กสร. เดินหน้าส่งเสริมนายจ้างยึดแนวปฏิบัติดูแลลูกจ้างติดเชื้อเอชไอวี
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ลงพื้นที่ส่งเสริมให้นายจ้างปฏิบัติตามแนวทางป้องกันและบริหารจัดการด้านเอดส์และวัณโรคในสถานประกอบกิจการ ไม่ตีตรา ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่กีดกันการจ้างงานและไม่เลิกจ้างแรงงานที่ติดเชื้อเอดส์ มุ่งคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ลดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตแรงงาน
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า กสร. ได้กำชับให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัดและ 10 พื้นที่กรุงเทพมหานคร เข้าส่งเสริม ให้นายจ้างปฏิบัติตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง แนวทางการป้องกันและบริหารจัดการด้านเอดส์และวัณโรคในสถานประกอบกิจการ เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้ป่วยเอดส์และติดเชื้อเอชไอวีมิให้ถูกตีตราและไม่ถูกเลือกปฏิบัติในการจ้างงานอย่างไม่เป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยได้ส่งเสริมให้นายจ้าง ผู้บริหาร ลูกจ้างมีความรู้เกี่ยวกับเอดส์ มีการอบรม ปรึกษาแนะนำ และให้ข้อมูลข่าวสารเรื่องเอดส์ที่ถูกต้องเพื่อลดโอกาสเสี่ยงและพฤติกรรมเสี่ยงต่อการรับเชื้อเอชไอวี รับสมัครงานและการจ้างงานต้องไม่มีการตรวจหรือแสดงหลักฐานว่าไม่ติดเชื้อเอชไอวี ส่งเสริมสิทธิในการรักษาความลับส่วนบุคคลและมีผู้รับผิดชอบงานด้านเอดส์ในสถานประกอบกิจการอย่างเป็นรูปธรรม รวมไปถึงให้ความคุ้มครองผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ ให้สามารถทำงานและมีความก้าวหน้า ให้ความเสมอภาคในการพิจารณาสิทธิประโยชน์และสวัสดิการแก่ลูกจ้างทุกคน ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ใช้เป็นเหตุในการเลิกจ้างเพียงเพราะเป็นผู้ป่วย ตลอดจนให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ที่ไม่สามารถทำงานและผู้ได้รับผลกระทบให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้ตามความเหมาะสมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของลูกจ้าง
อธิบดีกสร. กล่าวต่อไปว่า ลูกจ้างที่ติดเชื้อเอชไอวี หรือผู้ป่วยเอดส์ สามารถอยู่ร่วมกันผู้อื่นในสถานประกอบกิจการได้ แต่นายจ้างจะต้องส่งเสริมและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับลูกจ้างทุกคนเพื่อให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข และเพื่อให้ลูกจ้างที่เป็นผู้ป่วยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีได้รายได้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว ตลอดจนมีความมั่นคงในการทำงานบนพื้นฐานแห่งการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันในสังคม และสถานประกอบกิจการ