สตง.สั่งแล้ว ให้ทบทวนโครงการบ้านธนารักษ์ พหลฯ 11
ผู้ว่าการ สตง.ทำหนังสือแจ้งอธิบดีกรมธนารักษ์ สั่งให้ทบทวนโครงการก่อสร้างบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ซอยพหลโยธิน 11 แล้ว หลังพบข้อพิรุธหลายประเด็น ทั้งความเหมาะสมของพื้นที่ในการก่อสร้าง การเปิดให้โอนสิทธิผู้รับเหมา
สืบเนื่องจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มอนุรักษ์พญาไท และประชาชนในพื้นที่ ให้ตรวจสอบผลกระทบการดำเนินโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ซอยพหลโยธิน 11 ของกรมธนารักษ์ที่มีต่อชุมชน รวมถึงให้ตรวจสอบความถูกต้องกรณีกรมธนารักษ์ อนุญาตให้บริษัทปักกิ่ง เออร์บัน คอนสตรัคชั่น ยาไถ่ (ไทย) คอนสตรัคชัน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะอันดับ 1 โอนสิทธิการลงนามในสัญญาและการปฏิบัติตามเงื่อนไขการก่อสร้างไปให้บริษัท จูโน่ ปาร์ค จำกัด นั้น
นายพิสิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ สตง.ได้พิจารณาเรื่องร้องเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้มีการลงนามหนังสือสำนักงานการตรวจเงินแผ่น (สตง.) ที่ ตผ 0021/1887 ลงวันที่ 2 พ.ค.60 และได้ส่งถึง นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ วันที่ 3 พ.ค.60 เพื่อขอให้ทบทวนการดำเนินโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ แปลงเลขที่ กท.2615 หรือย่านซอยพหลโยธิน 11 กรุงเทพมหานคร พร้อมกับให้กรมธนารักษ์เร่งพิจารณาความเห็นจากสตง. และเมื่อได้ผลแล้วให้แจ้ง สตง.รับทราบเป็นการด่วน
ทั้งนี้ การสั่งให้มีการทบทวนโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ และเกิดความคุ้มค่าในทางเศรษฐกิจ รวมถึงเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และแบบของทางราชการโดยเคร่งครัด ตลอดจนให้คำนึงถึงสภาพพื้นที่ในการดำเนินโครงการว่าสอดคดล้องกับวิถีชุมชนในบริเวณใกล้เคียง
นายพิสิษฐ์กล่าวว่า สตง.ได้ให้สำนักตรวจสอบการบริหารพัสดุและสืบสวนที่ 5 ตรวจสอบข้อเท็จดังกล่าวอย่างรอบคอบแล้ว เห็นว่าโครงการดังกล่าวว่ามีประเด็นที่อาจทำให้รัฐเกิดความเสียหายหลายเรื่อง เช่น ความรอบการกำหนดเงื่อนไขประกวดโครงการ การขาดความเชี่ยวชาญของบริษัทจูโน่ ปาร์ค ที่ได้รับการโอนสิทธิการก่อสร้าง รวมถึงประเด็นความเหมาะสมของการใช้พื้นที่ในโครงการ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อชุมชน