สั่งสอบอดีต หน.อุทยานพะงัน ปล่อยบุกรุก-ลอบตัดไม้
อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ สั่งสอบอดีตหัวหน้าอุทยานป่าเกาะพะงัน หลังตรวจสอบปล่อยพื้นที่ถูกบุกรุก ลักลอบตัดไม้ หากพบผิดจริง ดำเนินการขั้นเด็ดขาด ลั่น จากนี้ถ้าเจอในพื้นที่ใดอีก สั่งย้ายคนรับผิดชอบทันทีใน 24 ชม.
จากปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ส่งผลให้ 3 กรมหลักของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ต้องร่วมกันเร่งแก้ปัญหาทั้งการบุกรุกเข้าไปครอบครองพื้นที่ป่า และการออกเอกสารสิทธิครอบครองโดยมิชอบ รวมทั้งการลักลอบตัดไม้ของกลุ่มนายทุน โดยการตรวจสอบของกรมป่าไม้พบว่า มีการบุกรุกพื้นที่หลายจุด และดำเนินคดีไปแล้วบางส่วน นอกจากนี้เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2559 นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้เซ็นคำสั่งย้าย นายสุรชัย ท่าเทศ อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน ออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นหน่วยงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพียงหน่วยงานเดียวที่อยู่บนเกาะพะงัน และปล่อยให้มีการลักลอบบุกรุกและทำลายป่า
ล่าสุดวันที่ 11 พ.ค. 2560 เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ร่วมกับทหาร ร.15 พัน.1 สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครอง เข้ารื้อถอนทำลายพืชผลอาสินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะพะงัน บ้านท้องนาง หมู่ 5 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน ซึ่งเป็นที่ดินที่ถูกดำเนินคดี ลงวันที่ 3 ส.ค. 2559 คดีอาญาที่ 378/2559 ซึ่งก่อนนี้ ทางอำเภอได้สั่งการให้ผู้ที่บุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าดังกล่าวรื้อถอนให้เสร็จภายในวันที่ 31 มี.ค. 2560 แต่กลับไม่มีการรื้อถอน เจ้าหน้าที่จึงต้องเข้าดำเนินการ เป็นไปตามยุทธการทวงคืนผืนป่าเกาะพะงัน ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ จากการเปิดโปงการลักลอบตัดไม้ในป่าเกาะพะงัน ซึ่งชาวบ้านมีความสงสัยว่าจะมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่ดูแลโดยตรงเข้าไปมีส่วนรู้เห็นหรือไม่นั้น นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ปัญหาการลักลอบตัดไม้และบุกรุกพื้นที่ป่าเกาะพะงัน ล่าสุด ทั้ง 3 กรมได้ทำงานร่วมกัน ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้คงไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนรู้เห็นอย่างแน่นอน แต่ในอดีตที่ผ่านมาคงพูดไม่ได้ว่ามีหรือไม่ แต่หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นจริง และมีพยานหลักฐานที่จะเอาผิดได้ และจะไม่ยอมให้รับราชการต่อไปอย่างแน่นอน
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการครอบครองที่ดินบนเกาะพะงัน ซึ่งมีข้อสงสัยเรื่องเอกสารสิทธินั้น ทางกรมป่าไม้ประสานกับที่ดินอำเภอได้ข้อมูลมาว่า ที่ดินเอกสารสิทธิที่เป็นโฉนดบนเกาะพะงัน มีมากกว่า 8,000 แปลง เป็นพื้นที่กว่า 10,000 ไร่ เป็นเอกสารสิทธิแบบ น.ส. 3 ก. กว่า 1,000 แปลง เป็นเนื้อที่กว่า 10,000 ไร่ เป็น น.ส. 3 อีกประมาณ 1,000 กว่าไร่ และเป็น ส.ค. 1 อีก 76 แปลง ต้องตรวจสอบที่มาที่ไปของการออกเอกสารสิทธิ หากพบว่าเป็นการออกโดยมิชอบก็ต้องดำเนินการ แต่การดำเนินการอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ครอบครองได้มีโอกาสชี้แจงภายใน 30 วัน รวมทั้งการอุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนได้อีก
ด้าน อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า ภาพการบุกรุกตัดไม้ในเขตเตรียมการประกาศเป็นอุทยานฯ บนเกาะพะงันนั้น เป็นภาพที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งทางกรมอุทยานฯ ได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนในเรื่องนี้แล้ว เนื่องจากไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้ นอกจากนี้ มีคำสั่งย้ายหัวหน้าอุทยานฯ คนเก่าออกจากพื้นที่ไปแล้วด้วย รวมทั้งจะสอบสวนหาข้อเท็จจริง หากพบว่ามีส่วนรู้เห็น ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดอย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมา การลักลอบตัดไม้อาจจะเกิดจากการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ตอนนี้กระบวนการสอบสวนกำลังดำเนินการ ส่วนมาตรการต่อไป หากพบพื้นที่ไหนมีการบุกรุกหรือตัดไม้ ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ จะย้ายผู้รับผิดชอบในพื้นที่ภายใน 24 ชม.