คดีรถหรูเลี่ยงภาษีสะดุดขาใหญ่ยื้อ
คดีรถจดประกอบเลี่ยงภาษีสะดุดขาใหญ่ลอบนำเข้ารถซุปเปอร์คาร์ ดื้อแพ่ง ไม่ยอมส่งมอบของกลาง อ้างผู้ใหญ่เคลียร์แล้วดีเอสไอจ้องตามยึดรถ
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2560 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงการสอบสวนคดีรถยนต์จดประกอบหลีกเลี่ยงภาษีว่า ดีเอสไอได้ทยอยแจ้งข้อกล่าวหากับผู้นำเข้ารถยนต์ที่ตรวจสอบพบหลักฐานชัดเจนว่าเป็นการลักลอบนำเข้าทั้งคัน แต่สำแดงเท็จเป็นรถจดประกอบ ซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวหาปลอมและใช้เอกสารปลอม รวมทั้งดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิด ในส่วนของการหลีกเลี่ยงภาษีได้ส่งเรื่องให้กรมศุลกากรประเมินภาษีที่ชำระไว้ไม่ครบถ้วน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการแจ้งผลกลับมา ทั้งนี้หากการประเมินภาษีมีความล่าช้าดีเอสไอก็จะไม่รอ แต่จะส่งสรุปสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องในคดีอาญา เพื่อไม่ให้คดียืดเยื้อ นอกจากนี้ยังพบการนำเข้ารถจำนวนหนึ่งหลีกเลี่ยงภาษี โดยนำเข้ามาแบบแยกชิ้นส่วนแต่ทำเอกสารปลอมตบตาเจ้าหน้าที่ว่าเป็นการนำเข้าอะไหล่รถยนต์
แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า สำหรับรถจดประกอบที่ดีเอสไอรับไว้ตรวจสอบมีจำนวน 7,123 คัน ในจำนวนนี้พบว่าเป็นการลักลอบนำเข้าทั้งคันจำนวนหลักร้อยคัน โดยผู้ครอบครองรถผิดกฎหมายหลีกเลี่ยงไม่ยอมส่งมอบรถของกลางและยังพบปัญหาการโอนขายเปลี่ยนมือ เปลี่ยนหมายเลขทะเบียน เพื่อให้ยุ่งยากต่อการตรวจสอบ โดยกลุ่มนี้เป็นรถหรูจำพวกเฟอร์รารี่ ปอร์เช่ เบนเล่ ซึ่งผู้ครอบครองเป็นผู้มีชื่อเสียงแม้จะมีหนังสือเรียกจากดีเอสให้ส่งมอบรถผิดกฎหมายเพื่อของกลางในคดี แต่ผู้ครอบครองก็จะอ้างว่าเคลียร์กับผู้ใหญ่แล้ว ส่งผลให้คดีมีความล่าช้า ดีเอสไออาจต้องไปตามยึดเป็นรายคัน
ส่วนรถยนต์แพนเธอร์-จากัวร์ ในความครอบครองของพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ที่ดีเอสไอส่งให้กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิตตรวจสอบประเมินภาษีขณะนี้ยังไม่มีการประสานแจ้งผลกลับมาเช่นกัน ดีเอสไอจึงไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้