ชนักติดหลัง‘ยิ่งลักษณ์’ รวยผิดปกติ-สารพัดข้อหาใน ป.ป.ช.-ไม่จบแค่คดีข้าว?
“…ยังเหลือคดีอีกอย่างน้อย 11 คดีในชั้นการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีการกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะคดีสำคัญ 3-4 คดี โดยเฉพาะคดีจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง ผู้ถูกกล่าวหาไม่ใช่มีแค่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รายเดียว แต่โดนทั้งคณะรัฐมนตรี ที่สำคัญ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหาไปหมดแล้ว และผู้ถูกกล่าวหาต่างทยอยมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากันหมดแล้วเช่นกัน…”
“อีกไม่นานคดีจำนำข้าวก็จะสิ้นสุด ได้แต่หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม เพราะทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาคดี สิ่งไหนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะร้องขอต่อศาล แล้วหวังว่าศาลจะเมตตา เพราะหากผู้ที่กำหนดนโยบายเกิดในสิ่งเดียวกับที่เรากำลังเผชิญก็คงไม่กล้าคิดนโยบายให้กับพี่น้องประชาชนอีกแล้ว แต่เมื่อเราได้ดำเนินการทุกอย่างแล้วและรู้ว่าทำเพื่ออะไร ก็หวังว่ามีคนจะมีคนเข้าใจและเห็นใจให้ความเป็นธรรมบ้าง ให้นึกถึงความตั้งใจของเรา อย่ามองปลายทาง อย่าเอาเหตุการณ์ปัจจุบันมาตัดสินอดีต เพราะเหตุการณ์ต่าง ๆ ผ่านไปแล้ว และเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ณ ขณะนั้น”
เป็นคำยืนยันทั้งน้ำตาจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลายสำนักตอนทำบุญวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 50 ปี เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมา (อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์)
ท่ามกลางมวลชนทีแสดงความเห็นหลากหลายทั้ง ‘เห็นใจ’ และ ‘ก่นด่า’ ต่าง ๆ นานา ?
เพราะต้องไม่ลืมว่าคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจท์ยื่นฟ้องตามการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มี ‘นารีขี่ม้าขาว’ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลย กำลังงวดเข้ามาอยู่ทุกขณะ
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ‘ขีดเส้นตาย’ ไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้ายในวันที่ 21 ก.ค. 2560 หรืออีกประมาณ 1 เดือนข้างหน้านี้
แม้ที่ผ่านมาในชั้นศาลฎีกาฯ ‘ยิ่งลักษณ์’ จะแก้ข้อกล่าวหาสารพัด นำอดีตข้าราชการ-นักวิชาการ-บิ๊กนักธุรกิจ-นักการเมือง เข้ามาเป็นพยานเป็นจำนวนมากก็ตาม แต่สิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพยานต่าง ๆ ยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดถ้อยชัดคำได้คือ ตกลง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ละเลยไม่ยอมป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการ ‘ทุจริต’ หรือไม่ (คนละกรณีกับความเสียหายที่เกิดจากการใช้งบประมาณแผ่นดินจัดทำโครงการ)
อย่างไรก็ดีข้อเท็จจริงต่าง ๆ องค์คณะผู้พิพากษาในชั้นศาลฎีกาฯ เป็นผู้พิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด ซึ่งหลายฝ่ายคาดกันว่า อาจมีคำพิพากษาออกมาในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. 2560 นี้ หรืออย่างช้าที่สุดคือไม่เกินปี 2560 แน่นอน !
จบประเด็น ‘ดราม่า’ ไปเปราะหนึ่ง อีกวันต่อมาก็เกิด ‘ดราม่า’ ใหม่อีกเปราะหนึ่งเช่นกัน
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2560 ‘เนติบริกร’ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่า กรมบังคับคดีที่ต้องดำเนินการยึดทรัพย์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามคำวินิจฉัยคณะกรรมการพิจารณาความเสียหายทางแพ่ง กระทรวงการคลัง เรียกจากความเสียหาย 20% ในโครงการรับจำนำข้าว ราว 3.5 หมื่นล้านบาท นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้
โดยอ้างว่า กรมบังคับคดียังไม่รู้จะไปยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากตรงไหน ยังไม่เจอว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีทรัพย์สินอะไร ? (อ้างอิงข่าวนี้จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์)
ทั้งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยในการยื่นบัญชีทรัพย์สินครั้งสุดท้ายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือช่วงพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2558 แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น (รวมของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่ไม่รวมของนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามีนอกสมรส) 612,379,231 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 33,070,803 บาท
แม้จะเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับความเสียหายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องชดใช้คือ 3.5 หมื่นล้านบาท แต่นี่คือทรัพย์สินทั้งหมดที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชี้แจงต่อสาธารณะแล้ว ทำไมกรมบังคับคดีถึงอ้างว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ ?
