หนุ่มมุสลิม ฮีโร่ช่วยชีวิตเหตุเพลิงไหม้แฟลตในลอนดอน
"...เหตุการณ์ครั้งนี้ชาวมุสลิมเปรียบได้ดั่งหน่วยกู้ภัย(lifeline) ที่ช่วยอพยพคนออกมา..." พยานเหตุการณ์เพลิงไหม้อาคารที่พักในลอนดอนกล่าว.
เหตุการณ์ไฟไหม้อาคารเกลนเฟล ทาวเวอร์ ( Grenfell Tower ) ในเขตแลงเคสเตอร์ เวสต์ เอสเตท ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อช่วงดึกของวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่อาศัยขนาด 24 ชั้น จำนวน120 ยูนิต เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 12 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกราว 68 คน
ท่ามกลางหมอกควันของความโศกเศร้าเสียใจของผู้ที่พักอาศัยในอาคารหลังนี้ กลับมีเรื่องน่ายกย่อง ชื่นชม โดยเว็บไซต์ ฮัฟฟิ่งตัน โพสต์ อังกฤษ เผยแพร่คำบอกเล่าของหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
เธอเล่าถึงนาทีชีวิตว่า มีเด็กหนุ่มมุสลิมคนหนึ่งวิ่งมาเคาะประตูห้องทั่วทั้งชั้น เพื่อเรียกให้หนีออกจากอาคารที่กำลังไฟไหม้ ซึ่งเธอกล่าวขอบคุณที่ช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้น ตรงกับช่วงถือศีลอดของชาวมุสลิม ทำให้มุสลิมหลายคนที่อาศัยในอาคารเดียวกันยังไม่เข้านอน หรือบางคนเพิ่งตื่นจากนอน เพื่อมาเตรียมอาหาร เพราะต้องรอทานอาหารช่วงดึกในการเตรียมถือศีลอดในวันรุ่งขึ้น
เด็กหนุ่มคนนั้นคือ คาลิด ซุลมาน อะห์เหม็ด อายุ 20 ซึ่งพักอยู่บนชั้น 8 กับป้าของเขา
คาลิด เล่าว่า ปกติเเล้วเขาไม่ได้นอนดึกแบบนี้แต่ช่วงนี้เป็นช่วงเดือนรอมฏอนที่ต้องศีลอด เลยทำให้เขาเลือกที่จะนอนดึกเพื่อรอทานข้าวซูโฮร หรือ มื้อดึกก่อนแสงอรุณ ซึ่งเป็นวัตปฏิบัติที่ชาวมุสลิมจะทำเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนถือศีลอดในตอนเช้า
เขาเล่าว่า ขณะที่เกิดเพลิงไหม้ ไม่มีเสียงสัญญาณเตือนใดๆ จากตัวตึก ขณะนั้นเขานั่งเล่นเกมส์เพื่อรอทานข้าว และเริ่มได้กลิ่นไหม้บางอย่าง เมื่อลุกขึ้นไปดูจึงพบว่าไฟได้ไหม้ถึงชั้น 7 แล้ว
คาลิด ยังเล่าถึงนาทีที่รู้ว่ามีไฟไหม้อยู่ข้างล่างต่อว่า เขาวิ่งเข้าไปปลุกคุณป้าที่นอนอยู่ หยิบเสื้อผ้าและเริ่มวิ่งเคาะเรียกเพื่อนบ้านทั่วทั้งชั้น ตอนนั้นมีเพียงสองห้องที่ไม่ได้เปิดประตูมา ซึ่งมารู้ภายหลังว่ามีเพียงครอบครัวเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้ลงมาตอนเกิดเหตุ
“ตอนนั้นทางเดินทั้งตึกมืดสนิทและเต็มไปด้วยกลุ่มควัน ทีแรกก็ไม่คิดว่าจะเป็นเหตุการณ์ใหญ่ขนาดนี้ แต่เราก็หนีก่อนเพื่อความปลอดภัย” คาลิดเล่า
ภายหลังออกมาจากตัวตึกและได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเเล้ว หลังจากนั้น 20 นาที คาลิด เล่าว่า ไฟก็ไหม้ถึงชั้น 8
และนั่นคือภาพสุดท้ายก่อนห้องที่เขาอยู่จะหายไปต่อหน้าต่อตาท่ามกลางกองเพลิง
คาลิดบอกว่า มีมุสลิมอาศัยอยู่ในอาคารหลายครอบครัว ซึ่งแน่นอนหลายครอบครัวยังไม่หลับเพราะอยู่ในช่วงรอมฏอน นี่เป็นปัจจัยหนึ่งที่เขามองว่าทำให้สามารถช่วยชีวิตคนในอาคารออกมาได้จำนวนมาก
ขณะที่พยานในเหตุการณ์ครั้งนี้ก็พูดในทางเดียวกันว่า ชาวมุสลิมเปรียบได้ดั่งหน่วยกู้ภัย(lifeline) ที่ช่วยอพยพคนออกมา
มีรายงานด้วยว่า มัสยิดในย่านนี้พร้อมทั้งอาสามุสลิมได้เปิดพื้นที่ช่วยเหลือ ให้ที่พักพิงกับเหยื่อเพลิงไหม้รวมไปถึง โบสถ์คริสต์ วัดซิกซ์เองก็เปิดพื้นที่ให้ความช่วยเหลือกันเต็มที่
เรียกว่า ความมีน้ำใจช่วยเหลือกันสามารถช่วยลดความตึงเครียดต่อสถานการณ์หวาดกลัวอิสลาม(Islamic Phobia) ที่กำลังเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมอังกฤษช่วงหลังลงได้บ้าง
(ประกาศจากศูนย์วัฒนธรรมชุมชนอันนูร ประกาศให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย)
(กลุ่มอาสาสมัครชาวมุสลิม กำลังช่วยเหลือเรื่องอาหารและของจำเป็น)
(ตัวแทนจากวัดซิกข์ ประกาศรับบริจาคเสื้อผ้า เครื่องนอน ของเล่นรวมถึงสิ่งของจำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ)
(โบสถ์เซ็นต์คลีเมนต์และโบสถ์เซ็นต์เจมส์ ให้ที่พักพิงชั่วคราว)
ที่มาข่าวและภาพประกอบจาก http://www.huffingtonpost.co.uk/entry/london-fire-muslims-breaking-ramadan-fast-may-have-saved-lives-in-grenfell-tower_uk_59410ad3e4b0d3185486088c?
http://www.bbc.com/thai/international-40269800