ใครเป็นใคร? ขรก.-จนท.รัฐถูก ป.ป.ช.ฟันพันคดีทุจริต 11 จว.-ตร.เชียงใหม่รวยผิดปกติ
เปิดผลชี้มูลผิด ป.ป.ช. ฟันรวด 11 จังหวัด ขรก.-จนท.รัฐ ทั้งส่วนกลาง-ท้องถิ่น โดนเพียบ พันคดีทุจริต ตร.หญิง สภ.เชียงใหม่ โดนรวยผิดปกติ 15 ล้าน
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกอาการขยันเป็นพิเศษ เห็นได้จากการชี้มูลความผิดบรรดาผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐส่วนท้องถิ่น ทั้งคดีทุจริต และคดีปกปิดบัญชีทรัพย์สิน แจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ หรือร่ำรวยผิดปกติ เป็นจำนวนมาก
แม้บางครั้งจะเป็นเผยแพร่ผลงาน ‘เก่า’ ที่เคยดำเนินการไปแล้วเมื่อ 1-2 เดือนก่อนก็ตามที ?
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า สำนักงาน ป.ป.ช. เผยแพร่ผลงานชี้มูลความผิดบรรดาข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐ เพิ่มเติมอีกหลายราย ในพื้นที่ 11 จังหวัด สรุปได้ ดังนี้
1.ส่วนกลาง
กรณีร้องเรียนกล่าวหา นายอรัญ โสตถิพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิชาการรัฐสภา สถาบันพระปกเกล้า ว่าทำสัญญาจ้างบริษัท เทเลโทรล วัน จำกัด ออกแบบ ศึกษา และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระหว่างรัฐสภาและสถาบันพระปกเกล้าโดยไม่มีอำนาจ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นายอรัญ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่ มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123 ฐานทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับ หรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความหรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสารโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ฐานปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 มาตรา 265 และฐานใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิด ตามมาตรา 264 มาตรา 265 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตามมาตรา 268
2. จังหวัดชลบุรี : จำนวน 1 คดี
ร้องเรียนกล่าวหา รองศาสตราจารย์ ไพบูลย์ มากจันทร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก จังหวัดชลบุรี ว่าทำสัญญากู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อชำระหนี้ค่าก่อสร้างหอพักนักศึกษาในขณะที่ถูกสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า รองศาสตราจารย์ ไพบูลย์ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
3. จังหวัดปทุมธานี : จำนวน 2 คดี
3.1 ร้องเรียนกล่าวหา (1) นายสมบูรณ์ วงศ์ภักดี ผู้จัดการสาขาอาวุโส ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สาขารังสิต (2) นายศตวรรษ จิตราคนี ผู้จัดการด้านธุรกิจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สาขารังสิต (3) นายวิรัช เอี่ยมเตชะ ผู้จัดการด้านสินเชื่อ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สาขารังสิต (4) บริษัท ก.สยาม จำกัด (5). นายสมร โครวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ก.สยาม จำกัด (6) บริษัท เอ็ม.บี.อาร์. จำกัด (7) นายวรรณชัย อาศรมเกษร หรือนายเมธิวัจน์ เมธาเรื่องพงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็ม.บี.อาร์. จำกัด ว่ารับซื้อเอกสารการส่งออกภายใต้เลตเตอร์ออฟเครดิต (L/C) ซึ่งเป็นเอกสารปลอม หลีกเลี่ยงการทบทวนวงเงินสินเชื่อ และปิดบังผลการใช้วงเงินสินเชื่อที่ผิดปกติ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า (1) นายสมบูรณ์ และ (2) นายศตวรรษ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์การ บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วน นิติบุคคล หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น และฐานเป็นพนักงาน ปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และมาตรา 91
(3) นายวิรัช มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และฐานเป็นผู้สนับสนุนนายสมบูรณ์ และนายศตวรรษ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 และ มาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 มาตรา 90 และมาตรา 91
(4) บริษัท ก.สยาม จำกัด และ (5) นายสมร กรรมการผู้จัดการบริษัท ก.สยาม จำกัด และ (6) บริษัท เอ็ม.บี.อาร์ จำกัด มีมูลความผิดทางอาญาฐานใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 และฐานเป็นผู้สนับสนุนนายสมบูรณ์ และนายศตวรรษ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 มาตรา 90 และมาตรา 91
(7) นายวรรณชัย หรือนายเมธิวัจน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็ม.บี.อาร์ จำกัด มีมูลความผิดทางอาญาฐานปลอมเอกสารและฐานใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 และมาตรา 268 และฐานเป็นผู้สนับสนุนนายสมบูรณ์ และนายศตวรรษ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 มาตรา 90 และมาตรา 91
3.2 ร้องเรียนกล่าวหา สิบตำรวจตรี สุรพล เหมจันทร์ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ว่าจับกุมบุคคลในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วทำร้ายร่างกายและเรียกรับเงิน
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า สิบตำรวจตรี สุรพล มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 200 วรรคสอง
4. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ : จำนวน 1 คดี
