สปท.หนุน"สังศิต"สู้คดีสตช.หลังโดนฟ้องหมิ่น
สปท.หนุน “สังศิต”สู้คดีกับ สตช.หลังโดนฟ้องหมิ่น ด้าน“คำนูณ”เชื่อไม่กระทบต่อการใช้สิทธิ เสรีภาพ นำเสนองานวิชาการ
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (วิป สปท.) แถลงภายหลังการประชุมวิปสปท. เกี่ยวกับกรณีที่สปท. ขอหารือเพื่อกำหนดแนวทางช่วยเหลือนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกสปท. หลังถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทจากการโฆษณาจากการอภิปรายวิชาการ ในหัวข้อ “ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร” เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่จัดโดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ว่า มติเบื้องต้นเห็นว่าการอภิปรายแสดงความคิดเห็นของนายสังศิต มีเจตนาที่จะนำเสนอข้อมูลเชิงวิชาการเพื่อให้เกิดการปฎิรูปกิจการตำรวจ การป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นจุดยืนที่นายสังศิตแสดงมาอย่างต่อเนื่อง แต่มีมุมมองที่แตกต่างออกไปและเกิดเป็นการกล่าวโทษทางอาญา ซึ่งในประเด็นนี้ขอให้นายสังศิตใช้สิทธิต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งสปท. ไม่มีอำนาจที่จะช่วยเหลือ หรือใช้สิทธิอื่นใดต่อกระบวนการพิจารณาคดี
“สิ่งที่สปท. จะสนับสนุนนายสังศิต ได้คือ ข้อมูลที่อยู่ในอำนาจของสปท. และส่งกำลังใจ ส่วนตัวผมมองว่ากรณีการฟ้องหมิ่นประมาท สมาชิกสปท. ซึ่งแสดงความเห็นทางวิชาการ ของหน่วยงานนั้น เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการใช้สิทธิ และเสรีภาพในการนำเสนอความเห็นทางวิชาการของบุคคลใด”นายคำนูณ กล่าว
เมื่อถามถึง การแก้ปัญหาของกระบวนการยุติธรรม หรือ ตำรวจ ซึ่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 กำหนดให้รัฐบาลต้องตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อพิจารณา นายคำนูณ กล่าวว่า เชื่อว่ารัฐบาลมีระยะเวลาที่จะดำเนินการ ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนดให้ต้องทำภายใน 1 ปี แต่หากพ้นเวลาดังกล่าวการแต่งตั้งนายตำรวจต้องเป็นไปตามระบบอาวุโส ดังนั้นในช่วงเวลาที่ยังรอการแต่งตั้ง เชื่อว่ารัฐบาลจะรับฟังความเห็นของประชาชนอย่างรอบด้าน ส่วนข้อเสนอของสปท. ต่อการปฏิรูปกิจการตำรวจนั้น ขณะนี้นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท. คนที่1 ได้ติดตามรายละเอียดการดำเนินงาน