ล่าสุด แหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. ยืนยันว่า บัญชีทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยต่อสาธารณะในเว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ช. อยู่แล้ว และ ป.ป.ช. ตรวจสอบความมีอยู่จริงของทรัพย์สินไปแล้ว ดังนั้นกรมบังคับคดีจึงไม่จำเป็นต้องทำหนังสือมาขอ ป.ป.ช. อย่างเป็นทางการแต่อย่างใด ?
ไม่ว่าข้อเท็จจริงเหล่านี้ จะไปสิ้นสุดลงที่จุดไหนก็ตาม
แต่ต้องไม่ลืมว่าคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว เป็นเพียง ‘คดีแรก’ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการต่อสู้ทางกฏหมายเท่านั้น ?
เพราะยังเหลือคดีอีกอย่างน้อย 11 คดีในชั้นการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีการกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะคดีสำคัญ 3-4 คดี เช่น คดีออก พ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทเพื่อบริหารจัดการน้ำ คดีโยกย้ายข้าราชการโดยมิชอบ (กรณีนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ) คดีรับผิดชอบการระบายน้ำทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 (ถูกกล่าวหาร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี) และคดีจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง เป็นต้น
โดยเฉพาะคดีจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง ผู้ถูกกล่าวหาไม่ใช่มีแค่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รายเดียว แต่โดนทั้งคณะรัฐมนตรี ที่สำคัญ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหาไปหมดแล้ว และผู้ถูกกล่าวหาต่างทยอยมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากันหมดแล้วเช่นกัน ดังนั้นจึงเหลือแค่การวินิจฉัยขององค์คณะไต่สวน (คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 9 ราย) ว่า จะมีบทสรุปออกมาเช่นไร
นี่ยังไม่นับกรณีร่ำรวยผิดปกติอีกอย่างน้อย 2 กรณี ได้แก่ คดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยกเหตุอันควรสงสัยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วยรัฐมนตรีอีก 4 ราย ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว ได้แก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีต รมว.พาณิชย์ และนายยรรยง พวงราช อดีต รมช.พาณิชย์ อาจมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ สืบเนื่องจากโครงการรับจำนำข้าวได้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างไต่สวนข้อเท็จจริงเชิงลึกอยู่
ส่วนอีกคดีหนึ่งคือ กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ อ้างต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีร่ำรวยผิดปกติของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี (พี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์) โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า ได้มอบเช็คจำนวน 2.5 ล้านบาท ให้กับ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร (บุตรนายทักษิณ) ไปซื้อนาฬิกา จนถูกนายอภิสิทธิ์ นำไปอภิปรายในสภา และร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง
ทั้งที่ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แจ้งว่า มีนาฬิกา 9 เรือน รวมวงเงินประมาณ 1.8 ล้านบาท โดยไม่มีนาฬิกาเรือนใดเลยที่มีราคาสูงถึง 2.5 ล้านบาท ดังกล่าว
ขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ชี้แจงต่อ ป.ป.ช. แล้ว ระบุว่า ได้ขายนาฬิกาเรือนละ 2.5 ล้านบาทไปแล้ว ก่อนหน้าที่เข้าสู่ถนนการเมือง และได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2554 ?
นี่คือชนักติดหลังทั้งหมดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ว่าคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวจะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม
แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังคงต้องกัดฟันต่อสู้สารพัดข้อกล่าวหาต่าง ๆ ที่ถาโถมมาตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนถูกยึดอำนาจโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อยู่ดี
ที่น่าสนใจคือ ในวันคล้ายวันเกิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีจะไม่หลบหนีออกนอกประเทศหลังการพิจารณาคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวว่า
“วันนี้ยืนอยู่ตรงนี้เพื่อพิสูจน์ความจริง และหวังว่าสิ่งที่พิสูจน์ความจริงนี้จะทำให้ทุกอย่างรอดพ้นจากคดี เราเชื่อในความบริสุทธิ์ของเราในการต่อสู้”
น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะยืนยันตามคำพูดข้างต้นได้หรือไม่ ต้องจับตาดูภายหลังวันไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้ายในเดือน ก.ค.นี้!
อ่านประกอบ :
สถานะ 11 คดี‘ยิ่งลักษณ์’ในชั้น ป.ป.ช. วิบากกรรมหลังสู้คดีข้าว-ชดใช้ 3.5 หมื่นล.
ป.ป.ช.ลุยสอบ“ยิ่งลักษณ์”ซื้อนาฬิกาเรือนละ 2.5 ล.ไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สิน
"ยิ่งลักษณ์"อ้างขายนาฬิกาก่อนรับตำแหน่งนายกฯ เหตุไม่แจ้งทรัพย์สิน
หมายเหตุ : ภาพประกอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์