ร้องเรียนกล่าวหา นายสมโรจน์ มงคลชาติ อัยการจังหวัดประจำกรม สำนักงานอัยการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าให้จำเลยเลี้ยงอาหาร และเรียกรับพระเครื่องจากจำเลย เพื่อแลกกับการไม่อุทธรณ์คดี
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นายสมโรจน์ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 201
5. จังหวัดอ่างทอง : จำนวน 1 คดี
ร้องเรียนกล่าวหา สิบเอก มานะ สุรวัตร ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลราชสถิตย์ อำเภอไชโย ว่ารับรองแบบประเมินบุคคลในการสมัครสอบคัดเลือกเพื่อเปลี่ยนสายงานเป็นเท็จ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า สิบเอก มานะ มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง
6. จังหวัดเชียงใหม่ : จำนวน 2 คดี
6.1 ร้องเรียนกล่าวหา พันตำรวจตรีหญิง ดารารัตน์ มูลเมือง หรือพันตำรวจโทหญิง ชัญญา ศรีสุคนธ์ สารวัตรฝ่ายอำนวยการ (การเงินและงบประมาณ) ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ว่าร่ำรวยผิดปกติ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า พันตำรวจตรีหญิง ดารารัตน์ หรือพันตำรวจโทหญิง ชัญญา ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ มูลค่า 15,527,342 บาท
6.2 ร้องเรียนกล่าวหา นายธรรมนูญ ธรรมรังษี สาธารณสุขอำเภอเชียงดาว ว่าเบียดบังเงินโครงการเร่งรัดการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นายธรรมนูญ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147
7. จังหวัดอุตรดิตถ์ : จำนวน 1 คดี
ร้องเรียนกล่าวหา (1) นายณรงค์ศักดิ์ สังข์ทอง เจ้าพนักงานปกครอง 7 (2) นางสาวนะธีหรือธีรยา ภิญโญ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโคน (3) นางดาวรุ่ง อินทฉิม หัวหน้าส่วนโยธา (4) นายประยุทธ ทับทิมเกิดประชาคมหมู่บ้าน (5) นายนิคม ศรีนวลอินทร์ ประชาคมหมู่บ้าน ว่าในฐานะคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาโครงการก่อสร้างถนนลาดยาง สายบ้านกระพั้ว – บ้านบึงปลาเน่า ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโคน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ไม่พิจารณาผู้เสนอราคาต่ำสุดเพื่อเอื้ออำนวยให้ผู้เสนอราคาสูงกว่าเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญา
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า (1) นายณรงค์ศักดิ์ (2) นางสาวนะธีหรือธีรยา และ (3) นางดาวรุ่ง มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 และมาตรา 12
(4) นายประยุทธ และ (5) นายนิคม มีมูลความผิดทางอาญาฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
8. จังหวัดกาฬสินธุ์ : จำนวน 1 คดี
ร้องเรียนกล่าวหา (1) นายไพฑูรย์ เทพศาสตรา ปลัดเทศบาลตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย (2) นายสุรสิทธิ์ ภูมิผักแว่น นายช่างโยธา เทศบาลตำบลหนองแปน (3) นายวิทยา จอมทรักษ์ เจ้าหน้าที่ธุรการ เทศบาลตำบลหนองแปน ว่ารับรองแบบรายงานการตรวจสอบคำขอรับเงินค่าเช่าบ้านและแบบขอเบิกเงินค่าเช่าบ้าน (แบบ 73 ก) ของตนเป็นเท็จ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า (1) นายไพฑูรย์ (2) นายสุรสิทธิ์ และ (3) นายวิทยา มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83
9. จังหวัดบุรีรัมย์ : จำนวน 1 คดี
ร้องเรียนกล่าวหา (1) นายสมนึก เฮงวัชรไพบูลย์ ป่าไม้จังหวัดบุรีรัมย์ (2) นายคัมภีร์หรือคำภีร์ สุดมี เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 ว่าเบิกจ่ายเงินค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราวรายวันงานเพาะชำกล้าไม้เป็นเท็จ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า (1) นายสมนึก มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง (2) นายคัมภีร์หรือคำภีร์ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 157 และมาตรา 161
10. จังหวัดอุดรธานี : จำนวน 1 คดี
ร้องเรียนกล่าวหา นายคำกาศ วงขีลี พนักงานปฏิบัติการทั่วไป 4 ที่ทำการไปรษณีย์เพ็ญ อำเภอเพ็ญ ว่าเรียกเก็บเงินค่าฝากส่งจากผู้ใช้บริการในอัตราที่สูงกว่าอัตราที่กำหนด แล้วนำเงินส่วนเกินไปเป็นประโยชน์สำหรับตนเอง
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่านายคำกาศ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
11. จังหวัดภูเก็ต : จำนวน 2 คดี
11.1 ร้องเรียนกล่าวหา นางสาวปราณีหรือกรรวี อายุพงศ์ เจ้าหน้าที่อาวุโสบริการลูกค้าธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาถนนเทพกระษัตรี ว่ายักยอกเงินในบัญชีเงินฝากของลูกค้า
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นางสาวปราณีหรือกรรวี มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และมาตรา 91
11.2 ร้องเรียนกล่าวหา นางขวัญนภา อัทธนันท์ พนักงานปฏิบัติการ 6 ธนาคารออมสิน สาขาป่าตอง อำเภอกะทู้ ว่าปลอมลายมือชื่อผู้ฝากเงินในใบถอนเงิน แล้วถอนเงินออกจากบัญชีผู้ฝากไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นางขวัญนภา มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือ รักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และมาตรา 91
อย่างไรก็ดีผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ต้องรอการพิจารณาของศาลต่อไป
อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ฟันอดีต ผอ.ไทยเดินเรือทะเลฯ-พวก ตั้ง บ.ตัวแทนมิชอบ-รับรองค่าระวางเท็จ