1.นายสาธิต รังคสิริ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร
2.นายศุภกิจ ริยะการ (นายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ)อดีตสรรพากรพื้นที่ 22 บางรัก (ระดับ 9)
3.นายพายุ สุขสดเขียว สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ 1 (ระดับ 9)
4.นายป้อมเพชร วิทยารักษ์ นักวิชาการเชี่ยวชาญ สำนักงานสรรพากรภาค 7
5.นางศศิพิมพ์ บรรดาเสียง
6.น.ส.อารีย์วรรณ เกาสุวรรณ์ เจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ
เอกชน 5 ราย ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด
นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ (อดีตเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 27 ) นายวีรยุทธ แซ่หลก น.ส.สายธาร แซ่หลก นายกิตติศักดิ์ อัญญโชติ และนายประสิทธิ์ อัญญโชติ
บุคคลที่ได้รับเงินภาษีมูลค่าเพิ่มโดยมิชอบ รวม 23 ราย
บุคคลจำนวน 23 ราย (รวมนายสุวัฒน์ เนื่องจากพ้นจากเป็นข้าราชการไปแล้ว) ได้รับเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ซึ่งอาจมีมูลความผิดฐานฟอกเงิน จึงมีมติส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อดำเนินคดีฐานฟอกเงิน รวมทั้งถือได้ว่าบุคคลดังกล่าว เป็นผู้มีเงินได้ จึงให้ส่งกรมสรรพากรเพื่อเรียกเก็บภาษีเงินได้ เงินเพิ่ม และเบี้ยปรับด้วย
(รวมเอกชน 28 ราย ซึ่งบางคนซ้ำกัน)
การยึดทรัพย์ ข้าราชการ
คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลข้าราชการที่เกี่ยวข้องในคดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าในข้อหาร่ำรวยผิดปกติ 4 คน
1.นายศุภกิจ ริยะการ (นายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ) อดีตสรรพากรพื้นที่ 22 บางรัก มีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ ในชื่อของตนเอง อดีตคู่สมรส บุตร และบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมมูลค่า 31,754,337.38 บาท (ป.ป.ช.แถลงข่าว 26 ม.ค.2559)
2.นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ อดีตเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 27 ถูกชี้มูลร่ำรวยผิดปกติ 597,728,229 บาท
3.นายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ประมาณ 700 ล้านบาท โดยเป็นทรัพย์สินในชื่อของนายสาธิต และคู่สมรส
4.นางทิพาพัชร์ เมฆะอำนวยชัย นักวิชาการเงินและบัญชี 6 สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่ำรวยผิดปกติ วงเงิน 29,582,615 บาท
รวม 4 คน ประมาณ 1,359,065,181.38 บาท
กล่าวสำหรับ เอกชน 4 ราย ได้แก่ นายวีรยุทธ แซ่หลก ,น.ส.สายธาร แซ่หลก ,นายกิตติศักดิ์ อัญญโชติ ,นายประสิทธิ์ อัญญโชติ ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงภาษี โดยมี นายสุรเชษฐ์ มหารำลึก ร่วมเป็น 5 คน อัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง ทั้งหมดอยู่ระหว่างหลบหนี (นายสุรเชษฐ์ มหารำลึก ไม่มีชื่อถูก ป.ป.ช.ชี้มูล)
การสอบสวนของหน่วยงานต้นสังกัด
เมื่อครั้งเกิดเรื่อง นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีนายประสิทธิ์ สืบชนะ ผู้ตรวจราชการเป็นประธาน สรุปผลมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง 18 ราย เป็นข้าราชการระดับสูง ซี 9 จำนวน 4 ราย และระดับปฏิบัติงานอีก 14 ราย ขณะที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชุดที่อธิบดีกรมสรรพากร (นายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดี) แต่งตั้ง แถลงข่าวมีเจ้าหน้าที่สรรพากรเกี่ยวข้องจำนวน 10 ราย
อ.ก.พ.กระทรวงการคลัง มีมติไล่ออก 4 คน ส่วนที่เหลืออีก 14 คน เป็นข้าราชการต่ำกว่าระดับ 9 หรือซี 9 ต่ำสุด ระดับ 3 กรมสรรพากรได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง คณะกรรมการสอบวินัยและคณะกรรมการอุทธรณ์ ตามลำดับเรียบร้อยแล้ว โดยข้าราชการทั้ง 14 คน มีโทษสูงสุดคือ ไล่ออก น้อยที่สุดคือภาคทัณฑ์ เนื่องจากเป็นข้าราชการระดับ 3 เพิ่งรับราชการได้เพียง 1 เดือน แต่ถูกหัวหน้างานสั่งให้อนุมัติเช็คคืนภาษีแวตในวงเงินเกินกว่าร้อยล้านบาท โดยไม่ทราบข้อเท็จจริงของขบวนการโกงแวตมาก่อนเลย
นี่คือคดีประวัติศาสตร์อื้อฉาวคดีหนึ่งของ 'กรมสรรพากร' เกิดจากคนสรรพากร มิใช่เกิดจากคนอื่น
อ่านประกอบ:
ป.ป.ช.ฟันสรรพากรสมุทรปราการโกงแวตเสียหายเพิ่ม1.1พันล.-เงินเข้า23เอกชนตัวละครใหม่
5 ปีคดีคืนภาษีฉาว 4.3 พันล. ป.ป.ช. ฟัน 3 ขรก.สรรพากรก่อน'สาธิต'โดนรวยผิดปกติ