ชาวบ้านป่าสัก-เวียงยอง ลำพูน ค้านโรงไฟฟ้าชีวมวล นายทุนรุกป่า ลามที่ทำกิน
กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต.ป่าสัก-เวียงยอง ลำพูน เดินหน้าคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล เหตุนายทุนรุกป่าสาธารณะลามถึงที่ทำกินชาวบ้านกว่า 1,000 ไร่ กังวลมลพิษทางอากาศและเสียง-กระทบน้ำบาดาล-มีการลักลอบตัดไม้ เผยข้อมูลไม่ผ่านประชาพิจารณ์ชุมชน ยื่นหนังสือจังหวัดหลายรอบหายเงียบ เตรียมรวบรวมรายชื่อ-ข้อมูล ขอความช่วยเหลือสภาทนายความ
เมื่อเร็วๆนี้ กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต.ป่าสัก-เวียงยอง จ.ลำพูน ได้คัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่ดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่ใกล้กับหมู่บ้าน สถานศึกษา ชาวบ้านเผยมีความกังวลกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ทั้งมลพิษทางอากาศ ทางเสียง อีกทั้งนายทุนรุกพื้นที่ป่าลามถึงพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน เพื่อเอื้อประโยชน์กับบริษัท สหโคเจน กรีน จำกัด โดยนำไม้ไปผลิตเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าชีวมวล
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากการที่บริษัท สหโคเจน กรีน จำกัด ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลขึ้นภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ฯ โดยไม่มีการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือผ่านการทำประชาคมแต่ละหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านไม่ได้รับความเป็นธรรมและได้ยื่นหนังสือคัดค้านการก่อสร้างต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหลายครั้ง แต่ไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด อีกทั้งการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลในกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้ากว่า 9.9 เมกกะวัตต์ ต้องใช้น้ำมากถึง 1,200 คิวบิกเมตรต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนมหาศาล จึงมีความกังวลว่าหากทางโรงงานมีการเจาะบ่อบาดาลที่ลึกกว่าบ่อของชาวบ้าน อาจเป็นผลทำให้เกิดแผ่นดินทรุดตัว อีกทั้งชาวบ้านไม่มีน้ำกินน้ำใช้ในที่สุด ประกอบกับโรงไฟฟ้าตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านเพียง 200 เมตรเท่านั้น อาจจะส่งผลกระทบด้านมลพิษทางอากาศและเสียง อีกทั้งตั้งข้อสังเกตว่าโรงไฟฟ้าชีวมวลมีกระบวนการผลิตไฟฟ้าที่ใช้วัตถุดิบจากไม้เป็นหลัก ซึ่งต้องใช้เศษไม้มากถึง 270 ตันต่อวัน อาจไม่เพียงพอในกระบวนการผลิต
"เราได้ยื่นหนังสือคัดค้านหลายครั้งแล้ว ม.ค.53 ที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการ จ.ลำพูน แต่ท่านรองผู้ว่าฯ รับเรื่องแทน มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องดังกล่าว แต่ล่าสุดยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ขณะที่บริษัทสหโคเจนได้ดำเนินการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลเสร็จไปแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ คาดอีก 2 เดือนข้างหน้าจะเปิดรับสมัครพนักงาน" นายภานุวัฒน์ วิชัยรัตน์ แกนนำชาวบ้าน กล่าว
ล่าสุดชาวบ้าน ต.ป่าสัก และ ต.เวียงยอง ได้รวบรวมรายชื่อและเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกว่า 1,000 คน เพื่อเดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการ จ.ลำพูนอีกครั้ง และกำลังปรึกษาสภาทนายความกรณีที่โรงไฟฟ้าชีวมวลดำเนินการสร้างโรงไฟฟ้าไปแล้ว และกรณีนายทุนทุนรุกพื้นที่ป่าสาธารณะลามถึงพื้นที่ทำกินของชาวบ้านกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูล.