เอ็นจีโอ ประณามนักการเมือง-ขรก.ปลุกผีเขื่อน เรียกร้อง รบ.เลิก“แก่งเสือเต้น”
หลังจากเสธฯหนั่น ประกาศเดินหน้าเขื่อนแก่งเสือเต้น ผวจ.แพร่ ล่ารายชื่อหนุนตาม ชาวบ้านสะเอียบออกมาคัดค้าน-ประณาม ล่าสุดเครือข่ายเอ็นจีโอ-นักวิชาการนิเวศน์ เรียกร้อง รบ.ยกเลิกโครงการ ใช้ผลงานวิจัยไม่คุ้มทุนไม่ควรสร้างเป็นฐาน และหาทางออกให้กลุ่มหนุนเขื่อน เยียวยาตามปัญหาจริง
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนอีสาน ร่วมกับ โครงการทามมูน, สถาบันชุมชนอีสาน, สมาคมป่าชุมชนอีสาน, กลุ่มนิเวศวัฒนธรรมศึกษา, เครือข่ายนักวิชาการนิเวศวัฒนธรรมศึกษา, ศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนและสันติภาพภาคอีสาน, กลุ่มศึกษาปัญหาดินเค็มและการจัดการทรัพยากรแร่อีสาน และคณะทำงานติดตามปัญหาทรัพยากรเหมืองแร่ประเทศไทย ออกแถลงการณ์ร่วมคัดค้านกระแสการผลักดันโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น อ.สอง จ.แพร่
จากที่ก่อนหน้านี้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ประกาศผลักดันโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นกลับมาใหม่ ซึ่งชาวบ้าน ต.สะเอียบ ที่เป็นพื้นที่ที่จะมีการสร้างเขื่อนได้รวมตัวคัดค้าน โดยให้เหตุผลว่าเขื่อนจะทำลายป่าสักทองผืนสุดท้ายของประเทศ ระบบนิเวศน์อุทยานแห่งชาติแม่ยม และวิถีชีวิตคนในพื้นที่ พร้อมยกงานวิจัยหลายชิ้นว่าไม่ควรสร้าง เช่น อยู่บนรอยเลื่อนเปลือกโลก ไม่คุ้มทุนทางเศรษฐกิจ เยียวยาน้ำท่วมเพียง 8% และเสนอแผนจัดการทั้งระบบแก้ภัยแล้งน้ำท่วม สนับสนุนนโยบายสร้างล้านฝายทดน้ำของจังหวัด วันนี้เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชน-นักวิชาการนิเวศน์ ออกแถลงการณ์ “หยุดสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น หยุดสร้างความร้าวฉานให้กับชุมชน รัฐบาลอภิสิทธ์ต้องลงมาแก้ไขปัญหา ก่อนเหตุการณ์จะบานปลาย”
แถลงการณ์ระบุว่าวันที่ 15 ก.ค.53 นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้ล่ารายชื่อนักเรียนและจัดเวทีเยาวชนสนับสนุนเขื่อน ต่อมา 16 ก.ค. กลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้านนักเรียนนักศึกษากว่า 3,000 คน ชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัด นายกสมาคมเครือข่ายสถาบันเกษตรกร พร้อมแกนนำชาวบ้านลุ่มน้ำยม จ.พิจิตร กว่า 50 คน ยื่นหนังสือผู้ว่าราชการทวงความคืบหน้าเขื่อนแก่งเสือเต้น ขณะที่ชาวบ้าน ต.สะเอียบ ราว 1,000 คน ออกมาคัดค้านการกระทำดังกล่าว โดยประณาม พล.ต.สนั่น ว่าอยู่เบื้องหลังการเกณฑ์ประชาชนสนับสนุนเขื่อน ด้าน พล.ต.สนั่น กล่าวถึงการคัดค้านเพราะไม่เข้าใจความจริงว่าเขื่อนไม่ได้ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ซึ่งได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ชี้แจงให้ประชาชน และจะเดินหน้าสร้างเขื่อนต่อไป ไม่เช่นนั้นประชาชนส่วนใหญ่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์จะเดือดร้อน
ผลของกระแสปลุกปั่นยั่วยุได้ทำให้เกิดความขัดแย้งในพื้นที่รุนแรงบานปลายออกเรื่อยๆ โดยมีนักการเมืองที่มีผลประโยชน์จากการสร้างเขื่อนและต้องการฐานคะแนนเสียงอยู่เบื้องหลังให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ใช้อำนาจโดยมิชอบสั่งการข้าราชการชั้นผู้น้อยออกมาสนับสนุนการสร้างเขื่อน สร้างกระแสให้ข้อมูลเท็จทำให้เกิดความขัดแย้งในชุมชน
แถลงการณ์ร่วมยังระบุว่า เพื่อระงับข้อขัดแย้งที่จะบานปลายและไม่ให้กรณีเขื่อนแก่งเสือเต้นเป็นประเด็นให้นักการเมืองนำมาสร้างความร้าวฉานให้ประชาชนในพื้นที่อีก จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลงมาแก้ไขปัญหาเขื่อนแก่งเสือเต้น โดยให้ยกเลิกการสร้างเขื่อนนี้โดยอิงกับผลการศึกษาที่สถาบันต่างๆได้ทำแล้ว อีกทั้งต้องหาทางออกให้กลุ่มที่มาเรียกร้องสร้างเขื่อน ว่าแท้จริงกลุ่มนี้มีปัญหาอะไรและเยียวยาช่วยเหลือตามปัญหาที่เกิดขึ้นจริง .
ภาพประกอบจาก ประสิทธิพร กาฬอ่อนศรี