ขสมก.จ่อล้มประมูลรถเมล์เอ็นจีวี
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2560 นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ( ขสมก.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาเรื่องราคากลางใหม่ เพราะหากใช้ราคากลางที่บริษัทเบสท์รินกรุ๊ปชนะการประมูลที่ 3,387 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ท้วงติงว่าหากเป็นโครงการเดียวกันที่เคยประมูลมาแล้วให้อิงตามราคาที่ต่ำกว่า ก็จำเป็นต้องล้มการประมูลในครั้งนี้ และเปิดประมูลใหม่ เพราะเป็นราคาที่ประมูลที่ไม่ประสบความสำเร็จ และ ยังไม่รวมค่าภาษีนำเข้าอีกร้อยละ 40
แต่หากให้ใช้ราคากลางเดิมที่ประกาศก่อนที่บริษัทเบสท์รินกรุ๊ปจะชนะประมูลที่ 4,021 ล้านบาท จะสามารถดำเนินการได้ทันที ซึ่งปัญหานี้ ขสมก.จะประชุมกับคณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมายเพื่อพิจารณาร่างทีโออาร์ในประเด็นการกำหนดราคากลางในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ และหากราคาประมูลในครั้งนี้มีต้นทุนที่สูงกว่าที่คาดไว้ ขสมก.จะฟ้องเรียกค่าเสียหายกับบริษัทเบสท์รินกรุ๊ปในต้นทุนส่วนเกินที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ขสมก. จึงต้องเลื่อนวันเปิดซองประกวดราคาจากวันที่ 12 มิ.ย.เป็นวันที่ 22 มิ.ย.เพื่อให้เวลาภาคเอกชนในการบริหารจัดการเรื่องการเงิน และ ช่วงวันที่ 6-8 ก.ค.นี้ จะสรุปผลผู้ชนะประมูลโครงการ ส่วนกระแสข่าวที่สถาบันเงินไม่ปล่อยเงินกู้ให้เพราะเห็นว่าโครงการไม่มีความน่าเชื่อถือนั้น ยืนยันว่าตัวโครงการไม่มีปัญหา แต่เป็นเพราะภาคเอกชนที่ชนะการประมูล หรือ ผู้เข้าร่วมบางรายขาดความโปร่งใส
ส่วนปัญหาระหว่าง ขสมก. กับ บริษัทเบสท์รินกรุ๊ปจากการประมูลครั้งที่ผ่านมานั้น ขสมก.อยู่ระหว่างติดตามการฟ้องร้องของบริษัทเบสท์รินว่า มีทั้งหมดกี่เรื่อง เพื่อเตรียมชี้แจงต่อศาล แต่ในเบื้องต้นได้ยึดเงินค้ำประกันจากเบสท์รินมาแล้ว 338 ล้านบาท และ ค่าปรับส่วนที่เหลือจะฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป
สำหรับกรณีการร้องเรียนของกลุ่มบีทีเอสในโครง การประมูลผู้วางระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ หรือ อี-ทิกเก็ต ไม่โปร่งใสนั้น ได้รับทราบในเบื้องต้นว่ามาจากการที่คณะกรรมการพิจารณาการประกวดราคาได้ปรับให้กลุ่มบีทีเอสไม่ผ่านคุณสมบัติ เนื่องจากเอกสารส่งไม่ครบถ้วน โดยจะเปิดแถลงชี้แจงเป็นทางการในช่วงบ่ายวันนี้ที่กระทรวงคมนาคม