‘ชัย โสภณพนิช’ไขก๊อกเซ่นปม ก.ล.ต.ฟันอินไซเดอร์ขายหุ้นกรุงเทพประกันชีวิตฯ
‘ชัย โสภณพนิช’ ไขก๊อกเซ่นปม ก.ล.ต. ฟันอินไซเดอร์ขายหุ้น กรุงเทพประกันชีวิต ถูกปรับพร้อมอดีตผู้บริหารฯรวม 3.7 ล้าน ให้ส่งคืนผลประโยชน์ด้วย 1.7 ล้าน ยันไม่ได้เป็นคนสั่งการให้ขายหุ้น แต่ ก.ล.ต. เห็นว่าไม่มีน้ำหลักเพียงพอ
จากกรณีเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2560 คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับอดีตผู้บริหารของบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (BLA) และผู้ถือหุ้นใหญ่ รวม 5 ราย ได้แก่ (1) นายฉัตรชัย โชตนาการ (2) นายเชิดชู โสภณพนิช (3) บริษัท วัฒนโสภณพนิช จำกัด (4) บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ (5) นายชัย โสภณพนิช กรณีอาศัยข้อมูลภายในขายหุ้น BLA โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 3,765,000 บาท และส่งคืนผลประโยชน์รวม 1,750,150 บาทนั้น
(อ่านประกอบ : ก.ล.ต.ปรับ‘เชิดชู-ชัย โสภณพนิช’-อดีตบิ๊กกรุงเทพประกันชีวิต 3.7 ล.อินไซเดอร์ขายหุ้น)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง ก.ล.ต. มีมติดังกล่าว บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ทำเอกสารเผยแพร่ชี้แจงกรณีที่นายชัย โสภณพนิช ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. 2560 เนื่องจากในช่วงเดือน พ.ย. 2557 สำนักการลงทุนของบริษัทกรุงเทพประกันภัยได้มีการขายหุ้นของบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA จำนวน 200,000 หุ้น จากจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดจำนวน 78,544,760 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 0.25ในราคาหุ้นละ 58.25 บาท ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานตามปกติ
ต่อมา ก.ล.ต. ได้มีข้อสงสัยว่า ตนในฐานะกรรมการของ BLA ในขณะนั้นได้สั่งการให้มีการขายหุ้นของ BLA โดยอาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นของ BLA ซึ่งยังมิได้เปิดเผยต่อประชาชน ทำให้บริษัท กรุงเทพประกันภัย ได้ผลประโยชน์จำนวน 1,100,000 บาท หลังจากที่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า มิได้เป็นผู้สั่งการให้มีการขายหุ้นดังกล่าวแต่เป็นการดำเนินงานตามปกติของสำนักการลงทุน ก.ล.ต. ได้แจ้งว่า คำชี้แจงของตนไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะหักล้างข้อสันนิษฐานของ ก.ล.ต.ได้
ดังนั้น เพื่อแสดงความรับผิดชอบและยอมรับต่อกฎเกณฑ์ของ ก.ล.ต. อีกทั้งเพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ดีแก่สังคมในการใช้ความระมัดระวังการทำหน้าที่ต่าง ๆ ไม่เพียงเฉพาะตนเองเท่านั้น แต่รวมถึงการกำกับองค์กรที่อยู่ในความรับผิดชอบด้วย ตนจึงขอลาออกจากการเป็นกรรมการของบริษัท กรุงเทพประกันภัยฯ แต่อย่างไรก็ตาม รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอยืนยันเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสภายใต้หลักธรรมาภิบาลและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและเพื่อมิให้เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวนี้ขึ้นอีกในอนาคต บริษัทฯจึงได้ออกระเบียบและข้อพึงปฏิบัติเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯกรรมการ และผู้บริหาร เพื่อกำหนดเงื่อนไขและกรอบเวลาในการซื้อขายหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่กรรมการและผู้บริหารมีส่วนเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ นายชัย ยังคงทำหน้าที่ในตำแหน่งประธานกรรมการมูลนิธิกรุงเทพประกันภัย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนช่วยเหลือกิจการงานสาธารณประโยชน์แก่สังคมโดยรวมต่อไป