สนช. "เอกฉันท์" ไฟเขียวกม.ทำยุทธศาสตร์ -กม.ปฏิรูป
สนช. ไฟเขียวกม.ทำยุทธศาสตร์ -กม.ปฏิรูป ดันปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน พร้อม นับถอยหลังสปท.พ้นตำแหน่ง
22 มิ.ย. 2560 - ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ทำหน้าที่ประธาน ได้มีมติเอกฉันท์ 218 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ผ่านร่างพ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์แห่งชาติ พ.ศ.... ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว
โดยร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวมีสาระสำคัญคือ การกำหนดให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่นายกฯมอบหมาย ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประธานกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานสภาเกษตรแห่งชาติ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งอีกไม่เกิน 17 คน
ทั้งนี้ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติมีหน้าที่และอำนาจในการจัดทำร่างยุทธศาสตร์ขาติเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี เสนอความเห็นต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ กำกับดูแลการปฏิรูปประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ สำหรับกระบวนการจัดทำยุทธศาสตร์ชาตินั้นมาตรา 16 กำหนดให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติขึ้นคณะหนึ่งหรือหลายคณะเพื่อพิจารณาจัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาติในด้านต่างๆ
โดยมาตรา 28 บัญญัติให้คณะกรรมจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ จัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาติเบื้องต้นให้แล้วเสร็จภายใน 120 วันนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งและส่งให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ จากนั้นคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติพิจารณาและเสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับร่างยุทธศาสตร์ชาติจากคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ต่อมาคณะรัฐมนตรีต้องส่งให้ร่างยุทธศาสตร์ชาติให้สนช.ภายใน 30 วัน โดยสนช.ต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับร่างยุทธศาสตร์ชาติจากคณะรัฐมนตรี และเมื่อสนช.ให้ความเห็นชอบแล้ว ให้นายกฯนำร่างยุทธศาสตร์ชาติขึ้นทูลเกล้าฯภายใน 10 วันนับแต่วันที่ได้รับร่างยุทธศาสตร์ชาติจากสนช.
นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติ 216 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง ผ่านร่างพ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ....ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือคือ การกำหนดให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศแต่ละด้าน จำนวน 11 ด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านการเมือง 2.ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน 3.ด้านกฎหมาย 4.ด้านกระบวนการยุติธรรม 5.ด้านการศึกษา 6.ด้านเศรษฐกิจ 7.ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 8.ด้านสาธารณสุข 9.ด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ 10.ด้านสังคม และ 11.ด้านอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยคณะกรรมการปฏิรูปประเทศแต่ละด้านจะมีจำนวนไม่เกิน 13 คน มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือมีประสบการณ์ในด้านที่จะดำเนินการปฏิรูป โดยคำนึงถึงความหลากหลายของผู้มีประสบการณ์ในภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคม
การจัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศ มาตรา 11 บัญญัติให้คณะกรรมการปฏิรูปแต่ละด้านต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 90 วันแล้วเสนอให้ที่ประชุมร่วมกันของคณะกรรมการปฏิรูปทุกคณะพิจารณา
นอกจากนี้ ต้องเสนอให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเพื่อพิจารณาว่าร่างแผนการปฏิรูปประเทศสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติหรือไม่ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับร่างแผนการปฏิรูปประเทศก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป
ทั้งนี้ตามขั้นตอนนายกรัฐมนตรีจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ และเมื่อร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะมีผลให้สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ต้องพ้นจากตำแหน่งตามที่รัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 กำหนด