เปิดภารกิจสำนักงานทรัพย์สินฯ กับความสำเร็จพัฒนาพื้นที่ ปี 2559
เปิดภารกิจหลักสำนักงานทรัพย์สินฯ ปี 2559 มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตคนกรุงสู่ความสมดุล ชูโครงการพัฒนาพื้นที่ “หลังสวนวิลเลจ-สปริง ทาวเวอร์” ตอบโจทย์ความเป็นอยู่ รักษาเอกลักษณ์อาคารดั้งเดิม ริมถนนพระอาทิตย์-กรุงเกษมตะวันตก ภายใต้ความร่วมมือของทุกฝ่าย
ปี 2559 สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีหน้าที่ดูแล รักษา และบริหารจัดการผลประโยชน์จากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พ.ศ.2491 ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตไว้เป็นรายปี ในการบริหารจัดการด้านต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อาทิ โครงการหลังสวนวิลเลจ โครงการสปริง ทาวเวอร์ การพัฒนาเชิงกายภาพดูแลผู้เช่ารายย่อย บริเวณถนนกรุงเกษมฝั่งตะวันตก ตลอดจนการพัฒนาในเชิงอนุรักษ์ อาคารริมถนนพระอาทิตย์ และการดูแลคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้เช่า ซึ่งปรากฎอยู่ในสัดส่วนของรายจ่าย แบ่งเป็น
ค่าใช้จ่ายบุคลากร ร้อยละ 14.2, ค่าใช้จ่ายเพื่อการบริหารจัดการ ร้อยละ 27.6, โครงการพัฒนาด้านต่าง ๆ ร้อยละ 14.0 และค่าใช้จ่ายเพื่อกิจกรรมด้านสังคม ร้อยละ 44.2 โดยจะเห็นได้ว่า งบประมาณรายได้ที่ได้รับพระราชทานฯ นั้น ส่วนใหญ่มุ่งเน้นเพื่อกิจกรรมด้านสังคมเป็นหลัก
ทั้งนี้ หากจะกล่าวถึงการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์นั้น ภารกิจหลักของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มิได้ดูแลเฉพาะการเก็บค่าเช่าอาคารสถานที่ แต่จะต้องดูแลอาคารให้สวยงาม ปลอดภัย มั่นคง ยิ่งเป็นอาคารที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ด้วยแล้ว จำเป็นต้องร่วมมือกับกรมศิลปากร ในการดูแลรักษา
ปัจจุบันมีผู้เช่ารายย่อย เช่าบนที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มากที่สุด ร้อยละ 58 รองลงมา คือ หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 33 ผู้เช่าเชิงพาณิชย์ ร้อยละ 7 และ มูลนิธิ ร้อยละ 2 แต่ต้องยอมรับว่า ที่ดินจำนวนไม่น้อยมีการตั้งชุมชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น นั่นจึงทำให้มีการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้สมบูรณ์แบบเพื่อการดำรงชีวิตของประชาชนที่ดี
‘หลังสวนวิลเลจ’ คือ หนึ่งในโครงการพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุมพื้นที่ 56 ไร่ ที่มุ่งเน้นการตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองรูปแบบใหม่ ภายใต้หลักคิด สร้างสังคมแห่งความสุข เป็นโครงการที่พักอาศัยแบบผสมผสาน ประกอบด้วย ที่พักอาศัยให้เช่าระยะยาว 30 ปี โรงแรมเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ พื้นที่พาณิชย์ และศูนย์สุขภาพ
โดยอาคารที่พักอาศัย ‘สินธร เรสซิเด้นซ์’ ใกล้เสร็จสมบูรณ์ปี 2560 ส่วนอีกสองอาคารกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งอาคาร ‘ต้นสน พาร์ควิว’ กำลังจะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 และอาคาร ‘สินธร มิดทาวน์’ กำลังจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2562
อาคารสินธร เรสซิเด้นท์
