เฟซบุ๊กรับลูก 'บิ๊กตู่' พร้อมปิดเพจ "หมิ่นสถาบัน-ลามก"
'เฟซบุ๊ก' รอคำสั่งศาล เพื่อปิด 131 เว็บเพจที่ผิดกฎหมายตามที่ไทยร้องขอ โดย กสทช. มั่นใจ ภายในเดือน พ.ค. จะสามารถปิดได้หมด ขณะที่ นายกฯ ยืนยัน ได้รับความร่วมมือที่ดีจากผู้เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีครบกำหนดการขอความร่วมมือ 'เฟซบุ๊ก (Facebook)' ในการปิดกั้น และลบเพจที่มีเนื้อหาที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 ว่า รัฐบาลไม่สามารถบังคับเฟซบุ๊กได้ เพียงแต่ขอความร่วมมือโดยตลอด และเพิ่งให้ความร่วมมือในช่วงนี้ ที่มีการปิดเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายกว่า 6,900 URL เหลือ 131 URL ซึ่งขณะนี้พยายามขอความร่วมมือกับรัฐบาลต่างประเทศ, ภาคเอกชน และคนที่รับผิดชอบโดยตรง คือ คนที่กำกับดูแลเว็บไซต์ในประเทศไทย ล้วนเป็นธุรกิจทั้งสิ้น ดังนั้น จึงต้องใช้คำสั่งศาลในการปิด
ด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ยังมีเว็บเพจ หรือ URL ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม ซึ่งส่วนใหญ่เป็น URL ของเฟซบุ๊ก จำนวน 131 URL ที่ยังไม่นำออก ดังนั้น กสทช. จึงประสานงานกับเฟซบุ๊ก โดยส่งหมายศาลให้ดำเนินการ
ล่าสุด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้ส่งหมายศาลเพิ่มเติมมาอีก 34 URL แต่ยังขาดหมายศาลอีก 97 URL ซึ่งกระทรวงดีอีจะส่งหมายศาลมาให้โดยเร็วที่สุด
นายฐากร กล่าวอีกว่า เฟซบุ๊กยืนยันจะดำเนินการให้ หากได้รับหมายศาลครบสมบูรณ์และเฟซบุ๊กมีกระบวนการอยู่แล้ว เพียงแต่ขณะนี้แจ้งว่า เอกสารที่ส่งมายังเป็นเพียงเลขที่ของหมายศาล จึงต้องขอเอกสารรายละเอียดหมายศาลฉบับจริง เพื่อให้ดำเนินการครบถ้วนตามกระบวนการของเฟซบุ๊กต่อไป
ส่วนการดำเนินการในอนาคตต่อไป จะดำเนินการ 2 ทาง คือ เมื่อกระทรวงดีอีได้รับหมายศาลแล้ว จะประสานตรงไปที่เฟซบุ๊ก ในขณะที่ กสทช. จะประสานงานตรงไปที่สมาคมไอเอสพี เพื่อให้ดำเนินการตามกระบวนการติดตามต่อไป ซึ่งจะดูว่า เมื่อเฟซบุ๊กได้รับหมายศาลแล้วจะดำเนินการให้อย่างไร ทั้งนี้ กสทช. คาดว่า ภายในสิ้นเดือน พ.ค. นี้ กระบวนการนำข้อมูลผิดกฎหมายจะสามารถดำเนินการได้ครบทั้งหมด
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เว็บเพจ หรือ URL ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม จนถูกออกหมายศาล 34 URL ส่วนใหญ่ทำผิดตามมาตรา 112 รวมถึงทำความผิดกระทบความมั่นคงและลามกอนาจาร