ส่วนพื้นที่ว่างสี่แยกราชเทวี เนื้อที่เกือบ 3 ไร่ มองเห็นจากสถานีรถไฟฟ้าราชเทวีนั้น เป็นที่ตั้งของโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ AIRA ONE ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม นั่นคือการก่อสร้าง ‘สปริง ทาวเวอร์’ อาคารสำนักงานเกรด A ระดับพรีเมียม โดดเด่นผลิตพลังงานไฟฟ้าใช้เองได้ ที่สำคัญ อาคารยังผ่านเกณฑ์มาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น รูปแบบอาคารที่ทันสมัย ยังได้รับความร่วมมือในการออกแบบจาก อาจารย์นนทิวรรธน์ จันทนะผลิน ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (วิจิตรศิลป์) ออกแบบปูนปั้นด้านนอกอาคาร และอาจารย์ไพรวัลย์ ดาเกลี้ยง จิตรกรไทยมือศิลปะแนวเหมือนจริง ออกแบบภาพวาดตกแต่งภายใน
เมื่อครบสัญญาเช่า 30 ปีแล้ว บริษัท แอสไพเรชั่น วัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัทไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ผู้ได้รับเลือกให้พัฒนาที่ดินผืนดังกล่าว จะส่งมอบอาคารให้แก่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
สปริง ทาวเวอร์
อาคารริมถนนกรุงเกษมฝั่งตะวันตก เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่ในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เป็นกลุ่มอาคาร 57 ห้อง พื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน 77 ตารางวา ซึ่งเป็นอาคารดั้งเดิมที่มีความสำคัญทางสถาปัตยกรรม การซ่อมแซมจึงต้องพิถีพิถัน เพื่อให้คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ และมีบางส่วนที่ต้องรื้อถอนออก เนื่องจากมีสภาพทรุดโทรมมาก ก่อนจะก่อสร้างใหม่เป็นอาคารพักอาศัย 7 ชั้น 66 ห้อง คาดว่าจะดำเนินการทั้งหมดได้กลางปี 2560
ทั้งนี้ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มิได้ละเลยการดูแลผู้เช่าที่ต้องส่งคืนพื้นที่ โดยจะได้รับค่าชดเชย 1 ใน 12 ของมูลค่าที่ดิน ตามขนาดพื้นที่เช่า รวมถึงเงินสนับสนุนค่าขนย้าย สัญญาละ 2 หมื่นบาท คูปองส่วนลดในการกลับเข้าพื้นที่ภายหลังพัฒนาเสร็จ ซึ่งผู้เช่าเดิมจะได้รับสิทธิ์ประมูลก่อนเป็นลำดับแรก
ภาพจำลองโครงการพัฒนาริมถนนกรุงเกษมฝั่งตะวันตก
เช่นเดียวกับการปรับปรุงอาคารริมถนนพระอาทิตย์ 34 คูหา ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 พื้นที่รวม 3 งาน 40 ตารางวา ให้สวยงาม คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ดั้งเดิมให้มากที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทแวดล้อมโดยล้อม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสถานที่สำคัญ เช่น ป้อมพระสุเมรุ สวนสันติชัยปราการ พิพิธภัณฑ์พิพิธบางลำพู เป็นต้น
โดยมีการทาสีใหม่ เปลี่ยนกันสาดรางน้ำ ซ่อมแซมผิวผนัง ทาสีภายนอกอาคาร เปลี่ยนหลังคา ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมดเป็นความร่วมมือระหว่างกัน สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายปรับปรุงอาคารร้อยละ 75 และผู้เช่า ร้อยละ 25
อาคารริมถนนพระอาทิตย์หลังซ่อมเเซม
ทั้งหมดนี้คือการดำเนินงานบางส่วนของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตลอดปี 2559 ในด้านการพัฒนาพื้นที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ตามภารกิจหลักที่มุ่งมั่นบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสม เป็นธรรม และคำนึงถึงการสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวมมากกว่ามูลค่า .
หมายเหตุ:เรียบเรียงจากรายงานประจำปี 2559 สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์